การจัดฟันเป็นการทำทันตกรรมยอดนิยมที่หลายคนต้องการ เพราะอาจมีส่วนช่วยปรับรูปใบหน้า เสริมความมั่นใจเวลายิ้ม ทำให้ฟันเรียงสวยยิ่งขึ้น ง่ายต่อการดูแลสุขภาพเหงือกและฟัน
นอกจากนี้การจัดฟันยังอาจมีส่วนช่วยแก้ปัญหารูปปากที่ยื่นอูมให้เข้ากับโครงใบหน้า ทำให้หลายคนมั่นใจในการถ่ายรูปด้านข้างมากขึ้นด้วย
จัดฟันใสกับ Like Dental Clinic ตอนนี้ ราคาดีที่สุดในเว็บ!
ประเมินฟรี มีของแถม / หมอผ่านการจัดฟันมาแล้วกว่า 150 เคส / ผ่อนได้ 0%
ผู้ที่เหมาะกับการจัดฟัน
ผู้ที่มีปัญหาช่องปากและการเรียงตัวของฟัน ได้แก่
- ผู้ที่มีปัญหาฟันแถวบนกับแถวล่างไม่สบกัน
- ผู้ที่มีปัญหาฟันยื่น
- ผู้ที่มีปัญหาฟันเก ล้มเอียง
- ผู้ที่มีปัญหาฟันเรียงซ้อนกัน
- ผู้ที่มีปัญหาฟันห่าง
- ผู้ที่มีปัญหาฟันยื่นสัมผัสลิ้น หรือเผลอกัดลิ้นบ่อยๆ ขณะพูดจนพูดไม่ชัด
- ผู้ที่มีปัญหาเหงือกยื่นคลุมฟันมาก หรือมีปัญหากล้ามเนื้อปากยกสูง ทำให้ยิ้มเห็นเหงือกมากเกินไป
ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับเหงือก และฟันนั้นไม่จำเป็นต้องเข้ารับการจัดฟันทุกคน หากลักษณะฟันไม่ได้เป็นอุปสรรคในการรักษาสุขภาพช่องปาก
โดยทันตแพทย์อาจเป็นผู้แนะนำหากผู้เข้ารับบริการตรวจฟันมีลักษณะเหงือกและฟันที่สมควรจัดฟัน
การจัดฟันแต่ละแบบ และงบประมาณที่ควรเตรียมไว้
การจัดฟันแบ่งออกหลักๆ ได้ 5 แบบ ได้แก่
1. การจัดฟันแบบโลหะ
การจัดฟันแบบโลหะ (Metal braces) เป็นการจัดฟันพื้นฐาน และดั้งเดิม โดยทันตแพทย์จะใช้อุปกรณ์ทำจากโลหะติดบนเนื้อฟันแต่ละซี่และยึดโลหะแต่ละชิ้น ใช้ลวดใส่ยาง เพื่อจัดฟันให้เคลื่อนจนเรียงเป็นแถวสวยงามขึ้น
ราคาการจัดฟันแบบโลหะจะอยู่ที่ประมาณ 20,000-60,000 บาท และผู้จัดฟันสามารถเลือกสียางรัดฟันในแต่ละรอบที่มาเปลี่ยนลวดได้ด้วย
จัดฟันใสกับ Like Dental Clinic ตอนนี้ ราคาดีที่สุดในเว็บ!
ประเมินฟรี มีของแถม / หมอผ่านการจัดฟันมาแล้วกว่า 150 เคส / ผ่อนได้ 0%
แต่ปัจจุบันการจัดฟันแบบโลหะไม่ได้รับความนิยมมากเท่าแต่ก่อนแล้ว เนื่องจากมีการจัดฟันแบบอื่นที่สะดวกสบายกว่า ใช้ระยะเวลาในการจัดฟันสั้นกว่า
อีกทั้งวิธีนี้ผู้จัดฟันแบบโลหะยังต้องมาพบทันตแพทย์เพื่อเปลี่ยนยางและลวดทุกเดือนด้วย ซึ่งทำให้ขั้นตอนการจัดฟันแบบนี้ต้องเสียเวลามาพบทันตแพทย์บ่อยๆ
หลังจากถอดอุปกรณ์จัดฟันออก ผู้จัดฟันก็ยังต้องใส่รีเทนเนอร์เป็นระยะเวลาอย่างน้อย 1 ปีเพื่อคงลักษณะการเรียงตัวของฟันไว้ก่อนด้วย โดยระยะเวลาการใส่จะขึ้นอยู่กับลักษณะฟันของคนไข้แต่ละราย โดยทันตแพทย์จะเป็นผู้แนะนำ
ด้วยลักษณะอุปกรณ์จัดฟันซึ่งเป็นโลหะกับยางจึงยากต่อการทำความสะอาด และทำให้เศษอาหารเข้าไปติดในอุปกรณ์จัดฟันได้ง่าย จึงอาจส่งผลให้ผู้จัดฟันมีกลิ่นปาก เหงือกอักเสบ และฟันผุได้หากแปรงฟันไม่สะอาด
2. การจัดฟันแบบด้านใน
การจัดฟันแบบด้านใน (Lingual braces) มีจุดเด่นตรงที่อุปกรณ์จัดฟันจะถูกติดตั้งที่ผิวฟันด้านใน ทำให้ไม่เห็นอุปกรณ์จัดฟันภายนอก เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการให้ผู้อื่นเห็นว่า ตนเองกำลังจัดฟัน
นอกจากนี้การจัดฟันด้านในยังช่วยให้เนื้อฟันด้านนอกไม่มีรอยสีฟันที่แตกต่างกันจากอุปกรณ์จัดฟันด้วย
จัดฟันใสกับ Like Dental Clinic ตอนนี้ ราคาดีที่สุดในเว็บ!
