February 03, 2020 20:29
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
การมีเพศสัมพันธ์ในลักษณะที่ไม่ได้เป็นคู่นอนคนเดียวแบบ 1 ต่อ 1 ถือว่ามีความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดการติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ต่างๆได้สูงครับ ไม่ว่าจะเป็นโรค HIV ซิฟิลิส ไวรัสตับอักเสบบี หนองใน เริม เป็นต้น
ในกรณีนี้หมอแนะนำว่าควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายและตรวจเชือดเพื่อประเมินหาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ชนิดต่างๆก่อนเพื่อที่จะได้ให้การรักษาได้อย่างเหมาะสมในกรณีที่เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์จริงครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
คุณหมอไม่วิเคราะห์อาการสักนิดเลยหรอครับ 😳
ตอบโดย
สุวพัชญ์ พิศาลมงคล (นพ.)
สวัสดีครับ
เรื่องความเสี่ยงของโรค HIV นั้นหากการมีเพศสัมพันธ์เมื่อปลายปี 61 ของผู้ถามไม่ได้ป้องกันก็ถือเป็นความเสี่ยงที่จะติดโรคนี้ได้ครับ เนื่องจากโรคนี้ไม่ได้มีอาการใดที่จำเพาะชัดเจนเมื่อมีความเสี่ยงจึงแนะนำให้ทำการตรวจเลือดเพื่อหาเชื้อนี้ครับ ผู้ถามมีประวัติความเสี่ยงมาปีกว่าแล้วสามารถเข้ารับการตรวจหาเชื้อได้เลยครับ โดยสามารถไปรับการตรวจเลือดหาเชื้อ HIV ได้ฟรีปีละ 2 ครั้งครับ ไปตรวจได้ที่คลินิกนิรนาม โรงพยาบาลรัฐ และหน่วยงานที่ให้บริการตรวจเลือดโดยเฉพาะครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์หลายๆชนิดนั้นโดยเฉพาะโรค HIV เมื่อติดเขื้อแล้วมักไม่มีอาการที่ชัดเจนครับ ในกรณีนี้จึงต้องประเมินโอกาสติดเชื้อจากพฤติกรรมที่มีความเสี่ยงที่ผ่านมาเป็นหลัก ไม่ใช่การประเมินจากอาการครับ ด้วยเหตุนี้หมอจึงสรุปว่ามีโอกาสที่จะติดโรคจิดต่อทางเพศสัมพันธ์ชนิดต่างๆได้และควรไปตรวจเพิ่มเติมครับ
ส่วนการที่มีแผลที่อวัยวะเพศเป็นๆหายๆนั้นก็อาจเกิดจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์หรือไม่ก็ได้ โดยสาเหตุที่เป็นไปได้ก็อาจเกิดได้จากโรค เช่น การติดเชื้อรา เริม แผลริมอ่อน การแพ้หรือระคายเคืองต่อสารบางอย่าง ซึ่งในส่วนนี้ก็ต้องอาศัยการตรวจร่างกายเพิ่มเติมจึงจะบอกสาเหตุที่แน่ชัดได้ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
สวัสดีดีครับคุณหมอ ผมขอสอบถามเรื่องโรคทางเพศสัมพันธ์หน่อยครับ ผมเคยมีเซ็กซ์ครั้งแรกกับผู้หญิงคนนึง ก่อนหน้านั้นเธอมีอะไรกับผู้ชายอีกสองคนในวันเดียวกัน (ผมเป็นคนที่ 3) เมื่อประมาณปลายปี 61 ครับ หลังจากมีเซ็กซ์กับเธอได้ไม่นาน อวัยวะเพศก็มีอาการผิดปกติครับ วันที่มีเซ็กกันรู้สึกอวัยวะเพศจะเป็นแผลเป็นจุดแดงเล็กน้อยครับ หลังจากนั้นสักอาทิตย์เป็นหนองหลายจุดครับ อาการมันเป็นจุดขาวๆ มีกลิ่นเหม็น เดาว่าเป็นเชื่อราครับ เพราะมีกลิ่นและคันบางครั้ง ผมรักษาโดยการทายาเชื้อราที่อวัยวะเพศโดยตรงครับ รักษาประมาณ 2 สัปดาห์ก็หายเป็นปกติครับ แต่มันชอบมาๆ หายๆ ครับ แต่อาการตอนหลังไม่เท่าตอนแรก หลังๆ จะเป็นกลุ่มๆ ไม่ก็มาจุดเดียวเล็กๆ ครับ ผมสังเกตว่าวันไหนอากาศร้อนๆ และถ้าวันไหนอาบน้ำครั้งเดียวมันจะมาอีกครับ ไม่มีอาการอื่นใดครับ ไม่แสบ ปัสสาวะปกติ (ยกเว้นพักหลังกลั้นปัสสาวะเพราะทำงานในออฟฟิศ ออกไปลำบากครับ) ผมค่อนข้างเครียดเพราะกลัวว่าจะเป็นโรคร้ายแรงครับ และก็ช่วยนี้รู้สึกแปลกๆ กับลูกอัณฑะครับ รู้สึกอึดอัด ไม่ปวด แต่มันรู้สึกแปลกๆ ครับ ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะน้ำหนักขึ้นหรือป่าวทปกติผมหนัก 50-55 ตอนนี้ชั่งได้ 57 ครับรู้สึก กกน. มันรัดๆ ด้วยครับ ช่วงนี้เหนื่อยง่ายด้วยครับ ผมไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย ทำงาน 9 โมงถึง 6 โมงเย็น เรียนต่อเสาร์อาทิตย์ครับ ที่ผมอยากทราบก็คือ มีโอกาสที่จะมีเชื้อ HIV หรือเป็นโรคร้ายแรงตามอาการที่กล่าวไหมครับ ขอบคุณสำหรับคำตอบล่วงหน้าครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)