June 09, 2019 23:00
ตอบโดย
สารินทร์ สีหมากสุก (นพ.)
ก่อนอื่นทำความเข้าใจเรื่องสิวก่อนนะครับ
สิว เป็นโรคทางผิวหนังที่พบได้บ่อยครับ เมื่ออายุเราเยอะขึ้น สิวเหล่านี้จะค่อยๆหายไปในที่สุด ซึ่งตำแหน่งที่มักจะพบสิวได้บ่อยได้แก่ บริเวณที่มีต่อมไขมันจำนวนมาก เช่น ใบหน้า หน้าอก หลัง คอ เป็นต้น
สิวมีด้วยกันอยู่หลายระยะ เช่น สิวอุดตันหัวดำและหัวขาว สิวอักเสบตุ่มแดง สิวอักเสบหัวหนอง และสิวหัวช้าง การมีสิวเกิดขึ้นจำนวนมากอาจส่งผลต่อชีวิตประจำวันของเราได้ครับ เช่น เสียความมั่นใจเนื่องจากมีสิวเยอะ มีรอยดำเยอะบนใบหน้า รวมถึงการมีหลุมสิว ดังนั้นการรักษาสิวควรมีการรักษาที่ถูกต้อง เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดแผลเป็น หลุมสิว หรือเชื้อดื้อยาได้หากมีการรักษาที่ไม่ถูกต้อง จึงควรพบแพทย์นะครับ
สาเหตุจากการเกิดสิว
-การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกาย โดยเฉพาะฮอร์โมนเพศชาย เช่น androgen ซึ่งจะพบมากในเพศชาย (เพศหญิงก็มีได้เช่นกัน แต่น้อย) ฮอร์โมนตัวนี้จะไปกระตุ้นต่อมไขมันให้มีการทำงานมากขึ้น จึงทำให้เกิดการอุดตันตามรูขุมขน เกิดเป็นสิวอุดตันและสิวอักเสบในอนาคตได้ หรือในผู้หญิงที่มีฮอร์โมนเพศชายเยอะ หรือเป็นถุงน้ำในรังไข่หลายใบ(PCOS) ก็อาจจะมีสิวเยอะได้เช่นกัน รวมถึงก่อนมีประจำเดือน ฮอร์โมน Progesterone จะสูงขึ้น จึงทำให้เกิดสิวได้เช่นกั
-Hyperkeratosis เกิดจากควาผมิดปกติของการผลัดเซลล์ของเซลล์ผิวหนัง
-เกิดจากการติดเชื้อ P.acne ซึ่งเป็นเชื้อที่ทำให้เกิดสิว
-Inflammation มีการบาดเจ็บหรือมีการอักเสบของผิวหนังในบริเวณดังกล่าว
-อื่นๆ เช่น อาหารที่มี Glycemic index สูง หรืออาหารที่มีน้ำตาลในปริมาณเยอะ (แต่ยังคงเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ครับ ว่าจริงๆแล้ว เป็นสาเหตุของการเกิดสิวด้วยหรือไม่) เช่น ช็อคโกแลต เค้ก เบเกอรี่ หรือของหวานต่างๆ , นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ไม่อดหลับอดนอน, ไม่เครียด หมั่นออกกำลังกาย, งดทาครีมกันแดดที่ทำให้เกิดการอุดตันของรูขุมขน, หรือหลีกเลี่ยงการแต่งหน้า ทารองพื้นที่หนาจนเกินไป โดยเฉพาะช่วงที่เป็นสิวเยอะๆ , การใช้กระดาษซับมัน ควรซับอย่างเดียวไม่ควรถูบริเวณผิวหน้า เพราะอาจจะไปกระตุ้นสิวได้เช่นกัน, งดการแคะแกะเกาสิว, หลีกเลี่ยงการทำหัตถการที่มีการสครับผิวหน้า หรือการทำช้อนทองคำ ทรีตเม้นหน้า อาจไปกระตุ้นทำให้สิวเห่อได้, หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่ไม่ได้มาตรฐานหรือโฆษณาอวดอ้างเกินจริง, รักษาความสะอาดบนผิวหน้า ล้างหน้าในคนที่มีผิวมันเยอะ อาจจะเช้ากลางวันและเย็น ไม่ควรล้างหน้าบ่อยจนเกินไป เป็นต้นครับ
วิธีการรักษา
