ปฏิเสธไม่ได้ว่า ปัจจุบันข้อมูลข่าวสารทางโซเชียลมีเดีย นับว่ามีอิทธิพลต่อคนส่วนใหญ่มากยิ่งขึ้น ซึ่งไม่ได้มีเพียงข่าวสารทั่วไปหรือความบันเทิงเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงความรู้สุขภาพ ซึ่งกำลังเป็นประเด็นที่คนให้ความสนใจ มีการพูดคุยและแลกเปลี่ยนข้อมูลกันอย่างแพร่หลาย ยิ่งในช่วงปีที่ผ่านมา การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ยิ่งกระตุ้นให้คนรับข้อมูลข่าวสารด้านสุขภาพผ่านโซเชียลมีเดียมากยิ่งขึ้น จนกลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนความรู้ด้านสุขภาพในยุคปัจจุบัน เพราะอะไรโซเชียลมีเดียจึงมีอิทธิพลมากขนาดนี้ HD.co.th จะมาถอดรหัสให้ทราบ
- เข้าถึงง่าย สะดวก รวดเร็ว: ข้อนี้คือปัจจัยอันดับต้นๆ ที่ทำให้คนหันมารับข้อมูลข่าวสารจากโซเชียลมีเดียมากกว่าช่องทางอื่นๆ เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 ที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ทำให้คนต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อจะได้รับมือและปรับตัวได้ทัน ซึ่งโซเชียลมีเดียตอบโจทย์มากที่สุด เพียงแค่เปิดสมาร์ทโฟน เสิร์ฟหาข้อมูล หรือเข้า Facebook Twitter ก็สามารถรับข่าวสารได้ทันที
- แลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารได้ Real-Time: หัวใจสำคัญอีกข้อหนึ่งคือ รูปแบบการให้ข้อมูลของโซเชียลมีเดียนั้นเป็นการสื่อสารแบบ 2 ทาง สามารถพูดคุย แสดงความคิดเห็น หรือสื่อสารกับคนอื่นๆ ในสังคมออนไลน์ได้แบบ Real-time ทำให้คนรู้สึกว่าตัวเองมีส่วนร่วมหรือเป็นส่วนหนึ่งของประเด็นนั้นๆ มากยิ่งขึ้น จึงเลือกที่จะรับข้อมูลข่าวสารผ่านช่องทางนี้มากกว่าช่องทางอื่นๆ
- มีเครื่องมือที่ช่วยให้ข่าวสารกระจายได้อย่างรวดเร็ว: การแชร์ ติดแฮชแทก หรือฟีเจอร์ต่างๆ บนแพลทฟอร์มนั้นๆ หรือการใช้อินฟลูเอนเซอร์ เป็นเครื่องมือที่ทำให้หัวข้อที่กำลังพูดถึง กลายเป็นกระแสหรือเกิดการวิพากษ์วิจารณ์ประเด็นเหล่านั้นเป็นวงกว้างได้ง่ายยิ่งขึ้น
- แหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือมีมากขึ้น: ในอดีตหลายคนมักคิดว่า การรับข้อมูลจากโซเชียลมีเดียไม่ค่อยน่าเชื่อถือมากนัก แต่ปัจจุบันสถานพยาบาลชั้นนำหลายๆ แห่ง ก็เริ่มหันมาให้ความสำคัญกับการเผยแพร่ข้อมูลสุขภาพผ่านโซเชียลมีเดียมากยิ่งขึ้น มีการใช้แพลทฟอร์มใหม่ๆ ที่เข้าถึงคนได้ง่ายและสะดวก เช่น Facebook Line หรือ Twitter ในการส่งต่อข่าวสาร หรือปลุกกระแสสังคม ซึ่งข้อมูลโดยส่วนใหญ่จะผ่านการคัดกรองและตรวจสอบความถูกต้องมาแล้ว จึงมั่นใจได้ว่าสามารถเชื่อถือข้อมูลนั้นๆ ได้
โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ เป็นอีกหนึ่งสถานพยาบาลที่ให้ความสำคัญกับสุขภาพของคนไทย ที่มีการสร้างบทสนทนาด้านสุขภาพบนสื่อโซเชียลมีเดียหลากหลายช่องทาง และทำมาอย่างต่อเนื่อง กระทั่งในปี 2021 นี้ ประสบความสำเร็จได้รับรางวัลจากแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียชื่อดังอย่าง Twitter
รางวัล Best Campaign for Driving Positive Change in Society ตัวชี้วัดความสำเร็จในฐานะผู้นำสื่อด้านสุขภาพของโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์
นายธีรพล อำไพ ผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายการตลาดโซเชียลมีเดียโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ กล่าวว่า “โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับรางวัล Best Campaign for Driving Positive Change in Society จากการประกาศรางวัล #BestOfTweets 2021 ด้วยสถานการณ์ COVID-19 ทำให้คนหันมาสนใจด้านสุขภาพมากขึ้น ทวิตเตอร์จึงเป็นหนึ่งในเครื่องมือทางการตลาดที่ช่วยสร้างการรับรู้แบบเรียลไทม์และส่งเสริมการสนทนาได้มากที่สุด โดยทางโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ซึ่งเป็นผู้สร้าง Health Literacy จึงเล็งเห็นและให้ความสำคัญกับช่องทางนี้อย่างต่อเนื่อง ผ่านการนำเสนอแคมเปญ #เราเลือกได้ เพื่อจะสร้างพลังบวกให้กับสังคมไทยในวิกฤตการณ์นี้ และส่งต่อความเชื่อที่ว่า คุณไม่ได้สู้อยู่เพียงคนเดียว"
