March 10, 2019 22:18
ไม่มา*บรรทัดแรก ตดหล่น
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
การหลั่งนอก โดยทั่วไปถือว่ามีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 22% ค่ะ ซึ่งสูงกว่าหลายเท่าเมื่อเทียบกับการใช้ถุงยางที่ถูกต้องและไม่รั่วซึมหรือฉีกขาด ที่จะมีโอกาสตั้งครรภ์เพียง 2% นะคะ
ดังนั้น หากยังไม่เกิน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ แนะนำให้คุมกำเนิดฉุกเฉินเป็นวิธีป้องกันสำรองค่ะ
นั่นคือ หากผู้ถามมีเพศสัมพันธ์ในวันเสาร์ที่ 9 มีนาคม ก็จะยังไม่เกินเวลาที่ใช้ได้นะคะ แต่ถ้าวันเสาร์ที่ผู้ถามมีเพศสัมพันธ์คือวันที่ 2 มีนาคม ก็คงคุมกำเนิดฉุกเฉินไม่ทันแล้วค่ะ
หากผู้ถามมีเพศสัมพันธ์ในวันเมื่อวานนี้ มีทางเลือกในการคุมกำเนิดฉุกเฉิน 2 ทางนะคะ
1. รับประทานยาคุมฉุกเฉินโดยเร็วที่สุดที่ทำได้ ยิ่งเร็วยิ่งดี อย่างช้าไม่เกิน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์
แต่วิธีนี้มีประสิทธิภาพไม่สูงมาก จึงยังมีโอกาสตั้งครรภ์ 15 - 25% และไม่มีผลคุมกำเนิดต่อเนื่องหลังรับประทาน หากจะมีเพศสัมพันธ์ซ้ำก็ต้องใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งนะคะ
2. ไปพบสูตินรีแพทย์เพื่อใส่ห่วงอนามัยชนิดหุ้มทองแดง ภายใน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์
วิธีนี้มีประสิทธิภาพสูงมาก ผู้ใช้มีโอกาสตั้งครรภ์เพียง 0.6 - 0.8% และมีผลคุมกำเนิดต่อเนื่องได้นาน 3 - 10 ปีขึ้นกับรุ่นของห่วงอนามัยที่ใช้ค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669

ตอบโดย
จิตตรีพร
อริปริยะกุล
(พยาบาลวิชาชีพ)
eye
การหลั่งนอก หรือมีการสอดใส่อวัยวะเพศโดยไม่สวมใส่ถุงยางอนามัย มีโอกาสท้องได้ เพราะในระหว่างมีเพศสัมพันธ์ อาจมีอสุจิบางส่วนออกมากับน้ำหล่อลื่นได้ และหากฝ่ายชาย เอาอวัยวะเพศออกไม่ทัน หรือไม่มั่นใจ ก็มีโอกาสตั้งครรภ์ได้
ซึ่งการหลั่งนอกนั้น
มีโอกาสตั้งครรภ์ได้ประมาณ 4 – 22%หากฝ่ายชาย ไ่สามารถควบคุมการหลั่งได้อย่างสมบูรณ์แบบ จะมีโอกาสตั้งครรภ์ถึง 22%
หากยังไม่พร้อมตั้งครรภ์สามารถทานยาคุมฉุกเฉินได้ค่ะ อย่างช้าไม่ควรให้นานเกิน 120 ชั่วโมงหรือ 5 วัน
หรือถ้าจะให้ดีก็ไม่ควรเกิน 72 ชั่วโมงหรือ 3 วัน
ดีที่สุดคือรีบทานทันทีหลังมีเพศสัมพันธ์ หากกินยาภายใน 12-24 ชั่วโมงหลังจากการมีเพศสัมพันธ์จะช่วยป้องกันได้ประมาณ 85% ยิ่งทานช้าประสิทธิภาพยิ่งลดลงค่ะ ซึ่งยาคุมฉุกเฉิน อาจจะมีผลข้างเคียงทำให้คลื่นไส้อาเจียนได้ หากมีการอาเจียนภายในเวลา 2 ชั่วโมงหลังทาน จะต้องกินใหม่อีก 1 เม็ดทันที
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
วชิรวิทย์ สุทธิศักดิ์ (แพทย์ทั่วไป) (นพ.)
