สวัสดีค่ะคุณหมอ จะสอบถาม ว่าการฝังเข็ม 5ปี มีโอกาสท้องไหมคะ ฝังมาได้ 3 ปีเเล้วคะ เหลืออีก 2 ปี เข็มที่ฝั่งลงไปมีการเสื่อมสภาพของการคุมไหมคะตั้งแต่ฝังเข็มมาก็ปล่อยทุกครั้งค่ะทุกเดือนรอบเดือนก้มาทุกเดือน ประจำเดือนครั้งสุดท้าย วันที่ 3-9เดือน ธันวาคม 62หมดรอบเดือน เดือนมกราคม ปี 63ยังม่มาเลยคะ เเละมีอาการดังนี้ 1.มีเวียนหัว 2 .หน้ามืดตอนลุกนั่ง 3.เหม็นกลิ่นอาหาร 4 มีคลื่นไส้ 5 นมคัดเจ็บเต้า 6 อ่อนเพลียเหนื่อยล้า

สวัสดีครับ
ในช่วงที่ฝังยาคุมอยู่และยาคุมยังไม่หมดอายุก็จะมีโอกาสตั้งครรภ์ได้เพียง 0.05% เท่านั้นครับ และการฝังยาคุมก็อาจมีผลข้างเคียงทำให้ประจำเดือนขาดหายไปได้

แต่ถ้าหากต้องการความมั่นใจจริงๆว่ามีการตั้งครรภ์หรือไม่ ก็สามารถลองตรวจการตั้งครรภ์ยืนยันดูได้ โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะแรกหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ

ส่งอาการเวียนศีรษะ หน้ามืด เหม็นอาหาร คลื่นไส้ คัดตึงเต้านม อ่อนเพลียนั้นไใ่ได้เป็นอาการที่มีความจำเพาะต่อการตั้งครรภ์ครับ และก็อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น อาหารเป็นพิษ กระเพาะอาหารอักเสบ ความผิดปกติของฮอร์โมนในร่างกาย ความเครียด ซึ่งถ้าหากอาการเหล่านี้เป็นรุนแรงหรือเป็นติดต่อกันหลายวัน หมอก็แนะนำว่าควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจประเมินอาการและให้การรักษาเพิ่มเติมครับ

การฝังยาคุมกำเนิดถือเป็นวิธีคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพสูงที่สุดในปัจจุบัน ผู้ใช้มีโอกาสตั้งครรภ์เพียง 0.05% ค่ะ และหากยังไม่ถึงกำหนดถอดยาฝังคุมกำเนิดออกก็ถือว่ามีผลป้องกันที่มีประสิทธิภาพสูงอยู่ จึงมีโอกาสตั้งครรภ์น้อยมากจนไม่น่าจะกังวลนะคะ สามารถมีเพศสัมพันธ์หลั่งในได้ตามปกติค่ะ

ผลข้างเคียงเด่น ๆ ของยาฝังคุมกำเนิด คือ อาจทำให้มีปัญหาเลือดออกกะปริบกะปรอย, ประจำเดือนมาไม่ปกติ หรือไม่มีประจำเดือน ซึ่งลักษณะและระยะเวลาที่พบอาจแตกต่างกันไปในผู้ใช้แต่ละราย

ดังนั้น การที่ไม่มีประจำเดือนมาในเดือนนี้ ก็เป็นไปได้ที่จะเป็นผลข้างเคียงจากยาฝังคุมกำเนิดนั่นเองนะคะ ส่วนอาการอื่น ๆ ที่เกิดขึ้นกับผู้ถาม ไม่ใช่อาการที่จำเพาะเจาะจงที่จะสรุปได้ว่ามีการตั้งครรภ์ค่ะ

อย่างไรก็ตาม แม้จะมีโอกาสตั้งครรภ์น้อยมาก แต่ก็ไม่มีวิธีคุมกำเนิดใดที่สามารถป้องกันได้ 100% ดังนั้น หากผู้ถามกังวล ก็สามารถตรวจให้ชัดเจนได้ โดยใช้ชุดทดสอบการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะ ตรวจในตอนเช้าหลังตื่นนอน ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วันนะคะ

และหากอาการผิดปกตินั้นรุนแรง หรือเป็นอยู่นานแล้วไม่ดีขึ้น ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจเพิ่มเติมหาสาเหตุที่แท้จริง และพิจารณาการรักษาที่เหมาะสมค่ะ