สอบถามค่ะ โดนแมวข่วนมีเลือดซิบๆต้องไปฉีดยาไหมค่ะ

หากแมวนั้นไม่ได้รับการฉีดวัคซีนก็ควรไปฉีดยาป้องกันไว้จะดีกว่านะคะ เนื่องจากตามซอกเล็บของแมวนั้นอาจเปื้อนน้ำลายซึ่งถ้ามีเชื้อโรคก็สามารถเข้าสู่บาดแผลที่โดนข่วนได้ค่ะ

ควรไปฉีดวัคซีนให้เร็วที่สุดนะคะ ป้องกันไว้ดีกว่ามาแก้ไขทีหลังค่ะ

ถ้าเป็นไปได้ ควรไปโรงพยาบาลจะดีที่สุดครับ (เพราะเราไม่รู้ว่าแมวตัวนัน้มีเชื้อไวรัสพิษสุขบ้าหรือไม่ แต่ให้คิดไว้ก่อนว่ามี) นอกจากวัคซันพิษสุขนัขบ้าแล้ว อาจจะต้องประเมินเรื่องวัคซีนบาดทะยัก และยาปฏิชีวนะด้วยครับ ในกรณีที่แผลนั้นมีแนวโน้มที่จะติดเชื้อในอนาคตได้

สวัสดีค่ะ ควรไปฉีกวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้าไว้ก่อนค่ะ เนื่องจากลักษณะบาดแผลมีเลือดออก สามารถติดเชื้อพิษสุนัขบ้าได้
แต่อาจมีแนวทางปฏิบัติ 2 แนวทางคือ
** หากแมวฉีดวัคซีน สามารถสังเกตุอาการได้ 10 วัน ก็สามารถสังเกตุอาการก่อนได้ค่ะ หากแมวไม่ตาย/ป่วย ก็สงสัยโรคพิษสุนัขบ้าน้อยลง (แต่ต้องมั่นใจว่าสามารถ สังเกตุสัตว์ได้จริงๆนะคะ) อย่างไรก็ตามหากโดนกัด ควรได้รับการทำความสะอาดบาดแผล + กินยาฆ่าเชื้อปฏิชีวนะ + วัคซีนบาดทะยักค่ะ
** แมวไม่ฉีดวัคซีน /ตาย /หรือไม่สามารถสังเกตุอาการได้ ให้มาพบแพทย์ และทำการฉีดวัคซีน ทันที ร่วมกับได้รับการทำความสะอาดผล+ฉีดวัคซีนบาดทะยักค่ะ

โดยส่วนมากแนะนำให้มาฉีดวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้าหลังถูกกัด ที่รพ.ค่ะ เพราะหากสัตว์มีเชื้อพิษสุนัขบ้าจริง จะทำให้ได้รับวัคซีนล่าช้าเกิดไป โดยเฉพาะหากถูกกัดบริเวณที่มีเส้นประสาทมากๆ เช่น ศีรษะ มือ จะทำให้ระยะฟักตัวของเชื้อพิษสุนัขบ้าเร็วยิ่งขึ้น การฉีดวัคซีนเพื่อให้มีภูมิคุ้มกันอาจช้าเกิดไป นอกจากนี้ยังมีวัคซีนบาดทะยัก และ ยาปฏิชีวนะที่ควรรับประทานป้องกันการติดเชื้อจาก แผลด้วยค่ะ

ถูกกัดใหม่ๆให้ล้างน้ำสบู่เลยค่ะ แต่ถ้ามาที่โรงพยาบาลเค้าจะใส่ยาฆ่าเชื้อให้ด้วย ถ้าแผลยังไม่แห้งแนะนำให้ไปล้างที่โรงพยาบาลดีกว่าค่ะเพราะน้ำลายสุนัขหรือแมวค่อยข้างสกปรก แผลจะติดเชื้อได้ง่ายค่ะ และอย่าลืมไปฉีดวัคซีนตามนัดให้ตรงนะค่ะสำคัญมาก

