เมื่อพูดถึงสารกันบูด หลายคนคงรู้จักมันในฐานะสารอันตรายที่ไม่ควรรับประทาน ถึงแม้สารกันบูดจะมีข้อดีในการช่วยยืดอายุของอาหารให้เก็บไว้ได้นานมากขึ้นก็ตาม
เรามาดูกันว่า สารกันบูดคืออะไร อยู่ในอาหารชนิดใดบ้าง เมื่อรับประทานเข้าไปแล้วมันส่งผลกระทบต่อร่างกายของเราบ้าง
ตรวจมะเร็งทั่วไปวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 340 บาท ลดสูงสุด 64%
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ความหมายของสารกันบูด
สารกันบูด (Preservatives) หรือเรียกอีกชื่อว่า “วัตถุกันเสีย” เป็นสารช่วยถนอมอาหาร ชะลอการเน่าเสียโดยป้องกันการเติบโตของเชื้อรา หรือยีสต์ และยืดอายุของอาหารให้เก็บได้นานยิ่งขึ้น เช่น
- น้ำผลไม้ หากไม่ใส่สารกันบูด และแช่ตู้เย็นไว้ก็จะอยู่ได้ประมาณ 3-5 วัน แต่หากใส่สารกันบูดก็จะเก็บไว้ได้นานถึงประมาณ 1-2 สัปดาห์
- เนื้อสัตว์ เช่น ไส้กรอก กุนเชียง เบคอน ปูอัด หากไม่ใส่สารกันบูด เพียงเก็บไว้ 1-2 คืน อาหารก็จะเสีย เริ่มมีรสชาติเปรี้ยว แต่หากใส่สารกันบูด และเก็บไว้ในตู้เย็น ก็สามารถเก็บไว้ได้นานขึ้นประมาณ 2 สัปดาห์
อาหารที่มักใส่สารกันบูดเพื่อยืดอายุอาหารให้เก็บรักษาไว้ได้นาน ได้แก่
- น้ำผลไม้
- น้ำอัดลม
- เส้นก๋วยเตี๋ยว
- ผลไม้แช่อิ่ม
- อาหารกระป๋อง
- ขนมปัง
- เบเกอรี
- บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป
- เครื่องแกง
- ซอสปรุงรส
- น้ำสลัด
- ผลิตภัณฑ์แยมผลไม้ ผลิตภัณฑ์เนยถั่ว เยลลี่
- ผักดอง
- เนื้อสัตว์แปรรูป เช่น แฮม เบคอน ไส้กรอก ลูกชิ้น ปูอัด กุนเชียง
ประเภทของสารกันบูด
สารกันบูดสามารถแจกแจงออกได้ 4 ประเภทใหญ่ๆ ตามประกาศของกองควบคุมอาหาร สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ซึ่งได้แก่
1. สารกันบูดประเภทกรดอ่อน และเกลือของกรดอ่อน (Acid and its salts)
จัดเป็นประเภทของสารกันบูดที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะละลายน้ำได้ดี ไม่ทำให้รสชาติอาหารเปลี่ยนไป ช่วยป้องกันการเจริญเติบโตของเชื้อรา หรือยีสต์ได้ดี และเป็นพิษต่อร่างกายน้อยที่สุด
สารเคมีที่จัดเป็นสารกันบูดประเภทกรดอ่อน ได้แก่
- กรดเบนโซอิก (Benzene carboxylic acid) มีสูตรทางเคมี คือ C6H5COOH
- กรดซอร์บิก (Sorbic acid) มีสูตรทางเคมี คือ C6H8O2
- กรดโพรพิโอนิก (Propionic acid) มีสูตรทางเคมี คือ C3H6O2
- กรดอะซิติก (Acetic acid) มีสูตรทางเคมี คือ CH3COOH
ส่วนสารเคมีที่จัดเป็นสารกันบูดประเภทเกลือของกรดอ่อน ได้แก่
ตรวจมะเร็งทั่วไปวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 340 บาท ลดสูงสุด 64%
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
