คือวันที่10ที่ผ่านมาหนูมีอะไรกับแฟนแต่บอกว่าถุงแตกแลวเช้าวันที่11หนูกินยาคุมฉุกเฉินแบบ2เม็ดกินพร้อมกันทีเดียวแล้วก่อนนอนกินแบบรายเดือนไปอีก1เม็ด ยาคุมรายเดือนคือพึ่งกินแพงแรกตอนวันหลังมีเพศสัมพันธ์ หนูอยากทราบว่ารอบเดือนหนูจะเคลื่อนออกไปนานมั้ยค่ะ หนูมีโอกาส ท้องกี่ % ค่ะ

1.ยาคุมแผงรายเดือน อย่าเพิ่งกินครับ เพราะไม่ได้ช่วยลดโอกาสตั้งครรภ์เเละอาจทำให้ประจำเดือนผิดปกติ ประเมินเรื่องท้องยากขึ้นไปอีกครับ

2.ส่วนโอกาสตั้งครรภ์ กรณีกินยาคุมฉุกเฉิน
หากรับประทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินภายใน 12-24 ชม.แรกของการมีเพศสัมพันธ์ จะคุมกำเนิดได้ประมาณ 85% รับประทานภายใน 72 ชม. ประมาณ 75%
ส่วนถ้าเกิน 72 ชม.แต่ยังไม่เกิน 120 ชม. จะประมาณ 60% ครับ
สรุปคือยิ่งรับประทานช้า จะยิ่งมีโอกาสท้องครับ

3. หลังรับประทานยาคุมฉุกเฉินจะมีเลือดออกทางช่องคลอดได้ประมาณภายใน1 สัปดาห์หลังกินยา ซึ่งมักไม่ใช่เลือดประจำเดือน (อาจจะมากระปริบกระปรอย หรือ ไม่มีก็ได้ครับ ไม่ได้บอกว่าท้องหรือไม่ท้องครับ)
ส่วนประจำเดือนจริงๆจะมาไกล้เคียงกับรอบประจำเดือนปกติ เเต่อาจมาเร็วหรือช้ากว่ารอบเดือนปกติได้ 1-3สัปดาห์
ดังนั้น หากเกิน3สัปดาห์ไปเเล้วจากวันที่ประจำเดือนควรจะมา ก็มีโอกาสหลุดท้องครับ
ให้ตรวจการตั้งครรภ์ครับ

หากต้องการรีบตรวจการตั้งครรภ์ ตรวจได้เร็วที่สุด2สัปดาห์หลังมีเพศสัมพันธ์ครับ
ระหว่างรอประจำเดือนจริงๆมา ถ้ามีเพศสัมพันธ์ใช้ถุงยางอนามัยไปก่อนครับ

สวัสดีครับ
ถ้าหากมีเพศสัมพันธ์แล้วถุงยางอนามัยแตกรั่วการที่ได้รับประทานยาคุมฉุกเฉินไปแล้วก็จะช่วยลดโอกาสตั้งครรภ์ลงไปได้ 75-85% ครับ ส่วนการรับประทานจาคุมแบบรายเดือนหลังจากที่มีเพศสัมพันธ์ไปแล้วจะไม่ได้มีประโยชน์ในการช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ หมอจึงแนะนำให้หยุดรับประทานยาคุมแลบรายเดือนไปก่อนครับ

หลังจากนี้ถ้าหากเป็นคนที่มีประจำเดือนมาสม่ำเสมออยู่แล้วประจำเดือนก็จะยังมาใกล้เคียงกับกำหนดประจำเดือนตามปกติอยู่ครับ แต่ถ้าหากประจำเดือนขาดหายไปหมอก็แนะนำว่าควรลองตรวจการตั้งครรภ์ดู โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะแรกหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ

การรับประทานยาคุมฉุกเฉินเป็นวิธีป้องกันสำรองเมื่อถุงยางฉีกขาด ถือเป็นการแก้ไขปัญหาที่เหมาะสมแล้วนะคะ และอาจช่วยลดความเสี่ยงให้เป็น 15% แทนได้เมื่อใช้เร็วและครบขนาด

ส่วนยาคุมรายเดือน ไม่มีผลคุมกำเนิดฉุกเฉินค่ะ หากใช้แผงแรกไม่ทัน 5 วันแรกของการมีประจำเดือน ก็จะต้องรับประทานเม็ดยาฮอร์โมนของยาคุมชนิดฮอร์โมนรวมติดต่อกันให้ครบ 7 วันก่อนจึงจะมีผลคุมกำเนิดได้

แต่ถ้ามีการตั้งครรภ์ขึ้นก่อนที่จะมีผลป้องกันจากยาคุมรายเดือน ต่อให้รับประทานยาคุมรายเดือนต่อไป แต่การตั้งครรภ์นั้นก็จะยังคงอยู่เหมือนเดิมนะคะ