มีโอกาสท้องครับ เนื่องจากขณะสอดใส่อาจมีอสุจิปนออกมากับน้ำหล่อลื่นฝ่ายชายได้ครับ และขึ้นอยู่กับวันที่มีเพศสัมพันธ์ด้วย
ถ้าเดิมไม่ได้กินยาคุมหรือฉีดยาคุม\ฝังยาคุม เเละยังไม่เกิน120ชม. นับจากการมีเพศสัมพันธ์ ครั้งนี้ให้พิจารณายาคุมฉุกเฉินครับ
- ถ้าก่อนหน้านี้ประจำเดือนมาสม่ำเสมอ มีเพศสัมพันธ์ช่วง ก่อน7วันถึงหลัง7วัน นับจากวันที่ประจำเดือนมาวันเเรก จะเป็นระยะปลอดภัย ไม่มีไข่ตก โอกาสท้องน้อยมาก ก็อาจไม่ต้องกินยาคุมฉุกเฉินก็ได้ครับ
- เเต่ถ้าเดิมประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ กะเวลาตกไข่ยาก หรือมีเพศสัมพันธ์ช่วงที่ไม่ใช่ระยะปลอดภัย โดยเฉพาะ14วันนับจากประจำเดือนมาวันเเรก จะเป็นช่วงไข่ตก โอกาสท้องจะมากกว่า กรณีนี้เเนะนำยาคุมฉุกเฉินครับ
ยาคุมฉุกเฉินซื้อได้ตามร้านขายยา ถ้ายังไม่เกิน 72 ชม (บางตำราให้120ชม) ก็ถือว่ายังมีประสิทธิภาพครับ.
หลังรับประทานยาจะมีเลือดออกทางช่องคลอดได้ ประมาณ ภายใน1 สัปดาห์หลังกินยา ซึ่งไม่ใช่เลือดประจำเดือน
ส่วนประจำเดือนจะมาไกล้เคียงกับรอบประจำเดือนปกติ เเต่อาจมาเร็วหรือช้ากว่ารอบเดือนปกติได้ 1-3สัปดาห์
ดังนั้น หากเกิน3สัปดาห์ไปเเล้วจากวันที่ประจำเดือนควรจะมา
ให้ไปตรวจการตั้งครรภ์นะครับ
การจะให้ชัวร์ว่าไม่ท้องก็ต้องรอประจำเดือนจริงๆมาครับ ซึ่งก็อาจจะเลื่อนได้จากผลของยา หากต้องการตรวจการตั้งครรภ์ ตรวจได้เร็วที่สุด2สัปดาห์หลังมีเพศสัมพันธ์ครับ ระหว่างนี้ถ้ามีเพศสัมพันธ์ใช้ถุงยางไปก่อนครับ
เเละการคุมกำเนิดโดยการคุมกำเนิดฉุกเฉินไม่ควรใช้เกินสองแผงต่อเดือนครับ
หลังจากนี้ถ้าชัวร์ว่าไม่ท้องเเละประจำเดือนมาเเล้ว เเนะนำเลือกวิธีคุมกำเนิด เช่น ยาคุมรายเดือน ฝังยาคุม ฉีดยาคุม หรือใช้ถุงยางอนามัยครับ
ส่วนโอกาสตั้งครรภ์
หากรับประทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินภายใน 12-24 ชม.แรกของการมีเพศสัมพันธ์ จะคุมกำเนิดได้ประมาณ 85% รับประทานภายใน 72 ชม. ประมาณ 75%
ส่วนถ้าเกิน 72 ชม.แต่ยังไม่เกิน 120 ชม. จะประมาณ 60% ครับ
สรุปคือยิ่งรับประทานช้า จะยิ่งมีโอกาสท้องครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
สวัสดีค่ะหมอ หนูประจำเดือนยังมา ด้วยความที่มีเพศสัมพันธ์เมื่อตอนวันเสาร์แล้วมีช่วงหนึ่งไม่ได้ใส่ถุง ช่วงเวลาสั้นๆค่ะ แล้วหลั่งนอก คือกลัวท้องมากเลยค่ะ ถ้ากินยาคุมฉุกเฉินตอนนี้มันก็ทันใช่ไหมคะ หมอช่วยจะแนะนำหนูได้ไหมคะ หนูต้องทำไง แต่หนูเป็นคนประจำเดือนมาบ้างไม่มาบ้าง มาช้าตลอดไม่เคยคงที่
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)