แคมเปญ #เราเลือกได้ นำเสนอผ่านคลิปวีดีโอเรื่องราวของพยาธิแพทย์หญิง (Pathologist) ท่านหนึ่งซึ่งทำหน้าที่ตรวจดูสไลด์ชิ้นเนื้อในห้องปฏิบัติการเพื่อวินิจฉัยโรคมะเร็งให้กับผู้ป่วย จนกระทั่งวันหนึ่งเธอพบว่า ตนเองป่วยเป็นโรคมะเร็งและต้องนั่งดูสไลด์ชิ้นเนื้อของตนเอง
สุดท้ายแล้ว เราไม่สามารถเลือกที่จะไม่เป็นโรคมะเร็งได้ แต่สามารถเลือกสถานที่รักษา ผู้ดูแล วิธีรักษาที่ดีที่สุดได้ เพื่อให้โรคมะเร็งที่เกิดขึ้นนั้นไม่ใช่วาระสุดท้ายของชีวิต และเรายังสามารถกลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้ง เพื่อส่งต่อความหวังและใช้ความเชี่ยวชาญในฐานะพยาธิแพทย์เพื่อรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งท่านอื่นต่อไปได้
โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ได้ใช้คลิปวีดีโอนี้ร่วมกับแฮชแท็ก #เราเลือกได้ ในการสร้างแรงบันดาลใจต่อสาธารณชนในช่วงที่เชื้อไวรัส COVID-19 กำลังระบาดอย่างหนัก และประสบความสำเร็จจนได้รับรางวัล Best Campaign for Driving Positive Change in Society จากการประกาศรางวัล Best of Tweets 2021
คุณธีรพล อำไพ Senior Manager, Social Media Marketing ของโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์กล่าวถึงเหตุผลที่เลือกทำแคมเปญนี้ผ่านทางแพลตฟอร์ม Twitter ว่า เพราะเป็นสื่อที่มีความ Real-Time หรือทันต่อกระแสสังคมมากที่สุด ซึ่งจะช่วยสร้างแรงบันดาลใจในช่วงที่เกิดโรคระบาดอย่างหนักในปีนี้ได้อย่างต่อเนื่อง โดยผลลัพธ์หลังจากปล่อยคลิปวีดีโอประกอบแคมเปญออกไป มียอดผู้เข้าชมคลิปสูงถึง 1.2 ล้านวิว
โดยทำผ่าน 3 ขั้นตอนซึ่งเป็นสูตรของแคมเปญที่ประสบความสำเร็จบน Twitter แนะนำโดย MediaDonuts
1. Tease: การเริ่มสร้างบทสนทนา เป็นการชวนผู้ใช้ทวิตเตอร์คุย ก่อนเตรียมส่งต่อข้อมูลที่ต้องการ
2. Reveal: เปิดตัวสินค้า หรือหัวข้อที่เราต้องการจะพูดถึง ซึ่งบทสนทนาที่เคยสร้างไว้จะเป็นตัวช่วยเชื่อมให้ผู้คนเข้ามามีส่วนร่วมในการเปิดตัวมากยิ่งขึ้น
3. Reinforce:ชวนผู้คนบนทวิตเตอร์พูดคุยอย่างต่อเนื่อง ไม่ให้บทสนทนาขาดตอน เพื่อเป็นการสร้างการจดจำ
นอกจากนี้โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ยังใช้ 11 จาก 14 ฟีเจอร์ ของ Twitter ร่วมกับการใช้อินฟลูเอนเซอร์ 30 คน ในการผลักดันแคมเปญนี้ให้ประสบความสำเร็จ
“เราขอยกให้ Twitter ซึ่งเราได้มีการเพิ่มยอดผู้ติดตามรวมทั้ง Engagement อย่างต่อเนื่องได้รับความช่วยเหลือเป็นอย่างดีจากทาง Mediadonuts จนกลายเป็น Twitter ของโรงพยาบาลที่มีผู้ติดตามมากที่สุดในประเทศไทย โดยเป็นที่แรกและที่เดียวที่มียอดผู้ติดตามเกิน 200,000 คน และยังได้รับการรับรอง account อย่างเป็นทางการจากทาง twitter อีกด้วย อยู่ใน Top 5 Twitter โรงพยาบาลที่มีผู้ติดตามมากที่สุดในโลก ซึ่งใช้เวลาเพียง 2 ปีเท่านั้นเพิ่มขึ้นถึง 666%” นายธีรพล กล่าว
โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์จะยังคงพัฒนารูปแบบการให้บริการ ในฐานะผู้นำสื่อด้านสุขภาพต่อไป เพื่อให้คนไทยทุกคนได้รับข้อมูลความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพมากขึ้น รวมถึงได้รู้ว่า ทุกโรคที่เกิดขึ้นมีหนทางรักษาเสมอ และพร้อมจะอยู่เคียงข้าง ดูแลสุขภาพคุณให้กลับมาแข็งแรงได้อีกครั้ง