- โซเดียมซอร์เบต (Sodium sorbate) มีสูตรทางเคมี คือ C6H7NaO2
- โพแทสเซียมซอร์เบต (Potasium sorbate) มีสูตรทางเคมี คือ C6H7KO2
- โซเดียมเบนโซเอต (Sodium benzoate) มีสูตรทางเคมี คือ NaC7H5O2
- โพแทสเซียมเบนโซเอต (Potassium benzoate) มีสูตรทางเคมี คือ C7H5KO2
- โซเดียมอะซิเตท (Sodium Acetate) มีสูตรทางเคมี คือ CH3COONa
ประเภทของอาหารที่ได้รับอนุญาตให้ใส่สารกันบูดประเภทกรดอ่อน และเกลือกรดอ่อน ได้แก่
- เครื่องดื่มประเภทน้ำหวาน น้ำผลไม้ น้ำอัดลม
- อาหารรสหวาน เช่น ไอศกรีม โยเกิร์ตปรุงแต่งรส พุดดิ้ง
- อาหารประเภทขนมปัง เบเกอรี
- เครื่องแกง
- เครื่องปรุงรสสำเร็จรูป
- ผลิตภัณฑ์แยม ผลิตภัณฑ์เนยถั่ว ผลไม้กวน
- ผักผลไม้ดอง
เพราะสารกันบูดประเภทนี้ได้รับความนิยมในการใส่ลงไปในอาหารที่หลากหลาย โดยเฉพาะกรดเบนโซอิก ทางกระทรวงสาธารณสุขจึงกำหนดให้ผู้ประกอบการใส่สารกันบูดชนิดกรดเบนโซอิกในอาหารแต่ละประเภทได้ไม่เท่ากัน ดังนี้
- อาหารประเภทแยม เยลลี่ ผลไม้กวน ผักผลไม้ดอง ใส่ได้ไม่เกิน 1,000 มิลลิกรัมต่ออาหาร 1 กิโลกรัม
- อาหารประเภทขนมหวานที่ทำจากนม เช่น ไอศกรีม โยเกิร์ต ใส่ได้ไม่เกิน 1,000 มิลลิกรัมต่ออาหาร 1 กิโลกรัม
- อาหารประเภทเส้นก๋วยเตี๋ยว ใส่ได้ไม่เกิน 1,000 มิลลิกรัมต่ออาหาร 1 กิโลกรัม
- ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม เช่น น้ำหวาน น้ำผลไม้ น้ำอัดลม ใส่ได้ไม่เกิน 200 มิลลิกรัมต่ออาหาร 1 กิโลกรัม
ถึงแม้สารกันบูดประเภทกรดอ่อน และเกลือกรดอ่อนจะเป็นพิษต่อร่างกายน้อย และโดยปกติสารกันบูดประเภทนี้ก็จะขับออกมาจากร่างกายในรูปของปัสสาวะ แต่หากรับประทานมากเกินไป ก็จะทำให้เกิดอาการคลื่นไส้อาเจียน ทำให้ตับกับไตทำงานหนัก จนพิการ หรือไตวายได้
2. สารกันบูดประเภทสารไนเตรท และสารไนไตรท์ (Nitrate and Nitrite)
หรืออีกชื่อที่คุ้นหูกว่าก็คือ “ดินประสิว” หรือชื่อทางเคมี คือ “สารโพแทสเซียมไนเตรท (Potassium nitrate) สูตรทางเคมี คือ KNO3 เป็นอีกสารกันบูดที่ได้รับความนิยมในอาหารประเภทเนื้อสัตว์แปรรูป ไม่ว่าจะเป็นเบคอน กุนเชียง แฮม ไส้กรอก ปลารมควัน อาหารกระป๋อง
นอกจากนี้สารกันบูดประเภทไนเตรทยังสามารถเกิดขึ้นได้เองตามธรรมชาติด้วย ผ่านอาหารที่มีสารเอมีน (Amines) เช่น ปลาหมึก หอย เมื่อนำไปปิ้งย่าง สารเอมีนในอาหารชนิดนี้จะทำปฏิกิริยากับไนโตรเจนในอากาศ และทำให้เกิดสารไนโตรซามีน (Nitrosamine) ซึ่งเป็นสารกันบูดอีกชนิดนั่นเอง
ด้วยประเภทของอาหารที่มีดินประสิวเจือปนอยู่มักเป็นที่นิยมในคนไทย และยังเป็นอาหารที่เรามักรับประทานอยู่เรื่อยๆ ในชีวิตประจำวัน จึงมีความเสี่ยงที่ร่างกายอาจได้รับสารกันบูดชนิดนี้เข้าไปมากเกินขนาด จนทำให้เกิดอาการเจ็บป่วยได้
