March 08, 2017 19:39
ตอบโดย
ชยากร พงษ์พยัคเลิศ (นพ.)
เนื่องจากยาวัณโรคเป็นยาที่ต้องกินอย่างสม่ำเสมอและมีจำนวนมาก โดยยาหลายๆตัวนั้นจะผ่านการ metabolism ที่ตับทำให้ไม่ว่าผู้ป่วยเองหรือผู้ที่ให้การดูแลเกิดความไม่สบายใจและกังวลใจเช่นนี้จำนวนมาก และยิ่งในผู้ป่วยที่สูงอายุ การทำงานของอวัยวะนั้นก็เสื่อมลงตามสภาพร่างกายโดยธรรมชาติอยู่แล้ว หรือไม่ว่าจะในตัวผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวของเดิมอยู่ก่อนแล้ว ทำให้การรักษาโรควัณโรคย่อมต้องมีการเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด โดยปกติแล้วทีมแพทย์ผู้ให้การรักษาจะมีการนัดตรวจติดตามค่าผลเลือดดูการทำงานของ ตับ ไต และอื่นๆตามจำเป็น เป็นระยะๆอยู่แล้ว (อยู่ที่ตามแพทย์ผู้ทำการรักษาพิจารณาเป็นรายๆไปด้วยครับ)
ส่วนผมเองจะขอแนะนำให้ผู้ดูแลช่วยสังเกต อาการภายนอก-ภายใน ของผู้ป่วยมากกว่าครับ เวลาไปพบแพทย์ตามนัดจะได้บอกอาการที่ผิดปกติได้ หรือบางทีหากเกิดอาการผิดปกติก่อนถึงนัด จะได้ไปพบแพทย์ก่อนได้เลย อาการที่ว่าดังกล่าวเช่น อาการผื่นผิวหนังที่ผิดปกติ(สงสัยแพ้ยา) อาการตัวเหลือง-ตาเหลือง ปวดท้องปวดชายโครง ปวดตามเนื้อตามตัวมาก มีประสาทหลอน อ่อนเพลียไม่มีแรงอย่างมาก เป็นต้นครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
การรักษาวัณโรคในผู้ป่วยสูงอายุ มีการควบคุมหรือเฝ้าระวังอย่างไร เพื่อป้องกันตับหรือไตเสียหายจากการรับยาที่มากมายขนาดนั้น
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)