ขอรบกวนถามคุณหมอ มีอาการเจ็บบริเวณส้นเท้า(ด้านซ้าย)มา ประมาณ3เดือนกว่าแล้วแต่ส้นเท้าด้านขวากับ ไม่มีอาการเจ็บลองใช้ยานวดสมุนไพรทา บริเวณส้นเท้าก็อาการไม่เห็นดีขึ้นยิ่งเวลานั่ง สักพักแล้วลุกขึ้นมีอาการเจ็บส้นเท้าทันที มันเกี่ยวกับการที่เราใช้ชีวิตประจำวัน ในการเดินและยืนนานๆหรือเปล่าคะ หรือจะมีอาการเป็นโรครองช้ำ ที่ส้นเท้า

สวัสดีครับ ถ้าจากที่กล่าวมา คิดว่าเป็นโรคพังผืดใต้ฝ่าเท้าอักเสบ นะครับ ซึ่งเจ้าของกระทู้เป็นคนที่ยืนนาน ซึ่ง โรคพังผืดใต้ฝ่าเท้าอักเสบ หรือที่มักจะรู้จักกันในชื่อ โรครองช้ำ เป็นโรคที่พบได้บ่อย โดยจะพบมากในผู้ป่วยอายุ 40 ปีขึ้นไป
สาเหตุของโรคอาจเกิดได้จาก
1.การรับน้ำหนักเป็นเวลานาน ทำให้เอ็นที่ฝ่าเท้ารับน้ำหนักมาก พบได้บ่อยในผู้ที่ต้องยืนเป็นเวลานานในระหว่างวัน เช่น ผู้ที่ต้องยืนตลอด
2.การทำงานทั้ง 8 ชั่วโมงหรือนานกว่านั้น
3.น้ำหนักตัวมาก น้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นอาจก่อให้เกิดพังผืดใต้ฝ่าเท้าอักเสบได้
4.สวมใส่รองเท้าที่ไม่เหมาะสม เช่น รองเท้าที่ไม่มีพื้นบุรองส้นเท้า
5.ลักษณะการทำกิจกรรมที่เปลี่ยนไปจากเดิม เช่น เพิ่มระยะทางการวิ่งออกกำลังกาย การเดิน/วิ่งบนพื้นผิวที่ต่างไปจากเดิมหรือบนพื้นผิวแข็ง (เช่น พื้นซีเมนต์หรือคอนกรีต)
6.เอ็นร้อยหวายยึด ทำให้ส้นเท้าไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ตามปกติ
7.โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์หรือข้อสันหลังอักเสบ อาจทำให้มีโอกาสเกิดการอักเสบที่เส้นเอ็นในจุดใดจุดหนึ่งที่เชื่อมต่อกับกระดูก ทำให้มีโอกาสที่จะเกิดพังผืดใต้ฝ่าเท้าอักเสบได้
8.ปัจจัยทางโครงสร้างร่างกาย เช่น เท้าแบนเกินไป อุ้งเท้าโก่งมากเกินไป หรือเส้นเอ็นยึดบริเวณน่องทำให้ไม่สามารถเคลื่อนไหวข้อเท้าได้ตามปกติ เป็นต้นครับ