May 23, 2018 10:44
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
โดยมากเวลาผู้ป่วยมีอาการกำเริบของโรคเก๊าท์ ยาที่ให้ผลการรักษาได้ดีและค่อนข้างปลอดภัยคือยาcolchicineครับ
แต่การจะให้ยาcolchicineอาจมีผลข้างเคียงทำให้ผู้ป่วยท้องเสียได้หากให้ในขนาดที่สูงเกินไป เวลาพิจารณาว่าจะให้ยาขนาดใดต้องอาศัยค่าการทำงานของไตประกอบร่วมด้วยครับ
ดังนั้นควรปรึกษาแพทย์ก่อนทุกครั้งที่จะเริ่มยาตัวนี้
นอกจากนั้นอาการปวดข้อยังเกิดได้จากหลายสาเหตุ ไม่ใช่จากโรคเก๊าท์เพียงอย่างเดียว ที่ต้องระวังเสมอ คือ มีการติดเชื้อในข้อหรือไม่ครับ เพราะถ้าเป็นการติดเชื้อการรักษาจะเปลี่ยนไปเป็นการให้ยาฆ่าเชื้อแทน
การพบแพทย์ก่อนเริ่มให้ยาใดๆเพื่อรักษาอาการปวดข้อจึงเป็นสิ่งสำคัญครับ
ส่วนยารักษาความดันที่อาจส่งผลต่อโรคเกาท์ได้ เป็นยาขับปัสสาวะที่ชื่อว่า Hydrochlorothiazide(HCTZ)ครับ ถ้าหากมียาตัวนี้ใช้อยู่อาจลองไปปรึกษาแพทย์ที่ดูแลอยู่ประจำให้พิจารณาเรื่องการปรับเปลี่ยนยาได้ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
สมทรง นิลประยูร (นพ.)
นอกจากยาแล้วสิ่งงสำคัญอีกอย่างที่คุณพ่อต้องควบคุมคือ เรื่องอหารต้องห้ามของโรคเก้าท์ครับ เพราะถ้าเรารับประทานอาหารที่มีสารพิวรีนสูงเข้าไปในร่างกาย เมื่อมีปริมาณกรดยูริกมากขึ้นจากการสร้างของร่างกาย จากการรับประทานอาหารที่มีสารพิวรีนสูง หรือไตมีความผิดปกติในการกรองสารพิวรีน มักนำไปสู่ภาวะกรดยูริกในเลือดสูงได้ง่าย ครับ อาหารที่มีสารพิวรีนสูงหรือสิ่งที่มีผลทำให้ปวดเก้าท์ เช่น
การดื่มแอลกอฮอล์อย่างหนัก
การรับประทานอาหารทีมีสารพิวรีนมากเกินไป เช่น สัตว์ปีก เครื่องในสัตว์ ยอดผัก กุ้งเคยหรือกะปิ ปลาซาร์ดีน หอยแมลงภู่ สารสกัดจากยีสต์
ได้รับวิตามินซีไม่เพียงพอ
การดื่มน้ำอัดลมเกินปริมาณที่พอดีต่อวัน ซึ่งมีการศึกษาพบว่าการดื่มน้ำอัดลมประเภทที่มีน้ำตาลฟรุกโตสอาจเพิ่มการสะสมกรดยูริกในเลือดได้สูงถึง 85% นอกจากนี้ยังรวมไปถึงผลไม้และน้ำผลไม้บางชนิดที่มีน้ำตาลฟรุกโตสอยู่มาก ครับ
หากเราปฏิบัติตัวได้ถูกต้อง งดอาหารที่ควรงด รับประทานยาตามที่คุณหมอแนะนำ อาการปวดตามข้อก็จะทุเลาลงครับ หากไม่ดีขึ้นควรไปตรวจพบแพทย์ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
สอบถามอีกเรื่องครับ ในบางครั้ง ที่แกมีอาการ ชาที่มือและเท้า จะเกิดจากสาเหตุใดได้บ้างครับ
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สาเหตุของอาการชาตามปลายมือปลายเท้าที่พบได้บ่อย มีดังนี้ครับ
- การขาดวิตามิน โดยเฉพาะวิตามิน B1, B6 และ B12
- การดื่มสุรา จะทำให้ร่างกายเสี่ยงต่อการขาดวิตามิน
- โรคเบาหวาน
- การใช้ยาบางชนิด เช่น ยาต้านวัณโรค เคมีบำบัดบางชนิด
นอกจากนี้ยังอาจเกิดจากสาเหตุอื่น เช่น โรคภูมิคุ้มกันตนเองทำงานไวเกินชนิดที่ทำให้เกิดปลายประสาทอักเสบ การติดเชื้อไวรัสบางชนิด ซึ่งเป็นสาเหตุที่พบได้ไม่บ่อย
สาเหตุที่ป้องกันและแก้ไขได้ง่ายที่สุด คือ การขาดวิตามินและโรคเบาหวานครับ
ดังนั้นในเบื้องต้นแนะนำว่า
1. ควรตรวจดูว่าเป็นเบาหวานหรือไม่ ถ้าเป็นเบาหวานก็ควรควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้ดีเพื่อลดอาการชา
2. กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ เน้นอาหารจำพวกผักให้มากขึ้น เพื่อป้องกันการขาดวินามินบี และอาจซื้อวิตามินB1-6-12มารับประทานเสริมก็ได้ครับ
3. หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
4. อาจไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายหาสาเหตุอื่นเพิ่มเติมครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ผู้ป่วยที่เป็นความดันโลหิตสูง และมีอาการ ปวดบวมแดงร้อนที่หัวเข่าและ ข้อนิ้วโป้งเท้า ควรรับประทานยาตัวใดครับ ที่สามารถ รักษาอาการความดันโลหิตสูง และไม่ส่งผลต่อ โรคเก๊าท์ ตอนนี้คุณพ่อ ทาน Melobic-15 (MELOXICAM) ผมไปหาข้อมูลแล้ว เป็นยาที่ส่งผลต่อความดันโลหิตสูงครับ แกเคยทานยาความดัน กับ ขับปัสสาวะเป็นระยะเวลาหลายปี (เป็นสิบปี) จนปัจจุบัน มีอาการ เป็นโรคเก๊าท์ร่วมด้วย เคยสอบถามแพทย์ แล้ว แจ้งว่า ยาตัวใดตัวหนึ่ง (ไม่ความดันก็ขับปัสสาวะ) ส่งผลให้มีอาการเป็นโรคเก๊าท์ ครับ แกเป็นคนทำงานหนักครับ (ขยัน+ดื้อ) ไม่ยอมอยู่เฉยๆ จนกว่าจะเดินไม่ได้ ปล.ปกติเวลาไปตรวจเลือด ค่าของยูริค ไม่สูงครับ ขอบคุณครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)