April 16, 2019 07:56
ตอบโดย
สารินทร์ สีหมากสุก (นพ.)
เริมเกิดจากเชื้อไวรัสชนิดหนึ่งครับ ที่ชื่อว่า herpes simplex virus (HSV)
สำหรับการติดเชื้อเริมนี้มักเกิดขึ้นโดยการสัมผัส ระยะฟักตัวประมาณ 4-5 วัน หลังการติดเชื้อในครั้งแรก อาจมีอาการทั่วทั้งร่างกาย เช่น ปวดเมื่อย อ่อนเพลีย ไม่สบายตัว หลังจากนั้นประมาณ 1-2 สัปดาห์ต่อมา จะเริ่มมีรอยโรคที่อวัยวะเพศ เป็นลักษณะตุ่มใสขนาด 1-2 มม. ซึ่งต่อมาจะแตก มีน้ำสีเหลืองข้นเคลือบด้านบน มีอาการเจ็บ อาจมีปัสสาวะแสบขัดจากการที่น้ำปัสสาวะระคายเคืองที่แผล หลังจากนั้นหากมีอาการเป็นซ้ำมักไม่รุนแรง และมักหายไปภายใน 1 สัปดาห์ครับ
หากพบว่าตัวเองสงสัยเป็นเริม แนะนำให้ไปพบแพทย์ก่อนนะครับ เพื่อรับคำแนะนำในการดูแลรักษาตนเองรวมถึงคู่นอนของคุณด้วย สำหรับวิธ๊การรักษาคือ การลดอาการปวดและลดการเพิ่มจำนวนของไวรัส ซึ่งถ้ารักษาภายในช่วง 5 วันแรกหลังจากมีอาการ จะให้ผลดีที่สุดครับ ในกรณีที่เป็นบ่อยอาจเกิดจาก การได้รับเชื้อไวรัสมาอย่างต่อเนื่อง หรือภูมิต้านทานต่ำลง อย่างไรก็ตามหากเป้นทุกเดือนเลย หมอแนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อทำการซักประวัติและตรวจร่างกาย รวมถึงอาจตรวจเลือดอื่นๆด้วยครับ เช่น ซิฟิลิส HIV ไวรัสตับอักเสบ เป้นต้น บางครั้งโรคที่เป็นอาจไม่ใ่ชเริม หรืออาจจะไม่ได้มีแค่เริมอย่างเดียวก็ได้ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
ตอบโดย
กอบศักดิ์ ชัยชะแตง (นพ.)
จากประวัติของคนไข้ เป็นเริมประมาณเดือนละครั้ง ถือว่าเป็นบ่อยครับ โดยหากเป็นมากกว่า6ครั้งใน1ปี แสดงว่ามีอัตราการกลับเป็นซ้ำบ่อยครับ
ในคนไข้ที่เป็นเริมที่อวัยวะเพศซ้ำอยู่บ่อยครั้งนั้น คือมากกว่าปีละ 6 ครั้ง แพทย์จะให้รับประทานยาอะไซโคลเวียร์ (Acyclovir) ครั้งละ 400 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง ทุกวัน ติดต่อกันอย่างน้อย 1 ปี ซึ่งวิธีนี้จะช่วยลดอัตราการเป็นซ้ำและลดการแพร่เชื้อของผู้ป่วยที่ไม่แสดงอาการได้ ในกรณีที่โรคไม่แสดงอาการและสงบแล้ว หากยังมีอาการอยู่แนะนำให้รับประทาน ยาacyclovir ขนาด400มก วันละ3ครั้ง ทุก8ชั่วโมง เป็นเวลา5วันครับ
อย่างไรก้ตามคนไข้ไม่ควรซื้อยารับประทานเองก่อนพบแพทย์ เนื่องจากควรไปพบแพทย์เพื่อรับการยืนยันวินิจฉัยว่าเป็นเริมจริง และตรวจว่ามีการติดเชื้อบริเวณผิวหนังอื่นๆร่วมด้วยหรือไม่ เพื่อการรักษาที่เหมาะสมครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ผมเป็นเริมที่โคนอวัยเพศ ประมาณเดือนละครั้ง ผมคิดว่ามันเป็นบ่อยไปหรือเปล่าครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)