December 13, 2020 10:23
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
ตามคำแนะนำการฉีดวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้าของสถานเสาวภาสภากาชาดไทยในปัจจุบันแนะนำให้ฉีดวัคซีนกระตุ้นทุกครั้งที่ถูกสุนัขกัดครัล โดยถ้ายังไม่เกิน 6 เดือนหลังฉีดวัคซีนก็ต้องฉีดวัคซีน 1 เข็มครับ
ในกรณีนี้หมอแนะนำว่าควรไปพบแพทย์เพื่อฉีดวัคซีนครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
วชิรวิทย์ สุทธิศักดิ์ (แพทย์ทั่วไป) (นพ.)
โดยปกติ ถ้าเคยฉีดครบ จะมีภูมิคุ้มกันอยู่เเล้วระดับนึงครับ ถ้าสัตว์ที่กัดหรือข่วน เป็นหมาจร ไม่ได้เป็นหมาเลี้ยง ต้องฉีดกระตุ้นครับ
ต้องพิจารณาดูว่าที่ฉีดมาล่าสุด เกิน 6 เดือนหรือไม่ ถ้าเกินต้องฉีดกระตุ้น2เข็ม วันเเรก เเละอีก3วัน
ถ้าไม่เกิน6เดือน ฉีดกระตุ้นเเค่เข็มเดียวครับ
เเต่ถ้ามั่นใจว่าสัตว์ที่กัดฉีดยาครบ เลี้ยงในที่ปิด โอกาสรับเชื้อมาน้อย เเละที่โดนข่วน/กัดมีเหตุการณ์ชักนำ เช่น ไปแหย่สัตว์ ไปห้ามตอนสัตว์ทะเลาะกัน
อาจไม่ต้องฉีดวัคซีนเพิ่มเติมก็ได้ครับ เเต่ให้สังเกตสัตว์ไปสิบวัน ถ้าสัตว์ปกติดีก็เเสดงว่าสัตว์ตัวนั้นไม่มีเชื้อพิษสุนัขบ้า
เเต่ระหว่างสังเกตอาการสิบวันถ้าสัตว์มีอาการผิดปกติ ดุร้าย น้ำลายยืด กลัวน้ำ หรือเสียชีวิต อันนี้ต้องไปฉีดวัคซีนพิษสุนัขบ้าทันทีครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ฟันสุนัขกระแทกกับนิ้วแล้วนิ้วเป็นแผลเล็กๆเลือดไหลนิดหน่อยเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม แต่ว่าเคยได้รับวัคซีนกระตุ้นพิษสุนัขบ้ามาแล้ว 3 เข็ม เมื่อวันที่ 13 กันยายน เข็มที่ 4 กับ ที่ 5 ไม่ได้ไปฉีด แล้ววันนี้ วันที่ 13 ธันวาคม ได้ไปโรงพยาบาลแล้วคนที่สอบประวัติบอกว่า ไม่จำเป็นต้องฉีดวันซีนเพราะว่าวัคซีนอยู่ได้ 6 เดือนก็เลยกลับบ้านมา แต่ว่าพอไปอ่านในอินเตอร์เน็ตดู เขาบอกว่าถ้าหากภายใน 6 เดือนหลังจากฉีดกระตุ้นแล้ว ถ้าโดนกัดอีกให้ไปฉีดอีกกระตุ้น 1 เข็ม แต่โรงพยาบาลที่จะไปฉีดเขาบอกว่าไม่ต้องฉีด แบบนี้ควรทำยังไงครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)