สวัสดีค่ะอยากถามว่าฉีดยาคุมหลังคลอดแล้วหมอนัดอีกทีวันที่24ก.พ. แล้ววันที่20มีอะไรกับแฟนแล้วหลั่งในพอตกเย็นก็มีเลือดไหลออกมากระปิบกระปอยมาประมาณ4วันอยากทราบว่าจะมีโอกาสท้องไหมคะ

ถ้าฉีดยาคุมรายสามเดือนตั้งเเต่หลังคลอด เเล้วยังไม่ครบกำหนดนั้น การมีเพศสัมพันธ์มีโอกาสหลุดท้องน้อยมากๆ จนไม่ต้องกังวลครับ (ตามสถิติคือคุมกำเนิดได้ดีกว่าการทำหมันซะอีกครับ)

ส่วนเลือดออกกระปริบกระปรอย มาไม่ตรงตามรอบนั้น เป็นผลข้างเคียงจากยาฉีดคุมกำเนิดรายสามเดือนอยู่เเล้วครับ ฉีดไปนานๆจะค่อยๆลดลง จนประจำเดือนหายได้ครับ

สวัสดีครับ
ถ้าหากยังไม่ได้เลยจากนัดฉีดยาคุม ยาคุมก็จะยังมีผลป้องกันได้อย่างเต็มที่อยู่ครับ ในกรณีนี้จึงมีโอกาสตั้งครรภ์ได้เพียง 0.2-6% เท่านั้นตามประสิทธิภาพของยาคุมแบบฉีด

นอกจากนี้การมีเลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์ก็ไม่ได้บ่งบอกถึงการตั้งครรภ์ครับ อาการในลักษณะนี้อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น
- ผลตรวจของการฉีดยาคุม
- มีการบาดเจ็บในช่องคลอดจากการมีเพศสัมพันธ์ที่รุนแรง
- มีการอักเสบติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน
- เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดปกติ
- เนื้องอกบางอย่าง
ถ้าหากเลือดที่ออกมานั้นออกมาในปริมาณมาก หยุดยาก ออกมาติดต่อกันหลายวัน หรือมีเลือดออกผิดปกติอยู่บ่อยๆ หมอก็แนะนำว่าควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจประเมินอาการและให้การรักษาเพิ่มเติมครับ

วันที่ 24 กุมภาพันธ์ คือวันนัดฉีดยาคุมเข็มต่อไปหรือเปล่าคะ?

ถ้าใช่ ก็ถือว่าวันที่ผู้ถามมีเพศสัมพันธ์นั้นมีผลป้องกันจากยาคุมที่ฉีดไปแล้วอยู่ จึงสามารถมีเพศสัมพันธ์หลั่งในได้ตามปกติ มีโอกาสตั้งครรภ์ 0.2 - 6% หรือค่อนไปทางต่ำถ้าฉีดยาคุมตรงตามนัดสม่ำเสมอ

แต่ถ้าผู้ถามกังวลเรื่องการตั้งครรภ์ ก็สามารถตรวจให้ชัดเจนได้ โดยใช้ชุดทดสอบการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะ ตรวจในตอนเช้าหลังตื่นนอน ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วันนะคะ

ผลข้างเคียงจากยาคุมชนิดนี้อาจทำให้ผู้ใช้มีเลือดออกกะปริบกะปรอย, ประจำเดือนมาไม่ปกติ หรือไม่มีประจำเดือนค่ะ ดังนั้น หากไม่มีอาการผิดปกติอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น ตกขาวผิดปกติ, มีกลิ่นเหม็นคาวหรือกลิ่นรุนแรง, แสบหรือคันช่องคลอด หรือปวดท้องรุนแรง เลือดที่ออกมานั้นก็น่าจะเป็นผลข้างเคียงจากยาคุมนั่นเองนะคะ

อย่างไรก็ตาม ถ้ามีอาการผิดปกติอื่น ๆ ร่วมด้วย หรือถ้ามีเลือดออกมามากหรือนานผิดปกติ ควรไปพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจเพิ่มเติมหาสาเหตุที่แท้จริง และพิจารณาการรักษาที่เหมาะสมค่ะ