สวัสดีค่ะ ประจำเดือนมาวันที่24 มกราคม แต่มาสีน้ำตาลๆ เริ่มมาสีเลือดประมาณวันที่ 27 มกราคม ปกติประจำเดือนของดิฉันมาแค่3-5วัน แต่วันที่29 มกราคมก็ยังมีอยู่ (กลายเป็นสีน้ำตาล อีกแล้ว) แล้วพอมาวันนี้วันที่4 กุมภาพันธ์ มีคล้ายๆประจำเดือนสีน้ำตาล ออกมาอีก ไม่ทราบว่าเป็นอะไรคะ เป็นผู้หญิง อายุ 19 ปี ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ เคยฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกแล้ว

การที่เลือดประจำเดือนมานาน(เกิน7วัน) มาหลายรอบในหนึ่งรอบเดือน มากระปริบกระปรอย เเละมาไม่ตรง เกิดได้จากหลายสาเหตุครับ เช่น เนื้องอกในมดลูก ติ่งเนื้อปากมดลูก การหนาตัวผิดปกติของมดลูก ความผิดปกติของการเเข็งตัวของเลือด เป็นต้นครับ

ถ้ามีเพศสัมพันธ์บ่อยๆเเละรุนเเรง อาจเป็นเลือดจากเเผลในช่องคลอด ที่มีการเสียดสีขณะมีเพศสัมพันธ์ได้ครับ (โดยเฉพาะถ้ามีพวกติ่งเนื้อปากมดลูกด้วย จะเกิดเลือดออกได้ง่าย)
ถ้าออกไม่มาก สามารถสังเกตอาการ หาเวลาไปตรวจเเผนกสูตินรีเวชได้ครับ
ยกเว้นออกมากชุ่มผ้าอนามัย4-5ผืน ปวดท้องน้อยมากๆ ควรพบสูตินรีเเพทย์โดยเร็วครับ

หรืออื่นๆ เช่น
- การฝังยาคุมหรือฉีดยาคุมกำเนิด จะมีประจำเดือนออกกระปริบกระปรอย มาติดๆกันหลายๆวัน เป็นผลข้างเคียงจากยาฝัง\ยาฉีดคุมกำเนิดได้ครับ เเละถ้าฝังนานๆ ก็จะมีช่วงที่ประจำเดือนขาดได้ครับ
- การกินยาคุมเเผงรายเดือนที่มีฮอร์โมนเอสโตรเจนต่ำ เช่น Minidoz Yaz minoz ถ้ากินไม่ตรงเวลาก็อาจมีเลือดออกกระปริบกระปรอยได้ครับ

สวัสดีครับ
การมีเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอดในกรณีของผู้ถามนั้นนานและมีเลือดออกหลังประจำเดือนอีกรอบหนึ่ง ซึ่งเกิดได้จากหลายสาเหตุครับ เช่น
- มีติ่งเนื้อในมดลูก
- มดลูกโตจากเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่
- เนื้องอกกล้ามเนื้อในมดลูก
- การเจริญของเยื่อบุโพรงมดลูกผิดปกติ
- มะเร็ง
- ภาวะการแข็งตัวของเลือดผิดปกติ
- การตกไข่ผิดปกติ เช่น โรค PCOS
- การทานยาบางชนิด
สาเหตุต่างๆที่ได้กล่าวไปเป็นเพียงตัวอย่างเท่านั้น ซึ่งการวินิจฉัยต้องอาศัยการซักประวัติ และตรวจร่างกายเพิ่มเติม ดังนั้นควรไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลเพื่อตรวจและให้การรักษาครับ

หากไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ไม่ได้ตั้งครรภ์
อาจ้กิดได้จากสาเหตุอื่นๆที่พบได้บ่อยเช่น
เนื้องอกมดลูก
เยื่อบุมดลูกเจริญผิดที่
ซีสต์ ถุงน้ำที่รังไข่
โรคไทรอยด์
ภาวะอ้วน
การติดเชื้อในโพรงมดลูก
เป็นต้นครับ

หากยังมีเบือดออกผิดกกติควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุดังกบ่าวเพิ่มเติมครับ