August 20, 2018 00:55
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
1. เข็มสุดท้ายที่ได้ฉีดจริง ฉีดในวันที่เท่าไหร่คะ
2. ในช่วงที่ฉีดยาคุม มีประจำเดือนมาตลอดทุกเดือนหรือไม่ อย่างไร
3. หลังครบกำหนดฉีดยาคุม มีเพศสัมพันธ์หลั่งใน ในวันที่เท่าไหร่บ้าง
4. เลือดที่ออกมาครั้งล่าสุด เป็นหยดเลือดกะปริบกะปรอย หรือเต็มผ้าอนามัยคะ และมากี่วัน
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
1.ฉีดวันที่25เม.ยค่ะ
2.ช่วงที่ฉีดยาคุมประจำเดือนไม่ได้มาทุกเดือนค่ะ เดือนแรกมานิดหน่อย เดือนที่สองไม่มา ค่ะ
3.มีการหลั่งในวันที่5ส.คแต่ดิฉันกินยาคุมฉุกเฉินไปแล้วค่ะ แล้วก็วันนี้ค่ะ
4.เลือดที่ออกครั้งล่าสุดมาวันที่11-13 เลือดมาแบบกระปริบกระปรอยค่ะ มีแค่ติดกกน.ค่ะ
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
ขอบคุณสำหรับข้อมูลโดยละเอียดค่ะ ขอตอบคำถามที่สงสัยดังนี้...
1. ยาคุมหมดฤทธิ์ไปแล้วหรือยัง?
ยาฉีดคุมกำเนิดชนิดที่ฉีดทุก 3 เดือน องค์การอนามัยโลก (WHO 2016) แนะนำให้ฉีดซ้ำทุก 12 สัปดาห์ และยืดหยุ่นให้ฉีดช้ากว่าวันนัดได้ 4 สัปดาห์โดยถือว่ามีผลคุมกำเนิดต่อเนื่อง นั่นคือรวมแล้วไม่เกิน 16 สัปดาห์นับจากยาคุมเข็มล่าสุดที่ฉีดไป
แต่สำหรับแนวทางของศูนย์ควบคุมโรค สหรัฐอเมริกา (US CDC 2016) แนะนำให้ฉีดซ้ำทุก 13 สัปดาห์ และยืดหยุ่นให้ฉีดช้ากว่าวันนัดได้ 2 สัปดาห์โดยถือว่ามีผลคุมกำเนิดต่อเนื่อง นั่นคือรวมแล้วไม่เกิน 15 สัปดาห์นับจากวันที่ฉีดยาคุมเข็มสุดท้าย
พิจารณาจากวันที่ฉีดเข็มสุดท้ายและวันนัดฉีดยาเข็มต่อไป ผู้นัดน่าจะยึดตามแนวทางขององค์การอนามัยโลก เนื่องจากนัดให้ฉีดซ้ำห่างจากเข็มล่าสุด 12 สัปดาห์นะคะ
และเมื่อพิจารณาจากระยะเวลาที่ยืดหยุ่นให้ฉีดยาช้ากว่าวันนัดได้ไม่เกิน 16 สัปดาห์นับจากที่ฉีดเข็มล่าสุด ผู้ถามจะต้องไปฉีดยาไม่เกินวันที่ 15 สิงหาคม มิฉะนั้นก็จะถือว่าไม่มีผลคุมกำเนิดจากยาแล้วนะคะ
2. มีโอกาสตั้งครรภ์หรือไม่?
