March 04, 2019 23:15
สวัสดีค่ะ คำถามของคุณอาจกว้างเกินไป ทำให้คุณหมอไม่สามารถให้ความเห็นได้ กรุณาอธิบายอาการอย่างละเอียดว่าเป็นอย่างไร บริเวณไหน เป็นมานานและถี่แค่ไหน รวมไปถึงข้อมูลส่วนตัวของคุณ เช่น เพศ อายุ ยาหรืออาหารเสริมที่ทานอยู่ เป็นต้น หรือคุณอาจค้นหาคำตอบคุณหมอ และกว่า 5,000 บทความสุขภาพในเว็บของเรา หากคุณถามเกี่ยวกับโรงพยาบาล คุณสามารถค้นหาข้อมูลติดต่อของโรงพยาบาลได้ที่นี่ หรือส่งอีเมลมาที่ [email protected] ค่ะ ขอบคุณค่ะ
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
วลีรักษ์ จันทร (พว.)
ถ้าแพทย์ให้ยาไข้หวัดใหญ่มาแล้วก็ควรทานต่อให้หมดนะค่ะ ส่วนยาฆ่าเชื้อครั้งแรกควรหยุดค่ะ เรื่องไข้เป็นได้ค่ะ คุณแม่เช็ดตัวลดไข้ช่วยด้วยนะค่ะ ลูกจะได้นอนสบาย การเช็ดตัวที่ถูกต้องให้ใช้น้ำชุปผ้าเปียก เช็ดย้อนรูขุมขนหรือเข้าหาหัวใจ นาน 10 ถึง 15 นาทีค่ะ ให้เปียกทั้งตัวเลยนะค่ะ ครบตามเวลาใช้ผ้าแห้งเช็ด ลูกจะสบายตัวค่ะ แต่ถ้ากินอะไรไม่ได้เลย ซึม ควรกลับไปโรงพยาบาลค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
สวัสดีค่ะคุณหมอ เด็กอายุ 9 เดือนมีไข้ขึ้นสูง(38-39.8) 3 วันติด ไม่มีอารไอ ไม่มีน้ำมูก ไม่ยอมกินอะไรเลย ไป รพ.วันแรกหมอบอกว่าทอนซิลอักเสบ ให้ยามากิน คือยาลดไข้(พาราเซตามอลน้ำ) กับยาแก้อักเสบน้ำ(แบบเป็นผงใช้ผสมน้ำ1ครั้ง) ให้กิน 2.5-3 ซีซี ไข้ก็ยังไม่ต่ำกว่า38 เลย จึงพาน้องไปคลินิก ได้ยาลดไข้สูงมากิน น้องก็ยังไข้สูงอยู่ เช้าอีกวันพาไป รพ. อีกครั้งเพื่อเจาะเลือด (ระหว่างที่รอผลเลือดน้องไข้ลด 37.3 เพราะให้กินยาประคองอาการมาตลอด) เมื่อผลเลือดออก หมอก็ถามอาการ จึงบอกไปว่าไข้ลดแล้ว ไม่ไอ ไม่มีน้ำมูก แล้วหมอก็บอกว่าผลเลือดไม่มีอะไรน้องไม่ได้เป็นไข้เลือดออก ***แต่หมอสั่งยา โอเซลทามิเวียร์ (แก้ไข้หวัดใหญ่) มาให้ ให้กิน 2.5 ซีซี ก็ป้อนน้องค่ะแต่ปรากฏว่า **น้องไข้ขึ้น38.4 จากที่อาการดีขึ้นแล้ว 1.##ควรทานต่อหรือไม่คะ? เพราะน้องไม่ได้เป็นไข้หวัดใหญ่ 2.##น้องกินยาวันละ2ชนิดหลายครั้งแต่ไม่ได้กินข้าวจะเป็นอะไรไหมคะ 3.##น้องพอจะทานอะไรได้บ้างคะ ขอบพระคุณค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)