May 21, 2020 21:47
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
1. ชิ้นเนื้อที่ออกมาตามรูปนั้นดูเป็นเพียงเยื่อบุโพรงมดลูกที่สามารถหลุดลอดออกมาได้ตามปกติเท่านั่น ไม่ได้มีอันตรายครับ
2. ถ้ารับประทานยาคุมต่อเนื่องมาตลอด การมีเพศสัมพันธ์ในตอนนี้ก็จะมีโอกาสตั้งครรภ์ได้เพียง 0.3-9% เท่านั้น ขึ้นอยู่กับความสม่ำเสมอในการรับประทานยาที่ผ่านมาครับ
3. การรับประทานยาคุมล่าช้าเพียงไม่กี่ชั่วโมงจะไม่ทำให้ประสิทธิภาพของยาคุมลดลงครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
วชิรวิทย์ สุทธิศักดิ์ (แพทย์ทั่วไป) (นพ.)
- เป็นเยื่อบุมดลูกตามปกติได้ครับ สังเกตอาการได้ ถ้าเลือดออกมากไม่หยุด ปวดท้องมาก พิจารณาพบเเพทย์ครับ
- กินก่อนเว้นครบ7วัน ไม่เป็นไรครับ ยาคุมกำเนิดได้ปกติครับ
- การกินเลท เป็นหลักชั่วโมง ไม่มีปัญหาครับ สำหรับยาคุมแผงรายเดือน สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้ครับ การกินต่อเนื่องเป็นเเผงที่สอง ยามีผลคุมกำเนิดต่อเนื่องครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
สวัสดีค่ะคุณหมอ หนูกินยาคุมแผงแรกวันที่ 14 เม.ย. (กินวันแรกของการมีปจด.) กินแบบ 21 เม็ด จนครบ หลังจากหยุดไป 7 วัน ปจด. มาวันแรกวันที่ 7 พ.ค. มีเยื่อบางๆหลุดออกมา ไม่มีอาการปวดใด (ไม่ได้ไปพบหมอด้วยค่ะ) อยากทราบว่า คือเยื่ออะไรค่ะ? จากนั้นกินยาคุมแผงที่ 2 แต่กินก่อนครบ 7 วันไป 2 วัน (อันที่จริงต้องกินวันที่ 12 พ.ค.) แต่กินวันที่ 10 พ.ค. จะตั้งเวลาทุกวันกินเวลา 22.00 น. แต่บางวันก็ทำนู้นนี้นั้น เลทสุดประมาณ 1.30 ชม. บางวันก็กินก่อน 10-15 น. กินจนมาถึงเม็ดที่ 7 มีเพศสัมพันธ์กับแฟน (ตั้งแต่กินแผงแรกมาจนถึงวันที่ 16 พ.ค. เพิ่งมีเพศสัมพันธ์) แฟนหลั่งใน มีโอกาสตั้งครรภ์ไหมค่ะ? การกินยาคุมเวลาเลทมีผลต่อการคุมกำเนิดไหม? ขอบคุณค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)