March 09, 2019 10:49
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
1. ไม่แน่ใจว่า "อยากมี" ของผู้ถาม หมายถึงอยากมีบุตร หรืออยากมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกันคะ
2. ประจำเดือนครั้งล่าสุดมาวันที่เท่าไหร่ถึงเท่าไหร่คะ
3. ใช้ยาคุมยี่ห้ออะไร เริ่มรับประทานวันที่เท่าไหร่ และเหตุใดจึงต้องการหยุดใช้คะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
1.อยากมีเพศสัมพันธ์ค่ะแต่ไม่อยากทานยา ทานทีไรคลื่นไส้ตลอด กินยาได้5 วันค่ะ มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เริ่มทานยาวัน จันทร์ จนวันนี้วันศุกร์แล้ว
2.ประจำเดือนคลั้งล่าสุดก็วัน ศุกร์ที่ 22 -28 ที่ผ่านมาค่ะ
3.ใช้ยาคุมไดแอนค่ะแบบ21 เริ่มทาน วันจันทร์ค่ะ
**ไม่ค่อบรอบคอบเรื่องนี้คุณหมอให้คำแนะนำด้วยค่ะ **
หรือเราต้องทานยาคุมจนหมดแผงรึป่าว ค่อยหยุดทานค่ะ 🙏
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
ขอบคุณสำหรับข้อมูลเพิ่มเติมนะคะ
ในกรณีนี้ ยาคุมไดแอนที่ใช้ไม่สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ค่ะ เนื่องจากเป็นยาคุมรายเดือน ไม่ใช่ยาคุมฉุกเฉิน
เมื่อใช้ยาคุมรายเดือนแผงแรกไม่ทัน 5 วันแรกของการมีประจำเดือน ก็จะต้องรับประทานไดแอนติดต่อกันให้ครบ 7 วันก่อนจึงจะมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใช้ถุงยางอนามัยได้ การที่ผู้ถามมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกันก่อนที่จะมีผลคุมกำเนิดจากยา อีกทั้งอยู่ในช่วงที่อาจจะมีไข่ตก จึงเสี่ยงที่ไข่และอสุจิจะผสมกัน แล้วเกิดการตั้งครรภ์ได้นะคะ
แต่การรับประทานไดแอนต่อก็ไม่ได้ช่วยลดความเสี่ยงดังกล่าวลงค่ะ และยิ่งจะทำให้ประจำเดือนยิ่งเลื่อนช้าออกไปมากขึ้น เมื่อผู้ถามทนผลข้างเคียงจากยาไม่ได้ และพร้อมจะใช้ถุงยางคุมกำเนิดแทน ก็สามารถหยุดรับประทานได้เลยนะคะ อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะรับประทานไดแอนต่อ หรือจะหยุดรับประทานไดแอน ก็ยังมีความเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์มากอยู่ดีค่ะ
ดังนั้น หากผู้ถามมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกันอีกในระหว่างที่รับประทานไดแอนยังไม่ครบ 7 วัน หากยังไม่เกิน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ แนะนำให้รับประทานยาคุมฉุกเฉินโดยเร็วที่สุดที่ทำได้นะคะ ยิ่งเร็วยิ่งดี อย่างช้าไม่เกิน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ค่ะ อาจช่วยลดความเสี่ยงลงมาเป็น 15 - 25% แทนได้
โดยสามารถรับประทานแบบครบขนาดในครั้งเดียวได้ นั่นคือ ถ้าใช้ยี่ห้อที่มีแผงละ 2 เม็ด ก็รับประทาน 2 เม็ดพร้อมกันในครั้งเดียว หรือถ้าใช้ยี่ห้อที่มีแผงละ 1 เม็ด ก็รับประทานเม็ดเดียวครั้งเดียวค่ะ
จากนั้น ควรงดมีเพศสัมพันธ์ไปก่อน หรือหากหลีกเลี่ยงไม่ได้จริง ๆ ควรจะใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งนะคะ แล้วรอดูว่าจะมีประจำเดือนมาตามรอบปกติหรือไม่ (แต่ภายใน 1 สัปดาห์นี้อาจพบเลือดกะปริบกะปรอยที่เป็นผลข้างเคียงจากการหยุดใช้ยาคุมไดแอนหรือการใช้ยาคุมฉุกเฉินค่ะ หรืออาจไม่พบเลยก็ได้ ไม่ได้สำคัญอะไร)
ถ้ามีประจำเดือนมาก็หมายถึงไม่มีการตั้งครรภ์ค่ะ
แต่ถ้าไม่มีประจำเดือนมา หรือกังวลว่าจะตั้งครรภ์ สามารถตรวจให้ชัดเจนด้วยการใช้ชุดทดสอบทางปัสสาวะ ตรวจในตอนเช้าหลังตื่นนอน ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วันได้นะคะ
..
..
..
สรุปคือ
1. หยุดรับประทานไดแอนได้ค่ะ
2. หากมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน และยังไม่เกิน 120 ชั่วโมง ให้รีบรับประทานยาคุมฉุกเฉินโดยเร็วที่สุดที่ทำได้
3. ควรงดมีเพศสัมพันธ์ไปก่อน หรือใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่จะมีเพศสัมพันธ์
4. อาจมีเลือดกะปริบกะปรอยซึ่งเป็นผลข้างเคียงจากยา ภายใน 7 วันหลังรับประทานยาคุมฉุกเฉินหรือหลังหยุดใช้ยาคุมไดแอน หรืออาจไม่มีก็ได้ ไม่ได้สำคัญอะไร
5. ถ้าไม่มีประจำเดือนมาตามรอบปกติ ควรตรวจการตั้งครรภ์ด้วยชุดทดสอบทางปัสสาวะ ในตอนเช้าหลังตื่นนอน ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วันค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
มีเพศสัมพันธ์กับแฟนแต่หลั่งนอกแฟนไม่มันใจเลยกินยาคุมแบบ28 เม็ดกินได้2 แผงแล้วมีประจำเดือนมาปกติอยากจะหยุดกินแล้วป้องกันด้วยถุงยางอนามัยแทนได้ไหมคนับ
ในกรณีที่มีอะไรกับแฟนแบบแตกใน แล้วทานยาคุมได้3วัน แบบ21 เม็ด จะเลิกทาน แต่ใส่ถุงยางแทนค่ะ จะท้องมั่ยค่ะ แล้วถ้าไม่ใส่ จะป่องมั้ยค่ะ ไม่รู้ว่าตัวเองมีลูกยาก หรือป้องกันดี 😂 แต่อยากมีค่ะจะท้องมั้ย สอบถามทีค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)