“Medical Tourism” หรือเรียกในชื่อภาษาไทยว่า “การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ” จัดเป็นอีกแนวคิดการท่องเที่ยวที่กำลังเติบโตมากขึ้นในหลายๆ ประเทศ รวมถึงประเทศไทยซึ่งเป็นอีกประเทศที่มีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางหลายด้าน และมีโรงพยาบาลชั้นนำหลายแห่งซึ่งสามารถเป็นตัวเลือกให้กับนักท่องเที่ยวได้
นอกจากนี้ประเทศไทยยังได้รับการยกย่องจากสถาบันด้านสุขภาพหลายแห่งทั่วโลก รวมถึงมหาวิทยาลัยชั้นนำอย่างจอนส์ ฮอปกินส์ (John Hopkins University) ประเทศสหรัฐอเมริกาให้เป็นประเทศที่มีระบบสุขภาพที่ 1 ในเอเชีย เป็นอันดับ 6 ของโลก
และหนึ่งในโรงพยาบาลที่ปฏิเสธไม่ได้ว่า เป็นโรงพยาบาลชั้นนำอีกแห่งของประเทศไทยและในระดับโลก รวมถภึงเป็นอีกตัวเลือกสำคัญที่ชาวต่างชาติต้องหยิบยกขึ้นมาพูดถึง เมื่อต้องการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ นั่นคือ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์
อย่างไรก็ตาม หลายคนยังอาจไม่เข้าใจถึงความหมายของ “Medical Tourism” และยังนึกภาพไม่ออกว่าทำไมนักท่องเที่ยวจากหลายประเทศถึงเลือกมาท่องเที่ยวเชิงสุขภาพที่ประเทศไทย เรามาไขข้อสงสัยเกี่ยวกับวิถีการท่องเที่ยวแบบนี้พร้อมๆ กัน
Medical Tourism คืออะไร?
Medical Toursim หรือ การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ บางคนก็อาจเรียก “การท่องเที่ยวเชิงการแพทย์” คือ การเดินทางไปรับบริการด้านสุขภาพหรือรักษาโรคยังต่างแดนหรือต่างประเทศ พร้อมๆ กับทำกิจกรรมท่องเที่ยวไปด้วยพร้อมๆ กัน
พูดให้เห็นภาพง่ายๆ ก็คือ การที่คุณไปรักษาโรคกับคุณหมอที่ต่างประเทศ แต่ในระหว่างนั้นก็จัดหาเวลาว่างเพื่อไปท่องเที่ยวยังสถานที่สำคัญ หรือไปทำกิจกรรม กินอาหารท้องถิ่นที่ไม่ควรพลาดของประเทศนั้นๆ ไปด้วย
ทำไมต้องมา Medical Tourism ที่ประเทศไทย?
อย่างที่เรารู้กันดีว่า ประเทศไทยมีสถานที่ท่องเที่ยวที่โด่งดังมากมายหลายแห่งทั่วประเทศ แต่นั่นก็อยู่ในส่วนของการท่องเที่ยวทั่วไป แล้วสาเหตุอะไรที่นักท่องเที่ยวจึงอยากเดินทางมารับบริการด้านสุขภาพที่ประเทศไทย
1. มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเก่งๆ หลายด้าน
นอกจากระบบบริการด้านสุขภาพที่มีคุณภาพจนติดอันดับโลก ประเทศไทยยังขึ้นชื่อในฐานะประเทศที่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาโรคหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นโรคเกี่ยวกับหัวใจและหลอดเลือด โรคมะเร็ง โรคเกี่ยวกับกระดูกและไขข้อ ทั้งยังยังรวมไปถึงแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการศัลยกรรม ความงาม หรือการทำทันตกรรม
นอกจากนี้นวัตกรรมและเทคโนโลยีการรักษาโรคต่างๆ ของโรงพยาบาลในประเทศไทยนั้น ยังนับว่าอยู่ในระดับแนวหน้าของโรงพยาบาลทั่วโลกเลยทีเดียว
ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ประเทศไทยกลายเป็นตัวเลือกแรกๆ ของชาวต่างชาติในการเข้ามารับบริการด้านสุขภาพ รักษาโรค หรือทำศัลยกรรมความงาม ควบคู่ไปกับการออกเดินทางท่องเที่ยวตามแหล่งธรรมชาติหรือสถานที่สำคัญของประเทศไปด้วย
2. มีบริการด้านการแพทย์ที่ไม่ต่างจากบริการของโรงแรม 5 ดาว
นอกจากทีมแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในศาสตร์การรักษาหลายด้าน อีกหนึ่งสิ่งที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวอยากมาท่องเที่ยวเชิงสุขภาพที่ประเทศไทย ก็คือ บริการภายในโรงพยาบาลที่ดีเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็น
