March 18, 2019 02:17
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ การรับประทานยาคุมแบบไม่ต่อเนื่องนั้นอาจมีผลให้ระดับฮอร์โมนแปรปรวนและประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอได้ครับ และถึงแม้จะมีการป้องกันทุกครั้งแต่การมีเพศสัมพันธ์ก็ไม่ได้ปลอดภัยจากการตั้งครรภ์ 100% ครับ โดยการรับประทานยาคุมแบบรายเดือนนั้นจะมีโอกาสผิดพลาดตั้งครรภ์ได้ 0.3-8% ขึ้นอยู่กับความสม่ำเสมอในการรับประทานยา และการใช้ถุงยางอนามัยก็จะมีโอกาสผิดพลาดตั้งครรภ์ได้อย่างน้อย 2% ครับ ..... ดังนั้นเมื่อมีการขาดประจไปหมอก็แนะนำให้ลองตรวจการตั้งครรภ์ดูก่อน โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ .... ถ้าหากตรวจแล้วไม่พบการตั้งครรภ์ ประจำเดือนก็อาจมาช้าได้จากสาเหตุอื่น เช่น ไม่มีการตกไข่ในรอบเดือนที่ผ่านมา ระดับฮอร์โมนในเลือดที่หิดปกติ การออกกำลังกายอย่างหักโหม น้ำหนักตัวที่มากหรือน้อยเกินไป ความเครียด เป็นต้น ซึ่งในกรณีนี้ก็อาจรอประจำเดือนต่อไปก่อนได้อีกระยะหนึ่ง แต่ถ้าหากประจำเดือนขาดหายไปนานกว่า 3 เดือนก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจประเมินหาสาเหตุครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ปกติแฟนกินยาคุมแบบแผงครับ แล้วเดือนที่ผ่านมาหยุดกิน แล้วมีเพศสัมพันธ์กันแค่ครั้งเดียวแต่ป้องกันโดยใส่ถุงยาง พอเสร็จก็เอาออกมาข้างนอกเสร็จในถุงยาง แล้วก็เช็คว่ามีรั่วไหม อย่างถี่ถ้วน ไม่รั่วครับ ตอนนี้ปจดยังไม่มาครับนับจากเดือนก่อนหน้าเลยมา 18 วันแล้ว แต่ช่วงนี้เครียดๆเรื่องสอบ ปกติจะไม่เลื่อนนานขนาดนี้ เลยกังวลครับ คิดว่าจะมีโอกาสเสี่ยงท้องไหมครับ เพราะหยุดกินยาคุมเดี่๋ยวกินเดี๋ยวหยุด ส่วนตัวคิดว่าการหยุดกินยาคุมแบบเดือนเว้นเดือน จะทำให้ฮอร์โมนเปลื่ยนแปลงไหมครับ เลยทำให้ปจดคลาดเคลื่อน กังวลมากครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)