โดยทางกระทรวงสาธารณสุขได้กำหนดให้อาหาร หรือผลิตภัณฑ์เนื้อหมักสามารถใช้สารกันบูดประเภทสารไนเตรทได้ไม่เกิน 500 มิลลิกรัมต่อ 1 กิโลกรัมอาหาร ส่วนสารไนไตรท์กำหนดให้ใช้ได้ไม่เกิน 125 มิลลิกรัมต่อ 1 กิโลกรัมอาหาร
ตรวจมะเร็งทั่วไปวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 340 บาท ลดสูงสุด 64%
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ผลกระทบของร่างกายเมื่อรับประทานสารกันบูดประเภทสารไนเตท และสารไนไตรท์มากเกินไป จะมีอาการแสดงต่อไปนี้
- ปวดศีรษะ
- มีอาการเซื่องซึม
- อ่อนเพลีย ง่วงนอนง่าย
- กล้ามเนื้อหดเกร็ง
- คลื่นไส้ อาเจียน
- ท้องร่วง
- อุจจาระเป็นเลือด
นอกจากอาการเจ็บป่วยที่กล่าวไปข้างต้น การสะสมของสารกันบูดประเภทนี้อยู่ในร่างกายเป็นปริมาณมาก จะเพิ่มความเสี่ยงทำให้เป็นโรคมะเร็งหลอดอาหาร มะเร็งปอด มะเร็งตับ หรือมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้
หากคุณเป็นผู้ที่ชื่นชอบการรับประทานอาหารที่มักมีส่วนผสมของสารกันบูด เมื่อได้ทราบผลข้างเคียงจากสารอันตรายเหล่านี้แล้ว ก็อย่าลืมรีบหาเวลาไปตรวจสุขภาพ ตรวจตับ หรือตรวจไต ตรวจหาความเสี่ยงมะเร็งกันด้วย
เพราะเป็นไปได้ว่า สารกันบูดที่รับประทานไปก่อนหน้านี้อาจเข้าไปสะสมจนเริ่มสร้างความเสียหายให้กับอวัยวะหลายส่วนแล้ว
3. สารกันบูดประเภทสารซัลไฟต์ และสารซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (Sulfites and sulfur dioxide)
เรียกได้อีกชื่อว่า “กรดกำมะถัน” มีสูตรทางเคมี คือ SO2 เป็นสารกันบูดที่ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อรา ยีสต์ และแบคทีเรีย
สารเคมีที่อยู่ในกลุ่มสารกันบูดประเภทนี้ จะได้แก่
- โซเดียมซัลไฟต์ (Sodium sulfite) มีสูตรทางเคมี คือ Na2SO3
- โซเดียมเมตาไบซัลไฟต์ (Sodium metabisulfite) มีสูตรทางเคมี คือ Na2S2O5
- แคลเซียมไบซัลไฟต์ (Calcium bisulfite) มีสูตรทางเคมี คือ CaH2O6S2
สารกันบูดประเภทซัลไฟต์ และสารซัลเฟอร์ไดออกไซต์นิยมใช้ในอาหารประเภทหมักดอง และอาหารกระป๋อง เช่น
- ผลไม้ดอง
- ผลไม้แช่อิ่ม
- ผลไม้กวน
- ผลไม้แห้ง
- น้ำเชื่อม
- อาหารแช่แข็ง
- เส้นก๋วยเตี๋ยว
การรับประทานอาหารที่มีสารกันบูดประเภทซัลไฟต์มากเกินไป ก็ย่อมส่งผลเสียต่อร่างกายไม่ต่างจากสารกันบูดอีก 2 ประเภทที่ได้กล่าวไปข้างต้น โดยอาการหลักๆ ที่เกิดขึ้นเมื่อรับประทานอาหารที่มีสารกันบูดมากเกินไป ได้แก่
- วิงเวียนศีษะ
- คลื่นไส้ อาเจียน
- เหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย
- หายใจไม่สะดวก
- ความดันโลหิตต่ำลง
