July 25, 2017 16:52
ตอบโดย
สารินทร์ สีหมากสุก (นพ.)
สวัสดีครับ อาการทอนซิลอักเสบดังกล่าว สามารถลุกลามไปยังข้างเคียงได้ครับ หากไมไ่ด้รับการรักษาที่เหมาะสม สามารถกินยาปฆิชีวะนะที่แพทย์ให้มากินต่อได้เลยครับ ส่วนหนองที่บริเวณเหงือกไม่ขอออกความเห็นครับ แนะนำว่าควรให้แพทย์เจ้าของไข้เป็นคนตรวจนะครับ ว่ามันเป็นเรื่องเดียวกัน(คือหนองที่ลุกลามมายังเหงือก) หรือว่าเป็นปัญหาของฟัน แพทย์จะได้ส่งต่อไปที่แผนกทันตกรรมครับ ระหว่างนี้ควรรักษาความสะอาดในบริเวณช่องปากครับ หรือหากกินอะไรได้ไม่มาก แนะนำเป็นอาหารเหลวไปก่อนครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
เมื่อวันที่ 23 ก.ค. ผมมีอาการตัวร้อน กลืนแล้วเจ็บคอ เลยไปหาหมอในวันถัดมา หมอว่าเป็นคออักเสบ(เป็นแค่ด้านซ้าย) หมอให้ยาปฏิชีวนะฆ่าแบคทีเรียกับยาแก้ไอเม็ดเหลืองทานคู่กัน แต่มีอาการอื่นร่วมด้วยคือ เจ็บบริเวณเหงือกตรงฟันกรามรองสุดท้าย(ด้านเดียวกับทอนซิล) และปุ่มเหงือกด้านขวามีอาการปวมเป่ง เมื่อเช้าผมส่องกระจกแล้วลองกดดูมีก้อนหนองน้อยๆ ออกมา ตกใจมาเลยรีบไปแปรงฟัน แต่หายปวดเลยครับ ผมเริ่มกินยาของหมอเม็ดแรก (มื้อเย็น 24/07/60) เม็ดสอง (มื้อเช้า 25/06/60) และล่าสุดคือ มื้อเที่ยงในวันเดียวกัน อยากทราบว่าต่อมทอนซิลอักเสบแบบมีหนองมีอาการปวดเหงือกร่วมด้วยได้หรือไม่ครับ มันเคี้ยวลำบากกดที่เหงือกก็เจ็บ ฟันก็เคลื่อนด้วยครับ ก่อนหน้านี้ที่อุดฟันซี่นี้แตก มีอาการปวดมากครับเลยไปอุดใหม่เมื่อต้นเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา ปล. ผมอายุ 17 ปี เคยมีประวัติเป็นทอนซิลอักเสบแบบไวรัส เพิ่งเคยเป็นแบบแบคทีเรียเป็นครั้งแรกครับ ลาโรงเรียน 2 วันแล้วครับ พรุ่งนี้(26/07/60) หมอนัดมาดูอาการอีกทีครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)