February 28, 2019 02:38
ตอบโดย
วิภา สุวรรณชีวะศิริ (พญ.)
สวัสดีค่ะ ก่อนจะรักษาควรได้รับการวินิจฉัยที่ถูกต้องก่อนค่ะ จึงจะเลือกการรักษาที่เหมาะสมได้ ถ้ามีประวัติว่ามีเพสสัมพันธ์ การเกิดตุ่มหรือผื่นที่เกิดบริเวณอวัยวะเพศเกิดได้จากหลายสาเหตุค่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์
- เริม มักเป็นตุ่มน้ำใสหลาย ๆ ตุ่ม ผู้ป่วยมักจะมีอาการปวดแสบร่วมด้วย
- แผลริมแข็ง หรือ ซิฟิลิส
- หนองใน
- หูดหงอนไก่
ฯลฯ
แต่หากไม่เคยมีเพศสัมพันธ์มาก่อน อาจจะเกิดจากผิวหนังอักเสบ จากการระคายเคือง หรือผิวแห้งได้ค่ะ
แต่ละโรคก็มีการรักษาต่างๆ กันไป บางโรคต้องรักษาคู่นอนด้วย หากเป็นจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ก็ควรสวมถุงยางอนามัย หากเกิดจากการติดเชื้อก็ควรรักษาความสะอาดและสุขอนามัยเบื้องต้น ที่สำคัญไม่ควรใช้มือเกาเพราะมือของเราสกปรกอาจจะทำให้เกิดการติดเชื้อแบคทีเรียซ้ำซ้อนได้ ดังนั้นจึงแนะนำว่าควรไปพบแพทย์เพื่อรับการซักถามประวัติ ตรวจร่างกาย และตรวจทางห้องปฏิบัติการ หากมีความจำเป็นค่ะเพื่อช่วยในการวินิจฉัยค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
คุณหมอครับ พอดีผมมีตุ่มสีแดงตรงนี้คับ อันนี้ผมก็ไม่ทราบว่าคืออะไร อาการ : ไม่รู้สึกคัน แต่พอเกานิดๆ กลับรู้สึกคัน กดไปไม่เจ็บ ระยะเวลา : 2-3 อาทิตย์แล้วคับ ยาที่ใช้ : ลองใช้ยาแก้ Hofra-B cream กับยาที่แก้คันแล้วก็ไม่ยุบครับผม **ตัวยาอันนี้ผมลองใช้ทีละอันคับผมและดูอาการ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)