- ปวดท้อง
- ท้องเสีย ท้องร่วง
ความรุนแรงของสารกันบูดประเภทซัลไฟต์นั้นร้ายแรงมากถึงขั้นทำให้เสียชีวิตได้ ก่อนรับประทานอาหารทุกชนิด คุณจึงควรตรวจสอบฉลากอาหารให้แน่ใจเสียก่อนว่า มีสารกันบูดชนิดนี้หรือไม่ หากมี ก็ไม่ควรรับประทานอาหารดังกล่าวบ่อยๆ หรือทางที่ดี ก็ควรหลีกเลี่ยงไม่รับประทานเลยจะดีที่สุด
4. สารกันบูดประเภทพาราเบน
เป็นอีกชนิดของสารกันบูดที่ไม่ค่อยมีใครรู้จักนัก โดยมีฤทธิ์ช่วยกำจัดแบคทีเรียในอาหารได้ดี ลดโอกาสการเกิดเชื้อราในอาหารด้วย โดยสารเคมีที่อยู่ในประเภทสารกันบูดพาราเบน ได้แก่
- สารโพรพิลพาราเบน (Propylparaben) มีสูตรทางเคมี คือ C10H12O3
- สารเมทิลพาราเบน (Methylparaben) มีสูตรทางเคมี คือ C8H8O3
สารกันบูดประเภทพาราเบนมักใช้ในอาหารรสหวานอย่างแยม เยลลี่ เครื่องดื่มรสหวาน น้ำผลไม้
การรับประทานอาหารที่มีสารกันบูดประเภทพาราเบนมากเกินไปจะส่งผลให้เกิดอาการเจ็บป่วยไม่ต่างจากสารกันบูดประเภทอื่นนัก นั่นคือ คลื่นไส้อาเจียน วิงเวียนศีรษะ ปวดท้อง และท้องเสีย
วิธีรับประทานอาหารที่มีสารกันบูดอย่างปลอดภัย
เพราะอาหารหลายชนิดรอบตัวเรามีสารกันบูดเป็นส่วนประกอบ ทำให้หลายครั้งก็ยากที่จะหลีกเลี่ยงอาหารเหล่านี้ได้ แต่คุณสามารถทำตามคำแนะนำต่อไปนี้ เพื่อให้ร่างกายได้รับสารกันบูดเข้าไปน้อยที่สุด
- ปรุงอาหารรับประทานเอง โดยใช้วัตถุดิบที่สด สะอาด มาจากแหล่งธรรมชาติ หรือซื้อจากแหล่งที่ไม่มีการเติมสารเคมี หรือสารกันบูดลงไป
- ก่อนซื้ออาหารทุกชนิด ให้อ่านฉลากเพื่อดูปริมาณ และชนิดของสารกันบูดเสียก่อน ทางที่ดีให้เลือกซื้ออาหารที่มีฉลากเขียนไว้ว่า “ไม่ใช้วัตถุกันเสีย”
- หากจำเป็นต้องซื้ออาหารที่มีฉลากเขียนว่า “ใช้วัตถุกันเสีย” ก็ควรรับประทานให้น้อยที่สุด
- เลือกผลิตภัณฑ์อาหารมีเครื่องหมายขององค์การอาหาร และยากำกับอยู่ด้วย เช่น อาหารกระป๋อง
- หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่เสี่ยงมีสารกันบูดมากเป็นพิเศษ เช่น ไส้กรอก แฮม กุนเชียง หมูยอ แหนม อาหารหมักดอง อาหารกระป๋อง
อาหารที่มีสารกันบูดอาจให้รสชาติอร่อย หรือทำให้คุณสามารถกักเก็บอาหารได้นานขึ้น แต่ก็แลกมาด้วยผลกระทบด้านสุขภาพที่ไม่คุ้มค่ากัน
ทางที่ดีคุณควรรับประทานอาหารที่ปรุงด้วยวัตถุดิบที่ปรุงสด ใหม่ หรือที่มีวางจำหน่ายตามฤดูกาล ยิ่งหากไร้สารเคมีได้ยิ่งดี เพื่อผลดีต่อสุขภาพในระยะยาว และยังทำให้ได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์มากกว่าด้วย
เปรียบเทียบราคาและแพ็กเกจตรวจมะเร็งทั่วไป จากคลินิกและโรงพยาบาลใกล้คุณ และไม่พลาดทุกอัปเดตเรื่องสุขภาพและโปรโมชั่นเมื่อกดดาวน์โหลดแอป iOS และ Android