การจัดฟัน แบ่งออกเป็น 2 แบบใหญ่ๆ ได้แก่ การจัดฟันด้วยอุปกรณ์แบบติดแน่น กับการจัดฟันด้วยอุปกรณ์แบบถอดได้ ซึ่งหลายคนมักคุ้นเคยในชื่อว่า “จัดฟันลวด” กับ “จัดฟันใส” การเลือกว่าจะจัดฟันแบบไหน นอกจากตามความต้องการของผู้ที่จะจัดฟันแล้ว ยังขึ้นอยู่กับลักษณะหรือสภาพฟันด้วย
การจัดฟันลวด เป็นการจัดฟันโดยใช้เครื่องมือที่เรียกว่าแบร็กเกต (Brackets) ติดไว้ที่หน้าฟัน แล้วมีเส้นลวดขึงทับแบร็กเกตแต่ละอัน แบร็กเกตบางยี่ห้อออกแบบมาให้ยึดติดกับลวด (Archwire) ได้เลย แต่บางยี่ห้อก็ต้องใช้ยาง (Elastic ties หรือ O-ring) เป็นตัวยึด ลวดที่ยึดติดกับแบร็กเก็ตรวมถึงยางรัดฟันจะสร้างแรงดึงให้ฟันค่อยๆ เคลื่อนมาอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม
ส่วนการจัดฟันใส จะเป็นการใช้อุปกรณ์จัดฟันที่ทำจากพลาสติก (Clear plastic) หรือ อะคริลิก (Acrylic) ลักษณะบางๆ สามารถใส่-ถอดได้เอง ครอบลงบนแนวฟันของผู้รับบริการ อุปกรณ์จัดฟันที่ว่านี้พิมพ์ออกมาจากห้องปฎิบัติการให้พอดีกับฟันของแต่ละคน การจัดฟันทั้งคอร์สใช้อุปกรณ์หลายชุด ซึ่งถูกออกแบบมาให้มีแรงดันซี่ฟันไปสู่ตำแหน่งที่เหมาะสมทีละนิด
บทความนี้จะให้ข้อมูลเปรียบเทียบ 5 ข้อแตกต่างระหว่างการจัดฟันลวดกับจัดฟันใส ได้แก่ ระยะเวลาที่ต้องใช้ กว่าการจัดฟันจะสำเร็จ เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจแก่ใครที่ยังลังเลว่าควรเลือกแบบไหนดี
5 ข้อแตกต่างระหว่างการจัดฟันลวดกับจัดฟันใส
1. ความตอบโจทย์กับปัญหาฟันแต่ละแบบ
การจัดฟันลวด สามารถแก้ปัญหาฟันได้ทุกแบบ ส่วนการจัดฟันใสบางยี่ห้อสามารถแก้ได้เพียงปัญหาฟันที่ไม่ซับซ้อนเท่านั้น แต่จะมีการจัดฟันใสแบรนด์ Invisalign ซึ่งเป็นแบรนด์จากอเมริกา และมีเทคโนโลยีที่ทันสมัย สามารถแก้ฟันซ้อน เก เหยิน ปัญหาฟันที่ซับซ้อนได้เกือบทุกชนิด รวมถึงสามารถใช้แก้ปัญหาฟันได้ตั้งแต่ในเด็ก วัยรุ่น และผู้ใหญ่
2. ความเจ็บ ผลข้างเคียง
การจัดฟัน คือการใส่แรงกระทำเข้าที่ซี่ฟัน ให้ค่อยๆ เคลื่อนเปลี่ยนตำแหน่ง ดังนั้นจึงทำให้เกิดความรู้สึกเจ็บ ตึง ไม่สบายปากเป็นเรื่องปกติ
แต่หากต้องการทราบว่าความเจ็บระหว่างจัดฟันลวด กับ จัดฟันใส เปรียบเทียบกันแล้วแบบไหนเจ็บกว่า ย่อมเป็นจัดฟันลวด ด้วยเหตุผลต่อไปนี้
- ลักษณะอุปกรณ์ จัดฟันลวดใช้อุปกรณ์ที่มีลักษณะแข็ง บางชิ้นส่วนมีความคม ทำให้บาดเนื้อเยื่อที่บอบบางในปากได้ นอกจากนี้อาจเกิดอุบัติเหตุจากลวดแตกหักได้อีกด้วยส่วนอุปกรณ์จัดฟันใสเป็นพลาสติกบาง จึงมักไม่ทำอันตรายใดกับช่องปาก
- ความถี่ของการเปลี่ยนอุปกรณ์ อย่างที่กล่าวไปในหัวข้อที่แล้วว่า สำหรับการจัดฟันลวด ทันตแพทย์จะปรับอุปกรณ์โดยดึงลวดให้ตึงขึ้นทุกๆ 1 เดือนหรือมากกว่า ส่วนอุปกรณ์จัดฟันใสนั้นจะเปลี่ยนอุปกรณ์ใหม่ทุก 1-2 สัปดาห์ ความถี่ที่น้อยกว่าของการจัดฟันลวด หมายถึงแรงกระทำต่อฟันครั้งหนึ่งก็จะมากกว่าจัดฟันใส เป็นสาเหตุว่าวันแรกๆ ของการปรับอุปกรณ์จัดฟันลวดแต่ละครั้ง ผู้รับการจัดฟันมักจะรู้สึกไม่สบายปาก หรือมีอาการเหงือกอักเสบเล็กน้อยอยู่ช่วงหนึ่ง
ส่วนผลข้างเคียงจากการจัดฟันนั้น หลายคนอาจไม่เคยรู้มาก่อนคือ ปัญหาเหงือกร่น เหงือกอักเสบ ก็สัมพันธ์กับการจัดฟันได้ด้วย
