August 24, 2018 23:16
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
การฉีดยาคุมกำเนิดนั้นจะมีผลข้างเคียงทำให้ประจำเดือนผิดปกติ มีเลือดออกกระปริดกระปรอยระหว่างรอบเดือนได้ครับ
การฉีดยาคุมกำเนิดชนิด 3 เดือนนั้น หลังหยุดฉีดยาคุมแล้วตัวยามักจะยังมีผลทำให้ไม่มีการตกไข่ต่อไปได้อีกระยะหนึ่ง จึงอาจทำให้มีประจำเดือนผิดปกติได้ในช่วงหลังหยุดฉีดยาใหม่ๆครับ
สำหรับการฉีดยาคุมกำเนิดเข็มต่อไปนั้น เนื่องจากเป็นการฉีดที่ไม่ตรงนัด และในขณะนี้ประจำเดือนก็ยังมาไม่ปกติ จึงอาจบอกได้ยากครับว่าควรกลับไปฉีดยาคุมต่อในวันใด
หมอจึงแนะนำดังนี้ครับ
- ก่อนที่จะไปฉีดยาคุมเข็มต่อไปควรจะต้องมั่นใจก่อนว่าไม่มีการตั้งครรภ์ครับ จึงแนะนำให้ตรวจการตั้งครรภ์ดูก่อน โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วัน และใช้ปัสสาวะหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ถ้าตรวจตามนี้แล้วไม่ตั้งครรภ์ก็สามารถไปฉีดยาคุมต่อได้ครับ
- หลังฉีดยาคุมครั้งนี้ แนะนำให้งดการมีเพศสัมพันธ์หรือใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วยไปก่อน ในช่วง 7 วันแรกหลังฉีดยา เพื่อให้ยาคุมออกฤทธิ์ได้อย่างเต็มที่ก่อนครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
1. ฉีดยาคุมในวันที่เท่าไหร่คะ
2. วันนัดฉีดยาที่ไม่ได้ไปฉีดตามนัด คือวันที่เท่าไหร่คะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ฉีดวันที่24 เมษายนคะ
แล้วหมอนัดฉีดอีกที 21 กรกฎาคมคะ
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
แล้วคือตอนนี้เหมือนเป็นประจำเดือนปกติ ไม่ใช่เลือดออกกระปริบกระปรอย แต่เลือดออกแบบเป็นลิ่มเลยอ่ะคะ แบบนี้คือยังไงเหรอคะ
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
เนื่องจากช่วงที่ผ่านมานั้นได้มีลักษณะของเลือดผิดปกติที่ออกทางช่องคลอดมาหลายครั้ง จึงอาจบอกได้ยากครับว่าเลือดที่ออกมาครั้งล่าสุดนี้ใช่ประจำเดือนหรือไม่
เลือดที่ออกมานั้นอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุครับ เช่น
- เป็นประจำเดือนตามปกติ
- เป็นเลือดที่ออกเนื่องจากระดับฮอร์โมนในร่างกายและการตกไข่ยังไม่สม่ำเสมอ
- อุ้งเชิงกรานอักเสบ
- ปากมดลูกอักเสบ
- เนื้องอกมดลูก
เป็นต้น
ถ้าหากเลือดดังกล่าวออกมาในปริมาณมาก หยุดยาก ก่อให้เกิดอาการอ่อนเพลียเหนื่อยง่าย หน้ามืด หรือมีอาการตกขาวผิดปกติร่วดัวย ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุครับ
และถ้าหากต้องการฉีดยาคุมกำเนิดเข็มที่ 2 ก็ควรมีการตรวจการตั้งครรภ์เพื่อให้มั่นใจก่อนว่าไม่มีการตั้งครรภ์ตามที่ได้แนะนำไปก่อนหน้านี้ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
ขออนุญาตแนะนำเพิ่มเติมนะคะ
การฉีดยาคุมชนิดที่ฉีดทุก 3 เดือน ตามแนวทางขององค์การอนามัยโลก ปี ค.ศ.2016 แนะนำให้ฉีดซ้ำทุก 12 สัปดาห์ หรือฉีดล่าช้าออกไปได้อีก 4 สัปดาห์โดยถือว่ายังมีผลคุมกำเนิดต่อเนื่องอยู่ (แต่ประสิทธิภาพอาจลดลงเมื่อเทียบกับการฉีดยาตรงตามนัดสม่ำเสมอ) เมื่อพิจารณาจากวันที่ฉีดยาของคุณคือ 24 เมษายน จะต้องฉีดยาคุมเข็มใหม่ไม่เกิน 16 สัปดาห์นับจากนั้น หรือตรงกับวันที่ 14 สิงหาคมนะคะ
ดังนั้น ปัจจุบันถือว่าไม่มีผลคุมกำเนิดต่อเนื่องแล้วค่ะ การฉีดยาเข็มใหม่ จะถือเป็นการเริ่มต้นใช้ยาคุมเข็มแรกอีกครั้ง นั่นคือ ต้องเริ่มใช้ภายใน 7 วันแรกของการมีประจำเดือน (ตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก ปี ค.ศ.2016) เพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีการตั้งครรภ์อยู่ อย่างไรก็ตาม ถ้ามั่นใจว่าใช้ถุงยางถูกต้อง และไม่รั่วซึมหรือฉีกขาดแน่นอน ก็มีโอกาสตั้งครรภ์น้อยมาก
แต่ในกรณีที่ไม่มั่นใจว่าเลือดที่ออกมาเป็นประจำเดือนจริง ๆ หรือไม่ ก็ควรตรวจการตั้งครรภ์ก่อนเริ่มฉีดยาค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ถ้าตรวจแล้วไม่ขึ้นว่าตั้งครรภ์ ก็สามารถฉีดยาได้เลยใช่ไหมคะ เพราะวันนี้ ปจด มาเยอะเลยคะ
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
ถ้าตรวจการตั้งครรภ์ห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันแล้วไม่มีการตั้งครรภ์ก็สามารถฉีดยาคุมได้เลยครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
คือสมมติมีเพศสัมพันธ์กันวันสุดท้ายวันที่22 ก้อนับไปอีก 14วัน แล้วค่อยตรวจใช่ไหมคะ
แล้วถ้ามีเพศสัมพันธ์กันครั้งสุดท้ายแบบใช้ถุงยางป้องกัน วันที่22 แล้ว ปจด มาวันที่ 24 ละคะ อันนี้ปลอดภัยไหมคะ หรือมันคือผลข้างเคียงของยาจากเข็มแรกคะ รบกวนคุณหมอหน่อยนะคะ ขอบคุณมากคะ
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
1. ถ้ามีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายในวันที่ 22 ก็ให้นับไปอีก 14 วันแล้วค่อยตรวจการตั้งครรภ์ ถูกต้องครับ
2. ถ้าการมีเพศสัมพันธ์ทุกครั้งใช้ถุงยางอนามัยมาโดยตลอด และไม่มีการแตกรั่วของถุงยางอนามัยโอกาสผิดพลาดตั้งครรภ์ก็มีน้อยมาก คือ มีประมาณ 2% เท่านั้นครับ
3. เลือดที่ออกในวันที่ 24 นั้นใช่ประจำเดือนหรือไม่ต้องดูจากลักษณะหลายอย่างประกอบครับ คือ
- เลือดออกนาน 3-7 วัน โดยวันแรกๆเลือดออกในปริมาณที่มากกว่าวันหลังๆ
- ใช้ผ้าอนามัย 2-3 แผ่นต่อวัน
- สีเลือดเป็นสีเลือดเก่าๆคล้ำๆ
ถ้าเป็นตามนี้โอกาสที่จะใช่ประจำเดือนก็มีสูง และการที่มีประจำเดือนมาแล้วก็เป็นการบอกได้ทางหนึ่งว่าไม่มีการตั้งครรภ์ครับ
แต่ถ้าไม่แน่ใจว่าใช่ประจำเดือนหรือไม่ ก็แนะนำให้รอตรวจการตั้งครรภ์ดูก่อนครับ ถ้าตรวจแล้วไม่มีการตั้งครรภ์ก็สามารถไปฉีดยาคุมกำเนิดได้อย่างปลอดภัย
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
แล้วถ้าเลือดที่ออกมามีทั้งคล้ำและแดงละคะ
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
ถ้าไม่แน่ใจว่าใช่ประจำเดือนจริงหรือไม่ก็แนะนำให้รอตรวจการตั้งครรภ์ดูก่อนดีกว่าครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
แล้วมันมีอาการ ปวดหลัง และปวดท้อง แบบตอนเป็น ปจด ด้วยอ่ะคะ
คุณหมออย่าเพิ่งรำคาญนะคะ
แต่ก้อคงต้องรอดูไปก่อนเนอะ ยังไงก็ขอบคุณคุณหมอมากนะคะ
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
ใช่ครับ ถ้าไม่แน่ใจจริงๆก็ควรรอไปก่อนครับ ระหว่างนี้ก็ให้งดการมีเพศสัมพันธ์ไปก่อนเพื่อให้สามารถตรวจการตั้งครรภ์ให้ได้เร็วที่สุด เมื่อตรวจมั่นใจแล้วว่าไม่ตั้งครรภ์จะได้สามารถฉีดยาคุมกำเนิดได้อย่างสบายใจครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
สวัสดีคะคือว่าหนูเคยฉีดยาคุมแบบ3เดือนมา1เข็ม ระหว่างในสามเดือนนั้นก้อมีเลือดออกกระปริบกระปรอยทั้ง3เดือน พอถึงกำหนดเดือนกรกฎาคมไม่ได้ไปฉีดเข็มที่2 แล้วเดือนกรกฎาคมประจำเดือนก็ไม่มาทั้งเดือน จนเมื่อกลางเดือนสิงหาคมนี้มีประจำเดือนมาประมาณ1อาทิตย์ แล้วเว้นไป1อาทิตย์ที่มันหยุดไป ระหว่างนี้ก็มีอาการเจ็บหน้าอก แล้วก็มีอะไรกับแฟนแต่ก็ใช้ถุงยางป้องกันนะคะ แล้ววันนี้อยู่ๆเหมือนประจำเดือนมา จะเป็นอะไรรึป่าวคะ จะท้องไหม รึเป็นเพราะผลข้างเคียงของยาคะ แล้วถ้าอยากจะฉีดยาเข็มที่2ฉีดได้เมื่อไรคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)