ประจำเดือนล่าสุดวันที่ 18 ก.ค. 62 มีเพศสัมพันธ์แบบหลั่งนอกในวันที่ 9/8/62 และกินยาคุมฉุกเฉินวันที่ 10/8/62และมีเพศสัมพันธ์แบบหลั่งนอกอีกในวันที่ 11/08/62 กินยาคุมกล่องที่สองวันที่ 12/08/62 และมีอีกครั้งในวันที่ 13/08/62 ทุกครั้งหลั่งนอกตลอด และในเดือนนี้ยังไม่มีประจำเดือนมาเลย มีแต่ตกขาว และอาการหิวบ่อยทานเยอะกว่าปกติ อยากทราบว่ามีโอกาสตั้งครรภ์สูงมากไหม มีอาการเครียดร่วมด้วยควรตรวจครรภ์ในวันไหนดีคะ

สวัสดีครับ
การมีเพศสัมพันธ์โดยการหลั่งนอกนั้นอาจมีอสุจิที่ปนอยู่ในน้ำหล่อลื่นของผู้ชายหลุดลอดเข้าไปปฏิสนธิกับไข่ได้ทำให้มีโอกาสผิดพลาดตั้งครรภ์ได้ 4-27% ครับ และยาคุมฉุกเฉินก็จะมีผลป้องกันการตั้งครรภ์ได้เพียง 75-85% เท่านั้น

ถ้าหากมีการขาดประจำเดือนไปก็ต้องสงสัยว่าอาจมีการตั้งครรภ์ได้เอาไว้ก่อนครับ

หมอแนะนำว่าในเบื้องต้นนั้นควรลองตรวจการตั้งครรภ์ดูก่อน โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ

ถ้าหากตรวจแล้วไม่พบการตั้งครรภ์ประจำเดือนก็อาจมาช้าได้จากสาเหตุอื่นๆ เช่น
- ไม่มีการตกไข่ในรอบเดือนที่ผ่านมา
- ระดับฮอร์โมนในเลือดที่ผิดปกติ
- ภาวะมีถุงน้ำหลายใบในรังไข่ (PCOS)
- ไทรอยด์เป็นพิษ
- น้ำหนักตัวที่มากหรือน้อยเกินไป
- การออกกำลังกายอย่างหักโหม
- ความเครียด
- ผลข้างเคียงของยาบางชนิด
ซึ่งในกรณีนี้ก็อาจรอประจำเดือนต่อไปก่อนได้อีกระยะหนึ่ง แต่ถ้าหากประจำเดือนขาดหายไปนานกว่า 3 เดือน ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุครับ

ในกรณีนี้ถือว่ามีโอกาสที่จะตั้งครรภ์ได้ครับ ถ้าหากมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายไปเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม ก็จะเริ่มตรวจการตั้งครรภ์ได้ในตอนเช้าของวันที่ 27 สิงหาคม ซึ่งห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอยู่ 14 วันครับ

ยาคุมฉุกเฉิน นอกจากทำให้เลือดออกกระปริดกระปรอย ยังทำให้ประจำเดือนมาเร็วขึ้น หรือช้าลงได้ แต่เพียงเล็กน้อย แต่ไม่ได้เป็นยาเร่งประจำเดือนให้มาเร็วครับ

ส่วนถ้าประจำเดือนไม่มาช่วงรอบเดือน แนะนำตรวจการตั้งครรภ์ด้วยตนเองครับ โดยตรวจปัสสาวะหลังปฏิสนธิประมาณ14วันครับ

หลังรับประทานยาคุมฉุกเฉินประจำเดือนมักจะมาใกล้เคียงกับกำหนดประจำเดือนตามปกติอยู่ครับ ส่วนการมีตกขาวนั้นก็ไม่ได้เป็นอาการที่จะบ่งบอกได้ว่ามีการตั้งครรภ์หรือไม่

ในกรณีนี้หมอแนะนำให้ลองตรวจการตั้งครรภ์ในช่วงเวลาที่หมอได้แนะนำไปก่อนครับ

สาเหตุที่ทำให้แนะนำให้ตรวจการตั้งครรภ์ห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะแรกหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจเป็นเพราะว่า การตรวจการตั้งครรภ์ที่เร็วเกินไปนั้นร่างกายอาจจะยังมีระดับฮอร์โมนการตั้งครรภ์ไม่สูงเพียงพอที่ชุดตรวจการตั้งครรภ์จะตรวจจับได้ ทำให้อาจตรวจไม่พบการตั้งครรภ์ทั้งๆที่มีการตั้งครรภ์อยู่ได้ครับ

ในกรณีนี้หมอแนะนำให้รอตรวจการตั้งครรภ์ในช่วงเวลาที่หมอได้แนะนำไปเพื่อให้ได้ผลตรวจที่มีความแม่นยำครับ