ไวรัส HPV คืออะไร?
ไวรัส HPV หรือ Human Papillomavirus เป็นเชื้อไวรัสชนิดหนึ่ง ที่สามารถก่อให้เกิดโรคได้ในหลายอวัยวะและมีมากกว่า 100 สายพันธุ์ โดยเชื้อไวรัส HPV แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มหลัก ดังนี้
- กลุ่มสายพันธุ์ความเสี่ยงต่ำ ที่ก่อให้เกิดหูดหงอนไก่ ได้แก่ สายพันธุ์ที่ 6 และ 11
- กลุ่มสายพันธุ์ความเสี่ยงสูง ที่ก่อให้เกิดมะเร็ง ได้แก่ สายพันธุ์ที่ 6, 18, 31, 33, 45, 52 และ 58
ไวรัส HPV เป็นเชื้อที่ก่อให้เกิดโรคได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย เป็นสาเหตุของการเกิดมะเร็งในอวัยวะต่างๆ เช่น มะเร็งปากมดลูก มะเร็งช่องคลอด มะเร็งปากช่องคลอด มะเร็งทวารหนัก มะเร็งอวัยวะเพศชาย และมะเร็งช่องปากและลำคอ
ไวรัส HPV ติดต่อได้อย่างไร? อันตรายไหม?
ไวรัส HPV เป็นเชื้อที่ติดต่อได้ง่ายผ่านการสัมผัส เช่น การมีเพศสัมพันธ์ หรือการสัมผัสที่รุนแรงบริเวณอวัยวะเพศ โดยผู้ชายและผู้หญิง 4 ใน 5 คน จะเคยได้รับเชื้อ HPV ในช่วงใดช่วงหนึ่งของชีวิต
สำหรับความอันตรายของไวรัส HPV คือ เมื่อได้รับเชื้อเข้าไปแล้ว เชื้อจะซ่อนตัวอยู่ในร่างกายโดยไม่แสดงอาการใดๆ นานกว่า 10 ปี แต่จะแสดงอาการออกมาอีกทีเมื่อเป็นระยะลุกลามแล้ว
ส่วนใหญ่ร่างกายจะสามารถกำจัดเชื้อไวรัส HPV ออกไปได้เองภายใน 2 ปี แต่ถ้าร่างกายไม่สามารถกำจัดเชื้อออกไปได้จะทำให้เกิดการพัฒนาไปเป็นมะเร็งในอนาคต
มะเร็งปากมดลูก โรคร้ายที่มาพร้อมกับไวรัส HPV
ในปี 2021 มีผู้หญิงไทยเสียชีวิตจากมะเร็งปากมดลูก 13 คนต่อวัน และมีผู้หญิงไทยได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งปากมดลูกรายใหม่อีก 25 คนต่อวัน
ส่วนใหญ่ ผู้หญิงไทยที่พบว่าเป็นมะเร็งปากมดลูกจะอยู่ในช่วงอายุ 45-64 ปี และผู้ที่เป็นมะเร็งปากมดลูกมากกว่า 95% เกิดจากการติดเชื้อ HPV สายพันธุ์ที่ 16, 18, 31, 33, 45, 52 และ 58
ดังนั้นการฉีดวัคซีน HPV ป้องกันมะเร็งปากมดลูกและการตรวจคัดกรองอย่างสม่ำเสมอจึงเป็นเรื่องสำคัญมาก
ไวรัส HPV ก็ติดในเพศชายได้
นอกจากเชื้อไวรัส HPV จะก่อให้เกิดมะเร็งปากมดลูกในผู้หญิงแล้ว เชื้อนี้ยังก่อให้เกิดโรคร้ายในผู้ชายได้อีกด้วย เช่น มะเร็งช่องปากและลำคอ มะเร็งทวารหนัก มะเร็งอวัยวะเพศชาย และหูดหงอนไก่
โดยในแต่ละปีจะมีผู้ชายป่วยเป็นมะเร็งทวารหนักประมาณ 16,000 คน และเป็นหูดหงอนไก่อีก 15 ล้านคนต่อปี
ซึ่งในเพศชายจะมีระบบภูมิคุ้มกันที่ตอบสนองต่อเชื้อ HPV ได้ไม่ดี ทำให้ร่างกายไม่สามารถกำจัดเชื้อออกไปได้ ส่งผลให้เกิดการติดเชื้อซ้ำและเพิ่มสูงขึ้นตามอายุ
วิธีป้องกันการติดเชื้อไวรัส HPV
สำหรับวิธีป้องกันการติดเชื้อไวรัส HPV สามารถทำได้ง่ายๆ หลายวิธี เช่น งดการมีเพศสัมพันธ์ สวมถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ และการฉีดวัคซีน HPV