การโดนแมวข่วนจนมีเลือดออกซิบๆถือเป็นความเสี่ยงต่อการติดเชื้อพิษสุนัขบ้าได้ครบ

ในกรณีนี้หมอแนะนำว่าควรไปพบแพทย์เพื่อฉีดวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้าให้เร็วที่สุดก่อนครับ ยกเว้นแต่ว่าแมวตัวที่ข่วนมีคุณสมบัติครบ 4 ข้อดังนี้
1. แมวได้รับการฉีดวัคซีนติดต่อกันมาแล้วเป็นเวลา 2 ปี และครั้งสุดท้ายยังไม่เกิน 1 ปี
2. แมวถูกเลี้ยงภายในบ้านตลอดเวลา
3. แมวกัดข่วนโดยมีเหตุผลอันสมควร
4. สามารถสังเกตอาการแมวได้อย่างน้อย 10 วัน
ถ้าหากแมวมีคุณสมบัติครบทุกข้อตามนี้ก็จะถือว่ามีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อพิษสุนัขบ้าได้ต่ำและก็อาจจะยังไม่ต้องฉีดวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้าในทันทีและสังเกตอาการสุนัขไปก่อนได้ครับ ถ้าหากผ่านไป 10 วันแล้วแมวอาการปกติก็จะถือว่าปลอดภัยจากเชื้อพิษสุนัขบ้า แต่ถ้าหากแมวมีอาการผิดปกติหรือตายภายใน 10 วันก็ต้องรีบไปพบแพทย์เพื่อฉีดวัคซีนทันทีและต้องนำแมวไปตรวจด้วยครับ

ถ้าถูกสัตว์กัดข่วนซ้ำหลังจากที่ฉีดวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้าครบไปแล้วก็ควรไปฉีดวัคซีนกระตุ้นภูมิคุ้มกันใหม่อีกครั้งครับ ยกเว้นแต่ว่าสัตว์จะมีคุณสมบัติตามนี้
1. สัตว์ได้รับการฉีดวัคซีนติดต่อกันมาแล้วเป็นเวลา 2 ปี และครั้งสุดท้ายยังไม่เกิน 1 ปี
2. สัตว์ถูกเลี้ยงภายในบ้านตลอดเวลา
3. สัตว์กัดข่วนโดยมีเหตุผลอันสมควร
4. สามารถสังเกตอาการสัตว์ได้อย่างน้อย 10 วัน

ถ้าหากสัตว์มีคุณสมบัติครบทุกข้อตามนี้ก็จะถือว่ามีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อพิษสุนัขบ้าได้ต่ำและก็อาจจะยังไม่ต้องฉีดวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้าในทันทีแต่สามารถสังเกตอาการสัตว์ไปก่อนได้ครับ

ถ้าหากผ่านไป 10 วันแล้วสัตว์ยังมีอาการปกติก็จะถือว่าปลอดภัยจากเชื้อพิษสุนัขบ้า แต่ถ้าหากสัตว์มีอาการผิดปกติหรือตายภายใน 10 วันก็ต้องรีบไปพบแพทย์เพื่อฉีดวัคซีนทันทีและต้องนำสัตว์ไปตรวจด้วยครับ

ตามคำแนะนำการฉีดวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้าของสถานเสาวภาสภากาชาดไทยแนะนำว่าทุกครั้งที่ถูกสัตว์กัดหรือข่วนควรฉีดวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้าทุกครั้งยกเว้นแต่ว่าสัตว์ตัวดังกล่าวมีคุณสมบัติครบทุกข้อ ดังนี้
1. สัตว์ได้รับการฉีดวัคซีนติดต่อกันมาแล้วเป็นเวลา 2 ปี และครั้งสุดท้ายยังไม่เกิน 1 ปี
2. สัตว์ถูกเลี้ยงภายในบ้านตลอดเวลา
3. สัตว์กัดข่วนโดยมีเหตุผลอันสมควร
4. สามารถสังเกตอาการสัตว์ได้อย่างน้อย 10 วัน

ถ้าหากสัตว์มีคุณสมบัติครบทุกข้อตามนี้ก็จะถือว่ามีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อพิษสุนัขบ้าได้ต่ำและก็อาจจะยังไม่ต้องฉีดวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้าในทันทีแต่สามารถสังเกตอาการสัตว์ไปก่อนได้ครับ ถ้าหากผ่านไป 10 วันแล้วสัตว์ยังมีอาการปกติก็จะถือว่าปลอดภัยจากเชื้อพิษสุนัขบ้า แต่ถ้าหากสัตว์มีอาการผิดปกติหรือตายภายใน 10 วันก็ต้องรีบไปพบแพทย์เพื่อฉีดวัคซีนทันทีและต้องนำสัตว์ไปตรวจด้วยครับ

ในกรณีนี้ถ้าหากแมวที่ข่วนไม่ได้มีคุณสมบัติครบทุกข้อข้างต้นก็ควรไปพบแพทย์เพื่อฉีดวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้าก่อนครับ โดยในกรณีนี้ก็จะต้องฉีดวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้ากระตุ้นภูมิคุ้มกัน 1 เข็มเนื่องจากยังฉีดวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้าครั้งสุดท้ายยังไม่เกิน 6 เดือนครับ