สวัสดีค่ะ พอดีรถล้มเมื่อวันที่2มีนาที่ผ่านมา (ประมาณ5-6วันที่แล้ว)แล้วร่างกายไถลไปกับพื้นถนนได้แผลถลอกมาเยอะเลยหนักสุดที่เท้าค่ะ เป็นแผลถลอกตรงหลังเท้าไปถึงข้อพับที่ตรงกับข้อเท้าค่ะเรียกไม่ถูก 2วันแรกยังเดินได้ปกติเจ็บเท้าบ้าง พอวันที่3ก็ยังเดินได้ปกตินะคะแต่เท้ามีอาการบวมและตึงบริเวณแผลค่ะ พยายามนอนเอาหมอนหนุนขาให้สูงขึ้น จนถึงวันนี้เท้าก็ยังบวมและตึงค่ะ แต่แผลแห้งและปิดแล้วนะคะ ไม่ร้อน ไม่แดงค่ะ เพียงแต่มีอาการบวมและตึง อยากถามว่าอีกกี่วันเท้าถึงหายบวมคะแล้วเป็นเพราะช่วง3วันแรกเดินบ่อยไปถึงทำให้เท้าบวมหรือเปล่าคะ เพราะช่วง3วันแรกต้องไปสอบค่ะเดินขึ้นลงบันไดทั้งวัน แล้วร้ายแรงไหมคะ มีวิธีรักษาอาการเบื้องต้นที่บ้านไหมคะ ขอบคุณค่ะ

เราได้รับคำถามของคุณแล้ว รอทีมแพทย์มาตอบคำถามสักครู่นะคะ พูดคุยหรือสอบถามแอดมินได้ทุกวัน ทางไลน์ @honestdocs ค่ะ

1.เรื่องเเผล ควรพบเเพทย์ประมเินนะครับ เพราะมีโอกาสติดเชื้อ ที่เท้าบวมเเละตึง คืออาจเป็นได้ตั้งเเต่การติดเชื้อลงเนื้อเยื่อชั้นลึก บวมจากการกระเเทกเเล้วอักเสบ หรือกระดูกร้าวก็ได้ครับ เเละต้องพิจารณาเรื่องวัคซีนบาดทะยักด้วยครับ เเผลที่ครูดกับพื้น เป็นเเผลสกปรก ถ้าฉีดเข็มล่าสุดเกิน 5 ปี ควรฉีดกระตุ้นนะครับ
(โรคบาดทะยักมีระยะฟักตัวคือ ตั้งแต่ได้รับเชื้อโรคจนกระทั่งเกิดอาการประมาณ 8 วัน คือจะอยู่ในช่วง 3 - 21 วัน ผู้ป่วยที่ติดเชื้อบาดทะยัก
จะมีอาการเช่น กรามเเข็ง กล้ามเนื้อเเข็งเกร็ง มีกล้ามเนื้อเเข็งทั้งตัวตัวงอเป็นสะพานโค้ง ปวดมาก)

2.เรื่องเท้าบวม อย่างที่บอกว่ามีหลายสาเหตุ ดังนั้นเเนะนำพบเเพทย์ครับ
เเละลดหรืองดการลงน้ำหนักไปก่อนครับ ถ้าอักเสบอยู่เเล้วมีการใช้งานเท้า การอักเสบจะไม่หายครับ เบื้องต้นถ้าบวมเเดงปวดเเละไม่มีประวัติเเพ้ยาเเนะนำปรึกษาเภสัชกร กินยาแก้ปวดลดอักเสบกลุ่มNSAID เช่น Ibuprofen Celebrex Naproxen เป็นต้นครับ
หรือถ้าไม่ปวดมาก กินยาParacetamolได้ครับ เเล้วหาเวลาไปพบเเพทย์ครับ

ถ้าไปโรงพยาบาลตามสิทธิการรักษา สามสิบบาท ประกันสังคม ก็เบิกได้ครับ ถ้าเป็นข้าราชการก็เบิกได้ทุก โรงพยาบาลรัฐครับ
(เช็คสิทธิที่สายด่วนสปสช.1330)หรือhttp://eservices.nhso.go.th/eServices/mobile/login.xhtml

สวัสดีครับ
การที่เท้าและข้อเท้ามีอาการบวมตึงหลังลื่นล้มแล้วเป็นแผลนั้นอาจเกิดจากการบาดเจ็บของเนื้อเยื่อบริเวณเท้าได้ และก็อาจมีความสัมพันธ์กับการเดินในช่วงที่ผ่านมาได้ครับ การบรรเทาอาการในกรณีนี้หมอแนะนำให้ลดการเดินให้น้อยลง หาผ้ายืดมาพัน ยกขาสูงเวลานั่งและนอน และถ้ามีอาการปวดก็สามารถประคบอุ่นหรือรับประทานยาแก้ปวดได้ครับ

แต่ถ้าหากอาการไม่มีแนวโน้มที่จะดีขึ้นใน 1 สัปดาห์ มีอาการบวมมากขึ้นเรื่อย มีอาการปวดบวมแดงในลักษณะที่เหมือนการอักเสบ หมอก็แนะนำว่าควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจประเมินอาการและให้การรักษาเพิ่มเติมครับ