ปัจจุบัน ประเทศไทยมีวัคซีนป้องกันการติดเชื้อไวรัส HPV ด้วยกันทั้งหมด 3 ชนิด คือ
- วัคซีน HPV ชนิด 2 สายพันธุ์ ช่วยป้องกันสายพันธุ์ที่ 6 และ 18
- วัคซีน HPV ชนิด 4 สายพันธุ์ ช่วยป้องกันสายพันธุ์ที่ 6, 11, 16, และ 18
- วัคซีน HPV ชนิด 9 สายพันธุ์ ช่วยป้องกันสายพันธุ์ที่ 6, 11, 16, 18, 31, 33, 45, 52 และ 58
โดยวัคซีน HPV สามารถเริ่มฉีดได้ตั้งแต่อายุ 9 ปีขึ้นไป และในแต่ละช่วงอายุจะมีข้อกำหนดในการฉีดวัคซีน ดังนี้
เด็กวัยรุ่นหญิงและชาย อายุ 9-15 ปี
การฉีดวัคซีน HPV ในกลุ่มเด็กวัยรุ่นหญิงและชาย อายุ 9-15 ปี เป็นช่วงวัยที่ได้รับประโยชน์จากวัคซีน HPV สูงสุด เนื่องจากผลงานวิจัยทางการแพทย์ระบุว่า ช่วงวัยนี้มีการตอบสนองต่อภูมิคุ้มกันได้ดีกว่าช่วงวัยอื่น
โดยเด็กวัยรุ่นที่มีอายุ 9-15 ปี รับวัคซีน HPV เพียงแค่ 2 เข็มเท่านั้น ซึ่งเข็มที่ 2 จะเว้นระยะห่างจากเข็มแรก 6-12 เดือน
ผู้หญิงและผู้ชายอายุ 15 ปี ขึ้นไป
สำหรับผู้หญิงและผู้ชายที่มีอายุมากกว่า 15 ปี จะรับวัคซีนทั้งหมด 3 เข็ม โดยเข็มที่ 2 ให้เว้นระยะห่างจากเข็มแรก 1-2 เดือน และเข็มที่ 3 เว้นระยะห่างจากเข็มแรก 6 เดือน ซึ่งควรได้รับวัคซีนครบ 3 เข็ม ภายในระยะเวลา 1 ปี
ไขข้อข้องใจกับคำถามยอดฮิตเกี่ยวกับวัคซีน HPV
1. มีแฟนเพียงคนเดียวมีโอกาสติดเชื้อ HPV หรือไม่?
มีความเสี่ยง เนื่องจากเชื้อ HPV สามารถติดต่อได้ง่าย และ 80% ของคนทั่วไปเคยได้รับเชื้อมาก่อนโดยไม่มีอาการใดๆ จึงอาจเป็นไปได้ที่แฟนของคุณจะเคยได้รับเชื้อ HPV มาก่อนแล้ว
2. เคยติดเชื้อ HPV แล้ว ฉีดวัคซีนได้ไหม?
เคยติดเชื้อ HPV แล้ว สามารถฉีดวัคซีน HPV ได้อยู่ โดยวัคซีนจะป้องกันการติดเชื้อ HPV ใหม่ในสายพันธุ์ที่ยังไม่เคยติดมาก่อน
3. ฉีดวัคซีน HPV ช่วยป้องกันโรคได้นานแค่ไหน?
จากการศึกษาวิจัย พบว่าวัคซีนยังคงให้ผลในการป้องกันที่ยาวนานมากกว่า 10 ปี ดังนั้นปัจจุบันจึงยังไม่มีคำแนะนำให้ฉีดวัคซีนกระตุ้นซ้ำ
4. จำเป็นต้องตรวจภายในก่อนฉีดวัคซีนไหม?
ไม่จำเป็น หรืออาจรับวัคซีนในวันเดียวกับที่ตรวจภายในได้เลย เนื่องจากยังคงแนะนำให้ฉีดวัคซีน HPV แม้ว่าผลตรวจภายในจะผิดปกติหรือตรวจพบเชื้อ HPV แล้วก็ตาม
5. ผู้หญิงตั้งครรภ์ ฉีดวัคซีน HPV ได้หรือไม่?
ควรหลีกเลี่ยงการฉีดวัคซีนในช่วงตั้งครรภ์ เนื่องจากยังไม่มีการศึกษาที่เพียงพอและควบคุมที่ดีในสตรีตั้งครรภ์ อย่างไรก็ตามถ้าได้รับวัคซีนไปแล้วหลังคลอดสามารถรับวัคซีนต่อได้เลยโดยไม่ต้องเริ่มต้นใหม่
6. ผู้หญิงให้นมลูกฉีดวัคซีน HPV ได้หรือไม่?
ผู้หญิงให้นมลูกสามารถรับวัคซีน HPV ได้
เช็กราคาฉีดวัคซีน HPV แต่ละแบบผ่านเว็บไซต์ HDmall.co.th หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกับแอดมิน ทักไลน์ @hdcoth
ที่มาของข้อมูล
- นพ. ศุภกรณ์ พิทักษ์การกุล หัวหน้ากลุ่มงานมะเร็งนรีเวช สถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข