สอบถามอาการเบื้องต้นโควิทค่ะ ตอนนี้ตัวรุม ๆ เหมือนมีไข้ และวัดไข้ด้วยปรอททางปาก ( วางใต้ลิ้น ) มีอุณหภูมิ 37.3 องศา มีอาการปวดหัวร่วมด้วยค่ะ รวรตรวจหาเชื้อโรวิดไปเลยหรือหาหมอดูอาการเบื้องต้นก่แนคะ

สวัสดีครับ
เกณฑ์การวินิจฉัยโรคโควิดในปัจจุบันนั้นจะถือว่าอยู่ในกลุ่มเสี่ยงเมื่อมีไข้ตั้งแต่ 37.5 องศาเซลเซียสขึ้นไป ร่วมกับมีอาการไอ เจ็บคอ มีเสมหะ และต้องมีประวัติการเดินทางไปในประเทศกลุ่มเสี่ยง สถานที่เสี่ยงที่มีคนเป็นโรค หรือประวัติการสัมผัสใกล้ชิดกับคนเป็นโรคครับ ถ้าหากในตอนนี้มีเพียงไข้ 37.3 องศาเซลเซียสก็ยังไม่จำเป็นต้องตรวจหาการติดเชื้อ และสามารถบรรเทาอาการโดยการรับประทานยาพาราเซตามอลทุก 4-6 ชั่วโมงก่อนได้

และถ้าหากอาการไม่ดีขึ้นใน 2-3 วันก็ให้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจประเมินอาการและให้การรักษาที่เหมาะสมเพิ่มเติมครับ

หรือถ้าหากมีประวัติการรับความเสี่ยงจ่อการติดเชื้อมาก่อนก็ควรกักตัวในบ้านสังเกตว่าจะมีอาการต่างๆข้างต้นหรือไม่ ถ้าหากมีอาการก็ควรไปพบแพทย์เช่นกันครับ

1.ถ้าไม่ได้มีประวติสัมผัสกับผู้ติดเชื้อชัดเจน เช่น ยืนคุยกับผู้ติดเชื้อระยะใกล้ๆ อยู่ในสถานที่เดียวกับผู้ติดเชื้อ เที่ยวด้วยกัน หมอว่าโอกาสติดนั้นน้อยๆมากๆครับ จนไม่คุ้มที่จะต้องไปตรวจ เพราะไปตรวจอาจต้องจ่ายเงินเอง(ไม่เข้าเกณฑ์) เเละเพิ่มความเสี่ยงสัมผัสเชื้อเพิ่มด้วยครับ การกักตัวเเละสังเกตอาการในกรณีที่อาการเป็นไม่มากนั้น เป็นประโยชน์มากกว่าครับ

2.เเนะนำให้ ล้างมือบ่อยๆ ลดการสัมผัสหน้า ใส่หน้ากากอนามัยเเบบผ้าหรือเเบบทางการเเพทย์ หลีกเลี่ยงไปที่ชุมชนครับ เพราะเชื้อนั้นติดทางละอองฝอย ละอองน้ำลาย เข้าสู่ทางเดินหายใจ หรือเยื่อบุตาครับ

3.ถ้าอาการเป็นเยอะ ค่อยไป รพ.ครับ เช่น ไข้สูง หายใจหอบเหนื่อย กินไม่ได้อ่อนเพลีย ไม่ไหว

4.อาการมีไข้ ปวดเมื่อยตัว ไอน้ำมูก เจ็บคอ สัมพันธ์กับโรคเช่น ไข้หวัดทั่วไป ต่อมทอนซิลอักเสบ ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากเชื้อไวรัส ซึ่งหายได้เอง ไม่จำเป็นต้องกินยาฆ่าเชื้อครับ
แต่ถ้าตรวจแล้วทอนซิลมีหนอง จะสงสัยการติดเชือเเบคทีเรียครับ จะพิจารณาให้ยาฆ่าเชื้อรับประทาน เช่น Amoxycillin 7-10 วันครับ

เบื้องต้น สามารถทานยาลดไข้Paracetamolได้ทุก 4-6 ชม เช็ดตัวลดไข้ ทานยารักษาตามอาการไปก่อนได้ เช่น ยาแก้ไอ ยาลดน้ำมูก รักษาตามอาการ(ปรึกษาเภสัชกร)หรือเจ็บคอให้จิบน้ำอุ่นบ่อยๆครับ พักผ่อนให้เพียงพอครับ
ส่วนยาฆ่าเชื้อ/ยาปฎิชีวนะ ไม่แนะนำให้หามารับประทานเองครับ เพราะมีโอกาสที่เชื้อจะดื้อยาในอนาคตได้ครับ