เป็นผู้หญิงอายุ 20 ปีค่ะ ปวดเสียดท้องด้านขวา ปวดเหมือนเวลาออกกำลังกายแล้วเสียดท้อง ไม่ปวดมากค่ะ เป็นมาประมาณ 4-5 วันแล้ว ไม่ปวดบ่อยค่ะมาเป็นพักๆ แป๊ปเดียวหาย กดแล้วไม่เจ็บ ไม่มีก้อน แต่บีบช่วงเอวรู้สึก เคยเป็นกรวยไตอักเสบเมื่อ 2-3 ปีที่แล้วค่ะ เคยมีปัญหาประจำเดือนมากระปริบกระปรอยแต่รักษาหายแล้วค่ะ ตอนนี้ปัสสาวะกระปริบกระปรอยค่ะ ทานน้ำน้อย บางวันแทบไม่ได้กิน อยากรู้ว่าจะเป็นไส้ติ่งไหมคะ หรือเป็นโรคเกี่ยวกับไตหรือนิ่ว หรืออาจเป็นอย่างอื่น พอดีอยู่คนเดียวค่อนข้างกังวลว่าควรไปหาหมอไหม

สวัสดีค่ะ คำถามของคุณอาจกว้างเกินไป ทำให้คุณหมอไม่สามารถให้ความเห็นได้ กรุณาอธิบายอาการอย่างละเอียดว่าเป็นอย่างไร บริเวณไหน เป็นมานานและถี่แค่ไหน รวมไปถึงข้อมูลส่วนตัวของคุณ เช่น เพศ อายุ ยาหรืออาหารเสริมที่ทานอยู่ เป็นต้น หรือคุณอาจค้นหาคำตอบคุณหมอ และกว่า 5,000 บทความสุขภาพในเว็บของเรา หากคุณถามเกี่ยวกับโรงพยาบาล คุณสามารถค้นหาข้อมูลติดต่อของโรงพยาบาลได้ที่นี่ หรือส่งอีเมลมาที่ [email protected] ค่ะ ขอบคุณค่ะ

อาการปวดท้องน้อยด้านขวาเกิดได้หลายสาเหตุนะคะ การตรวจร่างกายจากแพทย์จะช่วยในการวินิจฉัยได้ สาเหตุของอาการปวดท้องน้อยด้านขวาที่พบได้ เช่น
- โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ปัจจัยเสี่ยงเช่น อั้นปัสสาวะ ดื่มน้ำน้อย สามารถมีอาการปวดท้องน้อยได้ มักพบร่วมกับอาการปัสสาวะแสบขัด หรือปัสสาวะขุ่น พบได้ว่ามีปัสสาวะบ่อย และเจ็บบริเวณท้องน้อย หรือท่อปัสสาวะเมื่อตอนปัสสาวะจะสุด วินิจฉัยได้จากอาการและ การตรวจปัสสาวะ รักษาได้ด้วยยาปฏิชีวนะ
-ไส้ติ่งอักเสบ อาการปวดท้องด้านขวาล่าง คลื่นไส้อาเจียน เบื่ออาหาร อาจพบว่ามีการปวดจากกลางท้องนำมาก่อน และย้ายตำแหน่ง มักมีไข้ร่วมด้วย และอาการจะปวดมากขึ้นเรื่อยๆ รักษาด้วยการผ่าตัดค่ะ
- อุ้งเชิงกรานอักเสบ กรณีเพศหญิง คือการติดเชื้อแบคทีเรียบริเวณอุ้งเชิงกราน ได้แก่ มดลูก ปีกมดลูก อาจพบมีไข้ร่วมด้วย หรือมีตกขาวผิดปกติออกมา ได้ค่ะ การวินิจฉัยต้องใช้การตรวจภายใน
- ลำไส้อักเสบ มักพบมีอาการปวดท้อง ลักษณะมักจะปวดบีบๆ เป็นพักๆ อาจมีท้องเสียร่วมด้วยได้ แต่อาการมักหายไปประมาณ 1-2 วัน
- กล้ามเนื้ออักเสบ อาจเกิดจากการยกของหนัก หรือนั่งนาน ทำให้มีการปวดเกร็งของกล้ามเนื้อบริเวณท้องได้

แนะนำว่าให้ไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลเพื่อตรวจว่าเกิดจากสาเหตุใดค่ะ