โดยเฉพาะการจัดฟันลวดที่ใช้แรงกระทำมากกว่าอย่างที่บอกไป ประกอบกับตัวอุปกรณ์ที่ติดตั้งในช่องปากทำให้เกิดซอกเป็นที่สะสมคราบแบคทีเรีย อาการเหงือกร่น เหงือกอักเสบ จึงเกิดขึ้นได้
ในขณะที่อุปกรณ์จัดฟันใสนั้นถอดออกได้ ทำให้ทำความสะอาดได้ง่ายกว่า ลดการสะสมของคราบแบคทีเรียได้ดี โอกาสเกิดเหงือกร่นระหว่างจัดฟันใสจึงน้อยกว่าการจัดฟันลวด
3. ระยะเวลาการจัดฟัน
ระยะเวลาจัดฟัน ของจัดฟันลวด กับ จัดฟันใส ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น สภาพฟัน ว่าซ้อน เหยิน เก มากแค่ไหน มีปัญหาเกี่ยวกับกระดูกขากรรไกรร่วมด้วยหรือเปล่า อายุของผู้ที่จะจัดฟัน ไปจนถึงโรคและอาการอื่นๆ เกี่ยวกับช่องปาก รวมทั้งความต้องการของแต่ละคน
โดยปกติ ยิ่งตำแหน่งที่ต้องเคลื่อนฟันมีมาก หรือซับซ้อนมากเท่าไร ก็จะยิ่งใช้เวลานานในการจัดฟันมากขึ้น ดังนั้นผู้ที่จะให้คำตอบเรื่องระยะเวลาจัดฟันได้ชัดเจน จึงเป็นทันตแพทย์ผู้ทำการจัดฟันที่ได้ประเมินช่องปากของคุณจริงๆ
อย่างไรก็ตาม แม้จะไม่สามารถบอกระยะเวลาที่แน่นอนในการจัดฟันได้ แต่ส่วนใหญ่แล้วการจัดฟันลวดมักใช้เวลาประมาณ 1-3 ปี ส่วนการจัดฟันใสใช้เวลาประมาณ 10-24 เดือน หรือในกรณีเคยจัดฟันมาก่อนแล้วฟันเคลื่อนออกจากตำแหน่งเดิมเพียงเล็กน้อย อาจเลือกชุดอุปกรณ์จัดฟันใสระยะสั้นได้ ซึ่งใช้เวลาประมาณ 10 สัปดาห์เท่านั้น
4. การดูแลรักษาความสะอาด
แม้ว่าหลักๆ แล้วการรักษาความสะอาดจะอยู่ที่นิสัยส่วนบุคคล แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าอุปกรณ์จัดฟันลวดก็เป็นอุปสรรคต่อการทำความสะอาดฟันไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องมีซอกมุมให้ต้องทำความสะอาดมากกว่า เศษอาหารติดได้ง่ายกว่า ใช้ไหมขัดฟันยากกว่า
ส่วนจัดฟันใสนั้นสามารถถอดออกได้ จึงทำความสะอาดได้ตามปกติ
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะจัดฟันแบบใด ควรทำความสะอาดฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง และอาจใข้น้ำยาบ้วนปากร่วมด้วยเพื่อลดการสะสมของคราบแบคทีเรียได้ดีขึ้น
5. ราคา
หลายคนคิดว่า จัดฟันลวดราคาถูกกว่าจัดฟันใส แต่ไม่เสมอไป ขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของเคสจัดฟันแต่ละเคส วัสดุที่ใช้ทำอุปกรณ์จัดฟัน รวมถึงยี่ห้ออุปกรณ์ด้วย
ราคาจัดฟันลวดแบบธรรมดาทั้งคอร์สมักอยู่ที่หลักหมื่น ประมาณ 35,000-75,000 บาท จัดฟันลวดแบบใช้อุปกรณ์พิเศษ เช่น อุปกรณ์สีเหมือนฟัน ชุดอุปกรณ์ไร้ยาง ให้ฟันเคลื่อนตัวเร็วขึ้น จะแพงขึ้นมาอีกหน่อย อยู่ที่ประมาณ 90,000 บาท
ส่วนราคาจัดฟันใส Invisalign Go ที่จัดเฉพาะฟันหน้า ราคาเริ่มต้นประมาณ 69,000 บาท ส่วน Invisalign นั้นเริ่มต้นอยู่ที่ 79,000 บาท ขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของสภาพฟัน ทันตแพทย์จะเป็นผู้ประเมินความเหมาะสมให้
สามารถทำแบบประเมินเบื้องต้นฟรี เพื่อนัดหมายขอคำปรึกษากับทันตแพทย์ที่ผ่านการฝึกอบรมจาก Invisalign ที่นี่
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะเลือกการจัดฟันประเภทไหน สิ่งสำคัญที่สุดคือการดูแลรักษาความสะอาด หมั่นใช้ไหมขัดฟัน แปรงฟันอย่างถูกวิธี ก็จะช่วยให้ทุกการจัดฟันเป็นไปด้วยความเรียบร้อยมากขึ้น และไม่ต้องยืดเวลาการจัดฟันออกไปอีกนานๆ