สวัสดีค่ะ หนูปวดท้องน้อยด้านซ้ายมากค่ะ ปวดแบบตุ้บๆ ปัสสาวะบ่อย แต่ไม่แสบ ไปหาหมอมาตรวจปัสสาวะ แต่ผลตรวจปกติ หมอให้ยาฆ่าเชื้อกับยาแก้อักเสบมาแต่ไม่ดีขึ้น หนูเป็นโรคอะไรคะ

สวัสดีครับ
อาการปวดท้องน้อยด้านซ้าย ปวดตุ้บๆ ปัสสาวะบ่อยนั้นอทจเกิดได้จากหลายสาเหตุครับ เช่น
- กระเพาะปัสสาวะอักเสบ
- อุ้งเชิงกรานอักเสบ
- ปีกมดลูกอักเสบ
- นิ่วในทางเดินปัสสาวะ
- มีก้อนเนื้อในช่องท้องที่มากดเบียดกระเพาะปัสสาวะ เป็นต้น

ถ้าหากหลังจากรับประทานยาตามที่แพทย์สั่งแล้วอาการยังไม่ดีขึ้น หมอก็แนะนำว่าควรกลับไปพบแพทย์เพื่อตรวจประเมินอาการใหม่อีกครั้งให้ทราบสาเหตุที่แน่ชัดก่อนเพื่อที่จะได้ให้การรักษาได้อย่างเหมาะสมครับ

สวัสดีครับ
อาการปวดท้องน้อย (ปวดท้องในระดับที่ต่ำกว่าสะดือลงไป) อาจเป็นได้หลายสาเหตุครับ โดยสาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ ซึ่งจะพบมีอาการปวดท้องน้อยร่วมกับอาการปัสสาวะแสบขัด ปัสสาวะบ่อย ปัสสาวะขุ่น แต่ถ้าผู้ถามเคยมีการตรวจปัสสาวะแล้วปกติ ตลอดจนได้ทานยารักษาแล้วอาการไม่ดีขึ้น สาเหตุของการปวดท้องน้อยอาจเกิดจากสาเหตุอื่น เช่น
- การติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ที่ทำให้มีอาการปวดท้องน้อย มักเกิดร่วมกับการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ เช่น โรคหนองใน
- ลำไส้อักเสบ จะมีอาการปวดท้องร่วมกับอาการท้องเสียถ่ายเหลว อาการปวดท้องจะดีขึ้นเมื่อถ่ายอุจจาระ
- ไส้ติ่งอักเสบ จะมีอาการปวดท้องน้อยบริเวณด้านขวา มีจุดกดเจ็บบริเวณไส้ติ่งชัดเจน อาจพบมีอาการไข้ เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียนร่วมด้วยได้
- โรคทางนรีเวชต่างๆ เช่น ปวดประจำเดือนผิดปกติ การมีเนื้องอกในมดลูก การตั้งครรภ์นอกมดลูก เป็นต้น
สาเหตุที่กล่าวมาเป็นเพียงตัวอย่างเท่านั้น ยังมีอีกหลายสาเหตุครับ ซึ่งการวินิจฉัยต้องอาศัยการซักประวัติ และตรวจร่างกายเพิ่มเติมครับ ดังนั้นแนะนำให้ไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลเพื่อตรวจและให้การรักษาครับ