นับตั้งแต่เริ่มต้นที่ตั้งครรภ์นั้น การดูแลเอาใจใส่ในเรื่องต่างๆ รอบด้านของคนเป็นแม่ก็ต้องตามมาด้วยเช่นกัน อย่างเช่นเรื่องอาหารหรือการดูแลสุขภาพที่มีความสำคัญอย่างมาก รวมทั้งอาจมีปัญหาเกิดขึ้นได้หลายอย่าง ทั้งนี้ยังมีเรื่องที่สำคัญอีกเรื่องหนึ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ “การฝากครรภ์” ว่าควรจะฝากแบบใดจึงจะเหมาะสม ซึ่งคุณแม่บางรายมักมีคำถามที่ว่าการฝากครรภ์พิเศษและไม่พิเศษแตกต่างกันอย่างไรกันอยู่เสมอ
เหตุผลของการฝากครรภ์
การฝากครรภ์เป็นขั้นตอนที่คุณแม่ตั้งครรภ์ไปพบสูตินรีแพทย์ เพื่อรับการดูแลและได้รับการรักษาสุขภาพที่เหมาะสม ตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์ไปจนถึงหลังคลอดบุตรเพื่อจุดประสงค์ดังต่อไปนี้
ฝากครรภ์ คลอดบุตรวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 79 บาท ลดสูงสุด 65%
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
- ตรวจสุขภาพโดยรวมของคุณแม่ว่ามีสุขภาพที่แข็งแรงดี หรือมีโรคประจำตัวและมีความเสี่ยงใดๆ อย่างเช่นตั้งครรภ์นอกมดลูกหรือเป็นโรคเบาหวานหรือไม่ เป็นต้น
- ตรวจการเจริญเติบโตของทารกว่าเป็นไปด้วยดีและแข็งแรงหรือไม่
- ตรวจดูหรือติดตามภาวะเสี่ยงต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ระหว่างการตั้งครรภ์ รวมถึงพิจารณาการคลอดที่เหมาะสมของคุณแม่อีกด้วย
ข้อแตกต่างของการฝากครรภ์พิเศษและการฝากครรภ์ธรรมดา
การฝากครรภ์มี 2 แบบ คือ การฝากครรภ์พิเศษและการฝากครรภ์ธรรมดา โดยมีข้อแตกต่างกันดังนี้
1. การฝากครรภ์พิเศษ
- สามารถฝากครรภ์ได้ทั้งโรงพยาบาลรัฐบาลและเอกชน แต่ถ้าเป็นโรงพยาบาลเอกชนจะเป็นการฝากครรภ์พิเศษแบบอัตโนมัติทันที
- เป็นการฝากครรภ์ที่คุณแม่ตั้งครรภ์สามารถเลือกหรือระบุแพทย์ได้ว่า ต้องการให้แพทย์ท่านใดเป็นผู้ดูแลตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงการสิ้นสุดของการตั้งครรภ์
- หากเป็นโรงพยาบาลรัฐจะได้แพทย์ที่เป็นเจ้าของไข้ดูแลไปตลอดจนคลอด และหากมีปัญหาในขณะการตั้งครรภ์ แพทย์ที่เป็นเจ้าของไข้มีสิทธิ์ตัดสินใจว่าควรส่งต่อให้หรือควรยุติการฝากครรภ์พิเศษ และมีค่าใช้จ่ายปกติที่ต้องจ่ายให้กับแพทย์ตามที่ตกลงกัน
- การฝากครรภ์พิเศษที่โรงพยาบาลของรัฐ แพทย์มีสิทธิ์ที่จะเลือกคนไข้ว่าสมควรรับฝากหรือไม่ อย่างเช่นรับเฉพาะคุณแม่ตั้งครรภ์ที่ปกติหรือไม่มีความเสี่ยงใดๆ รวมถึงกรณีที่ต้องผ่าตัดคลอด เนื่องจากเป็นหน้าที่ที่อยู่นอกเหนือหน้าที่ตามปกตินั่นเอง
- สามารถฝากครรภ์พิเศษได้ตามคลินิก โดยคุณแม่ก็จะได้รับการดูแลจากแพทย์ท่านเดิมตลอด และเมื่อครบกำหนดคลอดก็จะไปคลอดที่โรงพยาบาลตามที่แพทย์ท่านนั้นประจำอยู่
- มีค่าใช้จ่ายมากกว่าการฝากครรภ์ธรรมดา ระหว่างการตรวจครรภ์ในการนัดตรวจแต่ละครั้ง เช่น ค่ายา ค่าอัลตราซาวด์ หรือแม้แต่การกำหนดการคลอด หากเป็นความต้องการการผ่าคลอดโดยคุณแม่เอง อาจมีค่าใช้จ่ายจากการบริการเพิ่มขึ้นจากแพ็คเกจที่ในโรงพยาบาลกำหนดไว้ และในแต่ละโรงพยาบาลก็ไม่ได้กำหนดราคาไว้เท่ากัน ซึ่งเราควรสอบถามจากแพทย์ที่ดูแลได้โดยตรง
2. การฝากแบบธรรมดา
- ไม่สามารถระบุหรือกำหนดแพทย์ตามที่ต้องการได้ เพราะการได้รับการตรวจจะขึ้นอยู่กับว่าเป็นเวรของแพทย์ท่านใด บางครั้งอาจมีนักศึกษาแพทย์มาดูแลในการรักษาพยาบาล แต่ทั้งนี้การบริการก็ยังคงได้มาตรฐานของการแพทย์เช่นกัน อีกทั้งจะต้องทำงานอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลจากอาจารย์แพทย์อีกด้วย
- การทำคลอดอาจได้รับการบริการจากพยาบาลผดุงครรภ์ที่ได้รับการอบรมมาแล้วอย่างดี มีความเชี่ยวชาญตามมาตรฐานข้อชี้บ่งทางการแพทย์
- ไม่มีการผ่าคลอดและไม่รักษานอกเหนืออื่นใดตามคำร้องของคนไข้ ถ้าไม่มีเหตุจำเป็นตามข้อกำหนดมาตรฐานทางการแพทย์
- สามารถใช้สิทธิการเบิกจ่ายตามบัตรที่มีอยู่ได้ เช่น บัตรประกันสังคม บัตรทอง 30 บาท ก็จะไม่เสียค่าใช้จ่าย หรือคุณแม่บางท่านที่ไม่มีสิทธิ์ใดๆ ก็ยังเสียค่าใช้จ่ายที่ถูกกว่าการฝากครรภ์พิเศษอีกด้วย
โดยรวมแล้วถือว่าการฝากครรภ์ดีทั้งสองแบบ ขึ้นอยู่กับว่าคุณแม่ตั้งครรภ์นั้นมีความต้องการอย่างไร หากมีกำลังทรัพย์ที่มากพอเพื่อซื้อความสะดวกสบายและความสบายใจ การฝากครรภ์พิเศษก็จะตอบสนองความต้องการได้เป็นอย่างดี ส่วนการฝากครรภ์ธรรมดาก็สามารถช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้ไม่น้อย เพื่อความเหมาะสมของคุณแม่แต่ละท่านที่เป็นสิทธิ์ส่วนบุคคลพึงจะกระทำได้