ประเมินฟรี มีของแถม / หมอผ่านการจัดฟันมาแล้วกว่า 150 เคส / ผ่อนได้ 0%
อย่างไรก็ตาม การจัดฟันด้านในก็ยังต้องมีการมาตรวจกับทันตแพทย์เป็นระยะๆ เพื่อปรับเปลี่ยนอุปกรณ์ให้เข้ากับการเคลื่อนตัวของฟัน
ในระหว่างจัดฟันแบบนี้ ผู้จัดฟันควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่แข็ง ยากต่อการเคี้ยว เพราะจะทำให้อุปกรณ์จัดฟัน หลุด หรือเสียหายได้ง่ายและต้องแปรงฟันให้สะอาด
งบประมาณการจัดฟันแบบด้านในจะค่อนข้างสูง โดยอยู่ที่ประมาณ 60,000-100,000 บาท อาจไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการจัดฟันแต่มีงบประมาณจำกัด
3. การจัดฟันแบบดามอน
การจัดฟันแบบดามอน (Damon braces) เป็นการจัดฟันที่ใกล้เคียงกับการจัดฟันแบบโลหะ แต่อุปกรณ์จัดฟันจะมีความแข็งแรงกว่า ให้แรงกระทำคงที่ โดยแบร็คเก็ตถูกออกแบบและทำจากโลหะชนิดพิเศษที่ช่วยให้การเคลื่อนตัวของฟันรวดเร็วมากขึ้น ไม่ต้องใช้ยาง
อีกทั้งไม่ต้องมาพบทันตแพทย์เพื่อเปลี่ยนอุปกรณ์บ่อยๆ ด้วย
ด้วยจุดเด่นด้านการประหยัดเวลาในการจัดฟันแบบนี้ จึงทำให้การจัดฟันแบบดามอนมีราคาค่อนข้างสูงเช่นกัน โดยอยู่ที่ประมาณ 55,000-100,000 บาท ขึ้นอยู่กับลักษณะและประเภท
4. การจัดฟันแบบเซรามิก
การจัดฟันแบบเซรามิก (Ceramic braces) เป็นการจัดฟันที่อุปกรณ์จัดฟันคล้ายกับการจัดฟันแบบโลหะ แต่แบร็คเก็ตจะเป็นเซรามิกใส ทำให้กลมกลืนไปกับเนื้อฟัน มีแค่ส่วนของลวดจัดฟันที่ยังเห็นเป็นสีโลหะอยู่
การจัดฟันแบบเซรามิกมีข้อดีที่อุปกรณ์จัดฟันจะมีสีใส ทำให้ผู้อื่นสังเกตเห็นได้ไม่ชัดนัก แต่มีจุดด้อยตรงอุปกรณ์จัดฟันอาจไม่แข็งแรงมาก แตกง่าย
ราคาการจัดฟันแบบเซรามิกจะอยู่ที่ประมาณ 60,000-90,000 บาท
5. การจัดฟันแบบใส
การจัดฟันแบบใส (Clear Aligner) เป็นการจัดฟันที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน เนื่องจากไม่ทำให้ผู้อื่นสังเกตเห็นอุปกรณ์จัดฟันได้ มีการจำลองผลลัพธ์การจัดฟันด้วยคอมพิวเตอร์ให้ผู้จัดเห็นได้ก่อนเริ่มจัดฟัน
นอกจากนี้อุปกรณ์จัดฟันใส ไม่สร้างความอึดอัดในช่องปากมากนัก แต่อาจรู้สึกไม่ชินในช่วงแรกๆ ของการจัดฟัน และไม่ต้องมาพบแพทย์เพื่อเปลี่ยนอุปกรณ์บ่อยๆ ด้วย
การจัดฟันแบบใสมีราคาค่อนข้างสูง เนื่องจากต้องใช้ระบบคอมพิวเตอร์ในการผลิต และมีข้อดีหลายอย่าง ไม่เป็นอุปสรรคต่ออาชีพที่เกี่ยวข้องกับภาพลักษณ์ด้วย เช่น พนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน ดารานักแสดง โดยงบประมาณค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 69,000-200,000 บาท
จะเห็นได้ว่า ราคาการจัดฟันแต่ละแบบล้วนมีราคาค่อนข้างสูง แต่ส่วนมากเกือบทุกโรงพยาบาลและคลินิกจะมีโปรโมชั่น และการผ่อนชำระรายเดือนเพื่อให้ทุกคนสามารถเข้ารับการจัดฟันได้ตามที่ต้องการ
การเตรียมพร้อม และสิ่งที่ควรรู้ก่อนการจัดฟัน