- ห้องพักผู้ป่วยที่มีให้เลือกหลายรูปแบบไม่ต่างจากห้องพักของโรงแรม พร้อมอินเทอร์เน็ตวายฟายฟรี
- มีพนักงานต้อนรับคอยประสานงานตามแผนกต่างๆ ของโรงพยาบาล รวมถึงญาติผู้ป่วยอยู่ตลอดเวลา
- บริการรถรับส่งตามสถานที่สำคัญ บางโรงแรมหรือโรงพยาบาลจะมีเครือข่ายติดต่อกันและกันเพื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางเชื่อมต่อจากที่พักไปโรงพยาบาลได้ทันทีและรวดเร็ว
- มีอาการป่วยเพียงเล็กน้อย ก็สามารถมาพบแพทย์ได้โดยไม่มีข้อจำกัด
- มีการติดตามผลการรักษาในระยะยาวอย่างต่อเนื่อง
- มีล่ามคอยแปลภาษา หรือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่สามารถพูดภาษาต่างประเทศได้ เพื่อการสื่อสารกับผู้ป่วยที่ง่าย รวดเร็ว และตรงประเด็นมากกว่า
- มีการเสนอบริการด้านสุขภาพอื่นๆ หรือทางเลือกในการรักษาอื่นๆ เพิ่มเติมเพื่อให้ผลลัพธ์การรักษามีประสิทธิภาพที่สุด
3. เชื่อมต่อไปถึงการรักษากับประเทศเพื่อนบ้านได้อย่างง่ายดาย
นอกจากบริการรักษาโรคภายในประเทศ โรงพยาบาลในประเทศไทยยังมีเครือข่ายบริการด้านสุขภาพหลายด้านกับประเทศเพื่อนบ้านที่มีความโดดเด่นไม่แพ้กัน เช่น สิงคโปร์ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ เกาหลีใต้
หากนักท่องเที่ยวหรือผู้เข้ารับบริการจำเป็นต้องเดินทางไปรับการรักษายังประเทศอื่น โรงพยาบาลในประเทศไทยก็สามารถเป็นผู้ประสานงานสำคัญในการติดต่อไปยังโรงพยาบาลของต่างประเทศให้พิจารณารับตัวผู้เข้ารับบริการไปรักษายังโรงพยาบาลนั้นๆ ได้เช่นกัน
4. ราคาถูกกว่า
ค่าใช้จ่ายในการรับบริการด้านสุขภาพและรักษาโรคที่ประเทศไทยนับว่า มีราคาถูกกว่าหลายเท่าเมื่อเทียบกับโรงพยาบาลในประเทศอื่นๆ เช่น มาเลเซีย สิงคโปร์ ออสเตรเลีย สหรัฐอเมริกา แต่ผู้เข้ารับบริการยังสามารถเข้าถึงเครื่องมือการรักษาที่ทันสมัย สิ่งอำนวยความสะดวกครบทุกด้าน บริการจากเจ้าหน้าที่ภายในโรงพยาบาลที่ดูแลด้วยหัวใจ ภายในงบประมาณที่ไม่แพงจนเกินไปได้ ซึ่งนับว่า คุ้มค่ามากกับเงินที่จ่ายไป
นอกจากนี้สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทยยังมีอยู่มากมายทั่วทุกพื้นที่ และยังมีกลุ่มบริษัทเอเจนซี่คอยนำเที่ยวที่พร้อมให้บริการภายในราคาที่ย่อมเยาอีก นี่เป็นอีกแรงจูงใจสำคัญที่ทำให้นักท่องเที่ยวอยากเดินทางมาท่องเที่ยวเชิงสุขภาพที่ประเทศไทย
เพื่อเผยแพร่ภาพลักษณ์ด้านอื่นของประเทศไทยที่หลายคนยังมองไม่เห็น และเพื่อให้ชาวต่างชาติได้รู้ว่า ประเทศไทยคือประเทศชั้นนำด้านบริการทางการแพทย์ด้วยเช่นกัน ไม่ใช่เพียงประเทศศูนย์กลางการท่องเที่ยวเพียงอย่างเดียว
โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์จึงได้สร้างสรรค์ภาพยนตร์โฆษณาความยาวห้านาทีอย่าง “Local Hero” ที่บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับชาวต่างชาติซึ่งป่วยเป็นโรคมะเร็งปอดระยะสุดท้ายและถูกปฏิเสธการรักษาจากประเทศบ้านเกิด ก่อนจะได้รับการรับการส่งตัวมารักษาและหายดีอีกครั้งที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ประเทศไทย
รางวัล Small Budget, Big Result จาก YouTube Works Award 2021 การันตีความเป็นผู้นำด้านสื่อทางการแพทย์และการดูแลสุขภาพ
