ผู้ใหญ่ที่เป็นโรคไอกรนอาจจะไม่มีอาการไอเสียงก้องก็ได้
อาการไอเสียงก้องถือเป็นอาการที่เป็นลักษณะเฉพาะสำหรับโรคไอกรน โรคนี้มักพบในเด็กแต่ในปัจจุบันพบว่ามีวัยรุ่นและผู้ใหญ่เป็นโรคนี้มากขึ้นเรื่อยๆ ผู้ที่เป็นโรคไอกรนมักมีอาการไอเสียงก้องเนื่องจากพวกเขาเหนื่อยจากการไออย่างรุนแรงเป็นเวลาหลายๆ ครั้งติดต่อกัน
โรคไอกรนเกิดจากอะไร?
โรคไอกรนเกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่ชื่อ Bordetella pertussis เมื่อ 70 ปีก่อนเราสามารถผลิตวัคซีนที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคนี้ได้ทำให้มีผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตจากโรคนี้ลดลงอย่างมาก แต่ในช่วงหลังนี้พบว่าโรคนี้กลับมาพบใหม่อีกครั้งโดยไม่ทราบสาเหตุ (บางคนเชื่อว่าวัคซีนนั้นมีประสิทธิภาพลดลงเพื่อทำให้มีผลข้างเคียงหลังการฉีดยาลดลง) นอกจากนั้นโรคนี้ก็ยังมีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมอีกด้วย
ยุค New Normal สุขภาพ เป็นสิ่งที่ทุกคนใส่ใจมากยิ่งขึ้น
ถ้าเริ่มมีอาการเจ็บคอ คันคอ ระคายคอ หรือมีเสมหะ เหนียวคอ มาดู 5 วิธี บรรเทาง่ายๆ ได้ผล อย่ารอให้เป็นหนัก
บทความที่ตีพิมพ์ในวารสาร Journal of the American Medical Association (JAMA) ได้ระบุว่าโรคไอกรนในช่วงยุคก่อนที่จะมีวัคซีนนั้นเป็นโรคที่พบเฉพาะในเด็ก แต่ในปัจจุบันพบว่าผู้ป่วยประมาณครึ่งหนึ่งนั้นเป็นวัยรุ่นและผู้ใหญ่
นอกจากนั้นวัยรุ่นและผู้ใหญ่ที่เป็นโรคนี้มักจะไม่มีอาการไอเสียงก้องที่เป็นลักษณะเฉพาะของโรคนี้ รวมถึงอาการอื่นๆ เช่นอาเจียนหลังไอ แต่มักพบว่ามีอาการไออย่างหนักเท่านั้น ซึ่งอาการดังกล่าวนั้นก็สามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ
ดังนั้นหากคุณคิดว่าตนเองกำลังมีอาการไออย่างรุนแรงจนทนไม่ไหว คุณอาจจะเป็นโรคไอกรนได้ มีการคาดการณ์ว่าผู้ป่วยที่มีอาการไอเรื้อรังประมาณ 10-30% นั้นอาจเกิดจากโรคไอกรน
และการที่คุณไม่ได้มีอาการไอเสียงก้องนั้นก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะไม่ได้เป็นโรคไอกรน แพทย์อาจพิจารณาส่งตรวจเพาะเชื้อ Bordetella pertussis จากสิ่งส่งตรวจในจมูกและลำคอหากสงสัยว่าเป็นโรคนี้
อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญก็คือวัคซีนป้องกันโรคไอกรนนั้นไม่ใช่วัคซีนเฉพาะสำหรับเด็ก แต่วัยรุ่นและผู้ใหญ่ต่างก็ต้องได้รับวัคซีนนี้เช่นกันร่วมกับวัคซีนป้องกันโรคบาดทะยักและคอตีบ
เนื่องจากประสิทธิภาพของวัคซีนอาจลดลงเมื่อเวลาผ่านไป โดยแนะนำให้ฉีดซ้ำทุกๆ 10 ปี โดยเฉพาะหากในบ้านของคุณมีเด็กเล็กหรือทารกแรกเกิด