May 08, 2018 08:49
ตอบโดย
วิภา สุวรรณชีวะศิริ (พญ.)
สวัสดีค่ะ การที่มีประวัติได้รับบาดเจ็บบริเวณหัวเข่าโดยเฉพาะอย่างยิ่งมีประวัติเข่าบิดในขณะที่กำลังวิ่งหรือมีการเคลื่อนไหว เกิดทำให้การบาดเจ็บของอวัยวะและเนื้อเยื่อภายในเข่าได้ ได้แก่ กระดูกแตก เส้นเอ็นภายในเข้ายืด หรือฉีกขาด การตรวจวินิจฉับมีความจำเป็นต้องซักถามประวัติ ตรวจร่างกาย และการตรวจทางรังสีเพิ่มเติมหากมีความจำเป็นค่ะ การรักษาขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยและความรุนแรงของการบาดเจ็บ ซึ่งมีตั้งแต่ รับประทานยา พัก งดเล่นกีฬา การใช้อัลตราซาวน์ หรือเลเซอร์ รวมไปถึงการผ่าตัด และการฟื้นฟูสภาพ ส่วนค่ารักษาก็แล้วแต่โรงพยาบาลและสิทธิการรักษา เบื้องต้นแนะนำว่าคุณควรไปพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและวางแผนการรักษาที่เหมาะสมต่อไปค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
รัชนี รุ่งราตรี (พญว.)
สาเหตุที่สำคัญของอาการเข่าบิด และเป็นหลังจากการเกิดอาการเข่าบิด ได้แก่ เอ็นไขว้หน้า หรือเอ็นไขว้หลัง ฉีกขาดค่ะ
การวินิจฉัยจำเป็นต้องตรวจโดยการทำ MRI ค่ะ จึงจะสามารถยืนยันได้ว่ามีการฉีดขาดของ เอ็นเหล่านี้หรือไม่ การตรวจร่างกายอาจจะสามารถประเมินได้เบื้องต้นและสันนิษฐานว่าน่าจะเกิดจากสาเหตุดังกล่าวค่ะ แต่การวินิจฉัยที่แน่นอนที่สุดในปัจจุบันยังเป็นการตรวจ MRI ค่ะ การที่เอ็นเหล่านี้ขาดหากไม่มากนักจะยังคงเดินและทำกิจวัตรได้ปกติ แต่อาจจะทำให้รู้สึกข้อเข่าหลวม หรือมีอาการเข่าบิดซ้ำ หรือมีอาการเหมือนเข่าไม่มั่นคงโดยเฉพาะเมื่อออกกำลังกายหรือเล่นกีฬาค่ะ
หากยังไม่ดีขึ้นแนะนำให้กลับไปพบแพทย์ออร์โธปิดิกส์อีกทีค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ผมมีอาการเข่าบิดเกิดจากการเล่นฟุตบอลอยากทราบถึงวิธีการรักษาและค่าใช้จ่ายโดยประมาณครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)