ก่อนจะเริ่มจัดฟัน ผู้จัดฟันต้องมีการเตรียมตัวดังต่อไปนี้
- ตรวจสุขภาพช่องปาก ไม่ว่าจะต้องการจัดฟันแบบใดก็ตาม ผู้จัดฟันต้องเข้ารับการตรวจสุขภาพช่องปากก่อน และตรวจดูลักษณะฟันว่า สมควรจัดอย่างไร มีระยะเวลาการจัดเท่าไร การจัดแบบไหนที่เหมาะกับลักษณะฟันมากที่สุด
นอกจากนี้ทันตแพทย์จะขูดหินปูน อุดฟัน ทำความสะอาดเหงือก และช่องปากให้สะอาดก่อนที่จะเริ่มขั้นตอนการจัดฟัน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการติดเชื้อ หรืออักเสบในช่องปากในภายหลัง - เตรียมงบประมาณ ตามข้อมูลการจัดฟันแบบต่างๆ ที่กล่าวไปข้างต้น
- เตรียมพร้อมเรื่องเวลา หากคุณต้องการจัดฟันเพื่อประโยชน์บางอย่าง เช่น เพื่อไปสมัครงาน ให้กะระยะเวลาในการจัดฟันให้ดี ทางที่ดีให้รีบปรึกษาทันตแพทย์ตั้งแต่เนิ่นๆ หากมีความคิดจะจัดฟัน เพื่อที่จะได้มีเวลาจัดฟันให้เคลื่อนตัวสวยขึ้นทันเวลา
- การถอนฟัน หลายคนอาจไม่รู้ว่า ก่อนจัดฟัน หากคุณมีปัญหาการเรียงตัวของฟันมาก ทันตแพทย์อาจจำเป็นต้องถอนฟันบางซี่ออกเพื่อให้สามารถจัดฟันได้
- รูปใบหน้า และลักษณะฟันที่เปลี่ยนไป จะแตกต่างไปตามลักษณะฟันเดิมของแต่ละบุคคล หลายคนคาดหวังว่า ฟันจะเรียงสวยสมบูรณ์แบบเหมือนดารานักร้อง แต่ความจริงแล้ว ลักษณะฟันหลังจัดของแต่ละบุคคลจะมีการเปลี่ยนแปลงที่แตกต่างกัน ทั้งนี้ควรปรึกษาทันตแพทย์ถึงความคาดหวังตั้งแต่ก่อนเริ่มจัดฟัน
อย่างไรก็ตาม หลังจากจัดฟันแล้วคุณจะมีการเรียงตัวของฟันที่สวย และดูดีขึ้นอย่างแน่นอน เพียงแต่อาจไม่ได้มากเท่ากับความคาดหวังของผู้จัดฟันบางราย - อาการเจ็บปวด การจัดฟันต้องมีการเคลื่อนของฟันผ่านกระดูก ผู้จัดฟันจึงต้องเผชิญกับความรู้สึกเจ็บ หรืออึดอัดในช่องปากอย่างแน่นอน โดยเฉพาะในวันแรกๆ หลังการปรับลวด แต่เมื่อระยะเวลาผ่านไป อาการเหล่านี้ก็จะลดลง
การจัดฟันเป็นการทำทันตกรรมที่ต้องมีการวางแผนล่วงหน้า มีการปรึกษากับทันตแพทย์อย่างละเอียด เพื่อให้การเรียงตัวของฟันมีการเปลี่ยนแปลงที่สวยงาม และช่วยสร้างความมั่นใจในรอยยิ้มของผู้จัดมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้การจัดฟันยังเป็นการทำทันตกรรมที่ต้องใช้เวลา ใช้งบประมาณสูง อีกทั้งปัจจุบันยังมีการลักลอบจัดฟันเถื่อน และใช้อุปกรณ์จัดฟันที่ไม่ได้มาตรฐาน ไม่ถูกสุขอนามัย สามารถส่งผลให้สุขภาพช่องปากผู้จัดฟันมีปัญหาร้ายแรงในภายหลังได้
คุณจึงควรจัดฟันกับโรงพยาบาล หรือคลินิกทันตกรรมที่ได้มาตรฐาน มีทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญประเมินลักษณะของฟันได้อย่างเหมาะสม เพื่อให้การจัดฟันออกมาได้ผลลัพธ์ดีที่สุด ไม่ทำให้การรอคอยระหว่างจัดฟันของคุณสูญเปล่า และคุ้มค่ากับราคาที่จ่ายไป
เปรียบเทียบราคาและแพ็กเกจจัดฟันใส จากคลินิกและโรงพยาบาลใกล้คุณ และไม่พลาดทุกอัปเดตเรื่องสุขภาพและโปรโมชั่นเมื่อกดดาวน์โหลดแอป iOS และ Android