ถ้าไม่ตั้งครรภ์ ผู้ใช้ยาคุมชนิดฮอร์โมนรวม จะมีประจำเดือนมาในช่วงปลอดฮอร์โมนของแผงค่ะ โดยมักจะมาหลังใช้เม็ดยาฮอร์โมนหมดไปแล้ว 2 - 3 วัน หรือคลาดเคลื่อนเล็กน้อย
..
..
..
ดังนั้น ถ้ายาคุมรายเดือนที่ผู้ถามใช้เป็นยาคุมชนิดฮอร์โมนรวม และยังใช้ต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน

1. หากเริ่มใช้แผงแรกไม่ทัน 5 วันแรกของการมีประจำเดือน ก็จะต้องงดมีเพศสัมพันธ์ หรือต้องใช้ถุงยางอนามัยป้องกันไปก่อน จนกว่าจะรับประทานเม็ดยาฮอร์โมนติดต่อกันครบ 7 วันก่อนนะคะ

2. ถ้าใช้ยาคุมแบบ 21 เม็ด เมื่อหมดแผงแล้วจะต้องเว้นว่าง 7 วันก่อนต่อยาคุมแผงใหม่ ประจำเดือนจะมาในช่วงที่เว้นว่าง โดยมักจะมาประมาณวันที่ 3 หรือ 4 ของการเว้นว่าง แต่ก็อาจคลาดเคลื่อนจากนั้นเล็กน้อย

3. แต่ถ้าใช้ยาคุมชนิดฮอร์โมนรวมแบบ 28 เม็ด เมื่อหมดแผงแล้วจะต้องต่อแผงใหม่ในวันถัดมา ไม่ต้องเว้นว่างเพิ่มอีก ประจำเดือนจะมาในช่วงที่รับประทานเม็ดแป้ง

- ซึ่งถ้าใช้สูตรที่ 21/7 (ที่มีเม็ดยาฮอร์โมน 21 เม็ดแรก และเม็ดแป้ง 7 เม็ดสุดท้าย) ประจำเดือนก็มักจะมาประมาณเม็ดที่ 24 หรือ 25 ของแผง แต่ก็อาจคลาดเคลื่อนจากนั้นเล็กน้อย

- หรือถ้าใช้ยาคุมสูตร 24/4 (เม็ดยาฮอร์โมน 24 เม็ด + เม็ดแป้ง 4 เม็ด) ประจำเดือนก็มักจะมาประมาณเม็ดที่ 27 - 28 ของแผงค่ะ

4. ถ้าครบกำหนดต่อยาคุมแผงใหม่แล้วยังไม่มีประจำเดือนมา ให้ตรวจการตั้งครรภ์ด้วยชุดทดสอบทางปัสสาวะ ในตอนเช้าหลังตื่นนอนของวันที่ครบกำหนดต่อยาคุมแผงใหม่ ซึ่งถ้าผลตรวจออกมาเป็นไม่ตั้งครรภ์ ก็สามารถต่อยาคุมแผงใหม่ตามกำหนดเพื่อให้มีผลคุมกำเนิดที่ต่อเนื่องได้ค่ะ
..
..
..
แต่ถ้าผู้ถามไม่ได้มีการใช้ยาคุมรายเดือนต่อแล้ว

ถ้าไม่ตั้งครรภ์ ประจำเดือนของผู้ถามก็ควรจะมาตรงตามรอบปกติเดิม หรือคลาดเคลื่อนไม่มากค่ะ โดยเฉพาะถ้าที่ผ่านมามีประจำเดือนมาตรงเวลาสม่ำเสมอ

ดังนั้น ถ้าไม่มีประจำเดือนมา หรือถ้าไม่มั่นใจ และกังวลว่าอาจตั้งครรภ์ ก็ควรตรวจการตั้งครรภ์ให้ชัดเจน โดยใช้ชุดทดสอบการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะ ตรวจในตอนเช้าหลังตื่นนอน ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วันนะคะ

ถ้าหากเดิมเป็นคนที่มีประจำเดือนมาไม่ตรงรอบ หลังการรับประทานยาคุมฉุกเฉินประจำเดือนก็อาจมาไม่สม่ำเสมอตามลักษณะของประจำเดือนเดิมครับ ซึ่งสาเหตุของการที่มีประจำเดือนมาไม่สก็มีได้จากหลายอย่าง เช่น
- มีการตกไข่ที่ไม่สม่ำเสมอ
- ระดับฮอร์โมนในเลือดที่ผิดปกติ
- ภาวะมีถุงน้ำหลายใบในรังไข่ (PCOS)
- ต่อมไทรอยด์ทำงานผิดปกติ
- ความเครียด
- การออกกำลังกายอย่างหักโหม
- น้ำหนักตัวที่มากหรือน้อยเกินไป
เป็นต้น
ซึ่งในกรณีนี้หมอก็แนะนำให้ไปพบแพทย์นรีเวชเพื่อตรวจหาสาเหตุก่อน แต่หมอไม่แนะนำให้รับประทานยาสตรีเองเพราะไม่ใช่วิธีการที่จะช่วยให้ประจำเดือนมาปกติครับ

ถ้าหากตรวจแล้วไม่มีการตั้งครรภ์แต่มีปัญหาประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมออยู่บ่อยๆ หมอก็แนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุครับ