มีเลือดออกขณะขับถ่าย เป็นสีแดงสด มีเป็นลิ่มเลือดออกมาเล็กน้อยเวลาเช็ด แต่ไม่มีอาการร่วม ไม่ปวดท้อง ขับถ่ายปกติ ไม่มีติ่งอะไรออกมาจากรูขับถ่าย เป็นมา3วันแล้วค่ะ อยากรู้ว่าอาการมันคืออะไร

สวัสดีค่ะ กรณีมีอาการถ่ายเป็นเลือดสด หรือเลือดสดเคลือบอุจจาระในปริมาณไม่มาก ส่วนใหญ่มักจะคิดถึงโรคของลำไส้ใหญ่ หรือโรคบริเวณทวารหนักมากที่สุด เช่น
1.โรคริดสีดวง ก็มีโอกาสถ่ายเป็นเลือดได้ แม้ท้องไม่ผูก ลักษณะเป็นเลือดสดตามหลังการถ่ายอุจจาระ อาจจะไม่มีอาการเจ็บปวดหรือถ้ามีแผลขอบรูทวารหนักอาจะจ็บได้ค่ะ เนื่องจากอุจจาระแข็งก็สามารถขูดให้เลือดไหลได้ค่ะ
*รอกสีดวงไม่จำเป็นต้องมีติ่งเนื้ออกมานะคะ อาจจะอยู่ด้านในได้ค่ะ ต้องอาศัยการตรวจร่างกายเพ่ม จึงจะทราบแน่ชัดค่ะ
2.ส่วนอีกโรคที่มักพบได้บ่อยๆคือ มีแผลบริเวณรูทวาร ซึ่งเกิดจากอุจจาระแข็ง หรือการมีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนัก จะทำให้เกิดแผลบริเวณรูทวาร และทำให้มีอาการถ่ายเป็นเลือดสดและเจ็บบริเวณรูทวารได้คะ ดังนั้น การถ่ายเป็นเลือด
3.การติดเชื้อทางเดินอาหารมักมี อาการปวดท้อง ท้องเสียถ่ายเหลวถ่ายเป็นเลือด ปวดบิดๆ
เบื้องต้น หากทีอาการเป็นเหมือนข้อสามให้ไป รพ เนื่องจากต้องตรวจร่างกายเพิ่มเติมและรักษาโดยให้ยาฆ่าเชื้อค่ะ
แต่ถ้าไม่ใช่ สำหรับคนไข้ นึกถึงโรครอดสีดวงทวารมากที่สุด การรักษาความสะอาด โดยการนั่งแช่นก้นในอ่างน้ำอุ่น กินยาระบายให้อุจจาระไม่แข็ง นั่งอุจจาระอย่างถูกวิธี อาการมักจะดีขึ้นภายใน 3-5 วัน หากไม่ดีขึ้นควรไปพบแพทย์คะ

สวัสดีค่ะ การถ่ายเป็นเลือดสีแดงสดๆ เกิดได้จากสาเหตุต่างๆ เช่น
- ริดสีดวงทวารภายใน ระยะที่ 1 เกิดจากการที่เส้นเลือดดำที่ทวารหนักมีการโป่งพองขึ้นจากแรงดันที่สูงขึ้น เช่นมีการเบ่งถ่ายประจำ ท้องผูก อุจจาระแข็ง หรือมีท้องเสียรุนแรงนำมาก่อน การนั่งส้วมนาน ก็ทำให้เกิดริดสีดวงได้ ซึ่งในระยะที่ 1 จะไม่มีติ่งยื่นออกมาจากรูทวาร และไม่มีอาการปวดใดๆ
แต่จะพบได้ที่มีถ่ายเป็นเลือดสดๆสีแดง หลังจากถ่ายอุจจาระค่ะ การวินิจฉัย ทำได้จากการตรวจทวารหนักค่ะ สามารถรักษาได้โดยการใช้ยารับประทาน และการเหน็บทวาร เพื่อให้ริดสีดวงยุบ
จากอาการ จะคิดถึงโรคนี้มากที่สุดค่ะ

- แผลที่ขอบทวาร พบว่าทำให้เกิดเลือดออกเป็นสีแดงสดหลังจากถ่ายได้ เกิดจากการปริแยกของขอบรูทวารจากสาเหตุเช่น ถ่ายแข็ง ท้องผูก แต่โรคนี้ มักจะจำให้มีอาการเจ็บร่วมด้วย

แนะนำว่าให้ไปพบแพทย์ เพื่อตรวจหาสาเหตุนะคะ
นอกจากนี้ การป้องกันไม่ให้ถ่ายเป็นเลือด ทำได้ดังนี้
- รับประทานผักผลไม้ที่มีกากใยสูง เพื่อช่วยเพิ่มกากใยให้กับอุจจาระ ป้องกันอุจจาระแข็ง
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ อย่างน้อยวันละ 10 แก้ว หรือ 1.5 ลิตร
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ จะช่วยเรื่องการไหลเวียนเลือด และการทำงานของระบบย่อยอาหาร
- หลีกเลี่ยงการนั่งแช่ในส้วมเป็นเวลานานๆ
- หลีกเลี่ยงอาหารหมักดอง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์

การรักษาโรคริดสีดวงทวาร คือ 1. รักษาอาการท้องผุก ได้แก่ ทานอาหารที่่มีกากใยมากๆ ดื่มน้ำเยอะๆ 2. ยาระบาย เช่น MOM , fiber เช่น senokot ต่างๆ อาจต้องใช้เป็นประจำสัก 1-2 สัปดาห์เพื่อให้อุจจาระอ่อนนุ่มขึ้น ลดการบาดรูทวารค่ะ 3. ยาลดอาการปวดรูทวาร เช่น ไนโตรกลีเซอริน ก็ช่วยได้ค่ะ 4. การใช้ยา ซึ่งควรใช้ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ค่ะ
หากเป็นนาน รักษาเบื้องต้นด้วยการปรับวิถีชีวิตประจำวันแล้วไม่ดีขึ้น สามารถปรึกษาคุณหมอศัลยกรรมเพื่อประเมินอีกครั้งค่ะ

ยา naproxen นี้จัดเป็นยาในกลุ่มNSAIDs คือยาต้านการอักเสบชนิดไม่ใช่เสตียรอยด์
กล่าวคือมีฤทธิ์ลดปวด ลดการอักเสบของเนื้อเยื่อค่ะ ไม่ได้ช่วยรักษาอาการของริดสีดวงโดยตรงหรือไม่ได้ทำให้เลือดหยุดใดๆ
หากเลือดที่ออกเป็นไม่มาก แนะนำให้ปฏิบัติตัวเพื่อป้องกันเลือดออกเพิ่มดังกล่าวก่อนค่ะ หากเลือดยังไม่หยุด หรือออกมาเป็นปริมาณมาก ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจ และรับการรักษาที่ถูกต้องค่ะ