จากผลงานแห่งความภาคภูมิที่ประเทศไทยคืออีกประเทศผู้นำด้านบริการด้านสุขภาพ ภาพยนตร์โฆษณา “Local Hero” จากโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์จึงได้เป็นผู้รับรางวัลสาขา Small Budget, Big Result จาก YouTube Works Award 2021 ที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย
ด้วยยอดเข้าชมคลิปวีดีโอสูงสุดถึง 3,333,333 วิว เป็นอันดับ 9 ของโรงพยาบาลทั่วโลก เป็น 6 เท่าของยอดวิวเฉลี่ย บ่งบอกถึงความสำเร็จของการเผยแพร่ความเชี่ยวชาญและจิตวิญญาณทางการแพทย์ของโรงพยาบาลชั้นนำในประเทศไทยอย่างโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ออกไปถึงสายตาผู้คนทั่วโลก
โดยคุณธีรพล อำไพ Senior Manager, Social Media marketing ของโรงพยาบาลบำรางราษฎร์กล่าวว่า ผลงานชิ้นนี้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อบอกว่า ประเทศไทยไม่ได้มีดีเพียงแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง แต่เป็นประเทศศูนย์กลางแห่งบุคลากรทางการแพทย์ที่สามารถรักษาทุกโรคภัยและทุกระดับความรุนแรงให้หายดีได้ ด้วยมาตรฐานระดับโลกและด้วยหัวใจแห่งบริการ
ซึ่งหลังจากผลงานชิ้นนี้เผยแพร่ออกไป คุณธีรพลเชื่อว่า ประเทศไทยจะได้ปลดล็อกศักยภาพใหม่ที่ชาวต่างชาติอาจยังไม่เคยรู้ และอยากเดินทางมาท่องเที่ยวเชิงสุขภาพที่ประเทศไทยมากขึ้น
ไม่แน่ว่า ภาพยนตร์โฆษณา “Local Hero” อาจเป็นกุญแจสำคัญให้ผู้ป่วยโรคร้ายที่กำลังพำนักอยู่ในต่างประเทศ ได้รู้ว่า ยังมีอีกประเทศที่อัดแน่นไปด้วยทีมแพทย์เก่งๆ เทคโนโลยีการรักษาที่ทันสมัย มีหัวใจแห่งบริการด้านสุขภาพ และเป็นประเทศที่อาจช่วยรักษาอาการป่วยของเขาให้หายดีได้ นั่นก็คือ ประเทศไทย
จากความสำเร็จของผลงานชิ้นนี้ และจากการเป็นเพียง 1 ใน 2 โรงพยาบาลของประเทศไทยที่ได้รับ Verified Official Badge ของเว็บไซต์ Youtube.com (มีเครื่องหมายติ๊กถูกสีเทาหลังชื่อ Channel) จึงทำให้โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์มุ่งมั่นและตั้งใจที่จะต่อยอดความสำเร็จนี้ต่อไป ผ่านการเป็นผู้เผยแพร่สื่อด้านการแพทย์และการดูแลสุขภาพที่คนไทยทุกคนควรทราบ และให้ชาวต่างชาติทั่วโลกอีกนับไม่ถ้วนได้รู้ว่า ประเทศไทยมีความโดดเด่นด้านการแพทย์มากแค่ไหน
เพราะทางโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ไม่ได้อยากเป็นเพียงผู้นำด้านการรักษาและนวัตกรรมทางการแพทย์เพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังอยากเป็นหนึ่งในผู้ช่วยให้คนไทยทุกคนมีความรู้ความเข้าใจด้านการดูแลสุขภาพอย่างถ้วนหน้า และไม่ลังเลที่จะมาพบแพทย์เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม เมื่อเกิดอาการเจ็บป่วยขึ้น
นอกจากนี้ทางโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ยังอยากเป็นผู้ช่วยขับเคลื่อนและพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพของประเทศไทยให้มีชื่อเสียงโด่งดังไปไกลกว่าเดิม และยังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจที่กำลังซบเซาจากการระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ให้กลับมาฟื้นฟูเร็วขึ้นกว่าเดิมด้วย
ติดตามสื่อด้านสุขภาพดีๆ ให้คุณรู้เท่าทันเคล็ดลับการดูแลตนเอง และศาสตร์การรักษาโรคต่างๆ อย่างทันสมัย ไม่วิตกกังวลแม้เผชิญความผิดปกติใดๆ เพราะทุกโรคมีต้นตอและรักษาหายได้ หากคุณรู้ว่าต้องปฏิบัติตัวอย่างไร ด้วยคลิปวีดีโอสื่อเกี่ยวกับสุขภาพจากโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ หรือคลิกชมที่นี่