ไม่มีวิธีคุมกำเนิดใดที่สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 100% ค่ะ ผู้ที่ฉีดยาคุมกำเนิด มีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 0.2 - 6% โดยถ้าฉีดยาคุมตรงตามนัดสม่ำเสมอ ความเสี่ยงจะค่อนไปทางต่ำ คือ 0.2%
แต่เมื่อเกินกำหนดฉีดยาตามนัด หากยังไม่เกินกรอบเวลาที่ยืดหยุ่นให้ฉีดยาคุมต่อได้ แม้จะถือว่ามีผลคุมกำเนิดจากยาอยู่ แต่ตัวเลขความเสี่ยงจะค่อนไปทางสูง ซึ่งอาจสูงเป็น 6% ได้ค่ะ
ดังนั้น การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกันในวันที่ 5 สิงหาคม จึงมีความเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์ไม่มากนัก อยู่ในช่วง 0.2 - 6% นะคะ ต่อให้ไม่รับประทานยาคุมฉุกเฉินก็ตาม
แต่การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกันหลังวันที่ 15 สิงหาคมเป็นต้นมา ถือว่ามีความเสี่ยงสูงขึ้นมาก จนอาจถึง 85% ซึ่งเป็นโอกาสตั้งครรภ์ตามปกติของผู้ที่ไม่ได้คุมกำเนิดค่ะ จึงควรรับประทานยาคุมฉุกเฉินโดยเร็วที่สุดที่ทำได้ อย่างช้าไม่เกิน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ เพราะอาจลดความเสี่ยงลงมาเป็น 15 - 25% จากประสิทธิภาพในการป้องกันของยาคุมฉุกเฉินค่ะ
แม้ว่าโดยเฉลี่ย ผู้ที่เลิกฉีดยาคุมชนิด 3 เดือน อาจใช้เวลา 4 - 5 เดือนนับจากวันนัดฉีดยาล่าสุดจึงจะมีไข่ตกและพร้อมตั้งครรภ์ได้ แต่ผู้ใช้บางรายก็ใช้เวลาน้อยกว่านั้นมาก หรือบางรายก็ใช้เวลานานกว่านั้นมาก ดังนั้น ในกรณีที่เกินกำหนดฉีดยาคุมตามนัด โดยเฉพาะเมื่อเกินกรอบเวลาที่ยืดหยุ่นให้ฉีดยาต่อเนื่องได้ ควรใช้ถุงยางร่วมด้วยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์นะคะ เพราะถ้าใช้ถุงยางถูกต้อง และไม่มีปัญหารั่วซึมหรือฉีกขาด จะมีโอกาสตั้งครรภ์เพียง 2% ค่ะ
3. ควรทำอย่างไร?
เลือดที่ออกมาวันที่ 11 - 13 สิงหาคม อาจจะเป็นแค่หยดเลือดกะปริบกะปรอยที่เป็นผลตกค้างจากยาคุมที่เคยฉีดก็ได้ค่ะ จึงคาดการณ์ได้ยากว่าจะมีไข่ตกเมื่อไหร่ ดังนั้น หากยังไม่ได้รับประทานยาคุมฉุกเฉินในครั้งล่าสุด ให้รีบรับประทานโดยเร็วค่ะ เป็นการป้องกันสำรองไว้ก่อน
จากนั้นก็ให้รอว่าจะมีประจำเดือนมาหรือไม่ ซึ่งไม่สามารถระบุได้ว่าจะมาเมื่อไหร่นะคะ แต่ถ้ากังวลใจเรื่องการตั้งครรภ์ แนะนำให้ซื้อชุดทดสอบการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะ มาตรวจในตอนเช้าหลังตื่นนอน ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วันค่ะ
และจากนี้เป็นต้นไป ควรใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่จะมีเพศสัมพันธ์นะคะ แล้วถ้าถุงยางรั่วซึมหรือฉีกขาด จึงค่อยรับประทานยาคุมฉุกเฉินซ้ำเพื่อเป็นวิธีป้องกันสำรองค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ดิฉันฉีดยาคุมแบบ3เดือนมาแล้ว2 เมื่อวันที่18 ก.ค หมอนัดฉีดยาคุมครั้งที่3ดิฉันไม่ได้ไปตามนัด แล้วมีเพศสัมพันธ์กับแฟนหลั่งใน แล้ววันที่11 ส.คมีอาการปวดท้องปจด.มากแต่เลือดมาแค่นิดเดียว ดิฉันอยากรู้ว่าจะมีสิทธิ์ท้องไหม แล้วยาคุมหมดฤทธ์ไปแล้วหื้อยัง
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)