สวัสดีค่ะ พอดีมีเพศสัมพัธ์ครั้งแรกกับแฟนวันที่20ป้องกันค่ะแต่ก็กลัวถุงแตกเลยกินยาคุมฉุกเฉินเช้าวันที่21 หลังจากนั้น1อาทิตย์ก็เริ่มปวดท้องน้อยมากๆและมีเลือดสีน้ำตาลเหมือนโอวัลตินออกมาแต่ไม่มากจากนั้นก็เป็นสีเหมือนประจำเดือนอยู่2-3วันแต่ไม่แน่ใจว่าใช่ประจำเดือนหรือผลข้างเคียงจากยา และยังปวดท้องน้อยๆมาเรื่อยๆ พอวันที่11ทนไม่ไหวไปหาหมอก็บอกทุกอย่างหมอไป หมอก็ตรวจปัสสาวะ หมอบอกเบอเม็ดเลือดแดงในปัสสาวะและการตั้งครรภ์ปกติ หลังจากหาหมอได้2-3วันก็เริ่มปวดเต้านมท้องอืดและปวดเอวหลังพร้อมยังปวดท้องน้อยอยู่อยากบะทราบว่าอาการแบบนี้ท้องไหมคะ และประจำเดือนมาไม่ตรงและไม่ปกติด้วยค่ะ เครียดมากตอนนี้

สวัสดีค่ะ
ถุงยางอนามัยสามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ประมาณ 98-99% ถ้าตรวจแล้วว่าไม่มีการรั่ว และกรณีนี้ มีการได้รับประทานยาคุมฉุกเฉินป้องกันการตั้งครรภ์ ภายใน 120 ชั่วโมง ซึ่งสามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ประมาณ 85%
และไปตรวจการตั้งครรภ์ แล้วพบว่าไม่มีการตั้งครรภ์ ค่อนข้างแน่ใจได้ว่าไม่มีการตั้งครรภ์

สำหรับอาการปวดท้องน้อย และประจำเดือนมาไม่ปกติ เกิดได้จาก
-การติดเชื้อในช่องคลอดหรือโพรงมดลูก
-ภาะถุงน้ำรังไข่
-เนื้องอกโพรงมดลูก ปากมดลูก

แนะนำว่าควรไปพบแพทย์นรีเวช เพื่อหาสาเหตุที่แน่ชัดอีกครั้งค่ะ

สวัสดีครับ
อาการปวดท้องและมีเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอดนั้นไม่ได้เป็นอาการที่บ่งบอกถึงการตั้งครรภ์ครับ และอาการนั้นก็อาจเป็นผลข้างเคียงของยาคุมฉุกเฉินได้ครับ

การที่มีเพศสัมพันธ์โดยที่มีการป้องกันนั้นจะมีโอกาสตั้งครรภ์ได้น้อยมากอยู่แล้ว การรับประทานยาคุมฉุกเฉินในกรณีนี้จึงเป็นการทำให้ร่างกายได้รับผลข้างเคียงของยาคุมฉุกเฉินโดยไม่จำเป็นครับ

อย่างไรก็ตามถ้าหากมีอาการปวดท้องมากผิดปกติต่อเนื่องมาหลายวันแล้ว หมอก็แนะนำว่าควรกลับไปพบแพทย์เพื่อตรวจประเมินอาการใหม่อีกครั้งก่อนว่ามีความผิดปกติอื่นซ่อนอยู่หรือไม่ครับ

สาวนเรื่องการตั้งครรภ์นั้นก็สามารถตรวจการตั้งครรภ์ยืนยันดูใหม่อีกครั้งได้ โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะแรกหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