วิธีการรักษาสิวคือลดการอักเสบลงของสิวและการป้องกันการเกิดสิวที่จะเกิดขึ้นใหม่ ซึ่งหากมีสิวขึ้นเป็นจำนวนมาก อาจจะต้องใช้ระยะเวลาในการรักษาสักหน่อยครับ โดยการรักษาจะต้องมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตามที่หมอได้แนะนำไปข้างบน ร่วมกับการใช้ยาจึงจะมีประสิทธิภาพ โดยยาที่ใช้ในการรักษาสิว แบ่งคร่าวๆได้เป็น 3 กลุ่ม คือ ยาทา ยาฉีด และยารับประทาน
ยาทาจะมียากลุ่มละลายหัวสิว เช่น Benzoyl peroxide ทาก่อนล้างหน้าทิ้งไว้ประมาณ 5-10 นาที จะช่วยลดการเกิดสิวอุดตัน โดยมากแพทย์มักพิจารณาให้ร่วมกับยาปฏิชีวนะชนิดทา ที่จะไปทำลายฆ่าเชื้อสิว (แต่จะไม่ให้ยาปฏิชีวนะตัวเดียว เนื่องจากมีโอกาสทำให้เชื้อดื้อยาได้ง่าย) และเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้สิวอุดตันลดลง อาจรักษาควบคู่กับการกดสิวจากผู้ชำนาญ (ไม่ควรกดเองเด็ดขาด หากทำไม่เป็น เพราะจะทำให้เกิดรอยดำตามมาได้)
ยากลุ่มวิตามินเอ จะไปช่วยแก้ไขปัญหาการเกิด Hyperkeratosis ให้กลับเป็นปกติ ลดการอักเสบของสิว ลดสิวอุดตัน แต่ยากลุ่มนี้อาจจะทำให้เกิดการระคายเคืองของผิวหนังได้หรือเกิดรอยแดง ควรทาบางๆ
ยาฉีด มักจะเป็น triamcinolone acetonide ใช้ในการฉีดเม็ดสิวที่มีการอักเสบอยู่ให้ยุบลง แต่ต้องระวัง หากฉีดเยอะเกินไปหรือฉีดไม่ถูกต้อง อาจทำให้ผิวบริเวณนั้นกลายเป็นหลุมหรือยุบลงไปได้
ในกรณีที่เป็นสิวอักเสบขึ้นเยอะ การทายาอย่างเดียวอาจจะเอาไม่อยู่ แพทย์อาจพิจารณาเพิ่มยารับประทาน เช่นยาปฏิชีวนะและยาในอนุพันธุ์ของวิตามินเอ จะช่วยให้ประสิทธิภาพในการรักษาสิวให้สูงขึ้น แต่ยากลุ่มอนุพันธุ์วิตามินเอ มีผลข้างเคียงค่อนข้างเยอะ เช่น ผิวแห้ง ปากแห้ง ตาแห้ง ตับอักเสบ ไขมันในเลือดสูง ทำให้เกิดโรคซึมเศร้า และระหว่างที่รักษาด้วยยาตัวนี้ ห้ามตั้งครรภ์โดยเด็ดขาด รวมถึงการบริจาคเลือด การใช้ยาในกลุ่มนี้จึงควรได้รับคำแนะนำวิธีการใช้ และอยู่ในการดูแลควบคุมของแพทย์ครับ
การสั่งยาจากอินเต็มเน็ตมาใช้เองจากแหล่งที่มาที่ไม่น่าเชื่อถือ โดยส่วนใหญ่มักไม่ได้มาตราฐานหรือมีสารแปลกปลอม จึงทำให้ผู้ใช้มีอาการแพ้ได้ครับ หรือบางทีเขาบอกว่าเป็น Zinc แต่จริงๆแล้วไม่ได้มีส่วนประกอบของ zinc แต่อย่างใดครับ ดังนั้นแนะนำให้ไปพบแพทย์ก่อนนะครับ กรณีที่ใช้แล้วมีสิวหรือผื่นเยอะขึ้นกว่าเดิม ก่อนที่จะเป็นเยอะไปมากกว่าเดิมและรักษายากครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ทานซิงค์แล้วสิวเห่อมากค่ะ ทานมา 3 สัปดาห์แล้ว ตอนแรกไม่มีสิวจะทานลดหน้ามัน ทานไปสิวเห่อมากควรหยุดทานมั้ยคะ
หน้าหายมันแล้ง
อยากทราบว่าอาการแพ้ซิงค์เกิดขึ้นได้มั้ยคะ คือหนูสิวอักเสบขึ้นเต็มแก้มเลยค่ะเพราะกินวิตามินซิงค์เข้าไป คือครั้งแรกก่อนหน้านี้สิวก็เห่อเพราะกินยาลดสิวที่สั่งจากออนไลน์ค่ะ อยากทราบว่าถ้าแพ้ซิงค์สิวจะขี้นแบบนี้ใช่มั้ยคะ?
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)