January 13, 2020 16:02
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
ยาคุมฉุกเฉินไม่มีผลป้องกันต่อเนื่องหลังรับประทานค่ะ ดังนั้น หากผู้ถามมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกันซ้ำอีกในวันนี้ ก็จะต้องรับประทานยาคุมฉุกเฉินเพิ่มอีก 1 แผงทันที หรือเร็วที่สุดที่ทำได้ ยิ่งเร็วยิ่งดี อย่างช้าไม่เกิน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์นะคะ
แต่ยาคุมฉุกเฉินมีประสิทธิภาพต่ำกว่าวิธีคุมกำเนิดมาตรฐานมากค่ะ แม้จะใช้ครบขนาดและทันเวลา ผู้ถามก็ยังมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 15 - 25% นะคะ ต่อไปจึงไม่ควรนำมาใช้แทนถุงยางอนามัย เพราะเสี่ยงที่จะป้องกันไม่สำเร็จและอาจตั้งครรภ์ไม่พร้อมได้มากกว่าค่ะ
แนะนำให้รอดูว่าจะมีประจำเดือนมาตามรอบปกติเดิมหรือไม่ แต่ไม่ต้องสนใจว่าจะมีเลือดกะปริบกะปรอยที่เป็นผลข้างเคียงจากยาภายใน 7 วันหลังรับประทานหรือเปล่า เพราะไม่ได้สำคัญอะไร
ถ้าไม่มีประจำเดือนมา หรือถ้ากังวลว่าจะตั้งครรภ์ สามารถตรวจให้ชัดเจนได้ โดยใช้ชุดทดสอบการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะ ตรวจในตอนเช้าหลังตื่นนอน ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วันนะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
นิชดา พงษ์ธัญญกรณ์ (แพทย์ทั่วไป) (พญ.)
สวัสดีค่ะ
กรณีที่มีเพศสัมพันธ์หลังทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินไปแล้ว จำเป็นต้องทานยาอีกครั้งค่ะ ยาจะไม่มีผลป้องกันล่วงหน้าค่ะ กรณีนี้ให้ทานให้เร็วที่สุดหรืออย่างช้าไปเกิน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ค่ะ ยาคุมจะป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 75-85% และสามารถตรวจการตั้งครรภ์ได้เมื่อมีเพศสัมพันธ์มาแล้ว 14 วัน และหลังจากนี้หมอแนะนำให้หาวิธีอื่นคุมค่ะ เช่น ถุงยางอนามัย ยาคุมแบบรายเดือน เป็นต้นค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
สอบถามค่ะ พอดีว่าเป้นเมนวันที่2มกราถึงวันที่6ค่ะ แล้วเผลอมีเพศสัมพันธ์กับแฟนวันที่6แล้วก็วันที่10ค่ะแต่ไม่ได้กินยาคุมกำเนิดแต่มีการแตกข้างในค่ะแล้วช่วงนี้มีอาการแปลกๆเช่นคลื่นใส้ ปวดหัว และมีอาการหลายอารมมากค่ะ นี้มีโอกาสท้องหรือป่าวค่ะ
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
ถ้าไม่ได้ป้องกันใด ๆ การมีเพศสัมพันธ์ในวันที่ 6 มกราคม ซึ่งอยู่ในช่วง "หน้า 7 - หลัง 7" มีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 24% ส่วนการมีเพศสัมพันธ์ในวันที่ 10 มกราคม ซึ่งไม่ได้อยู่ในช่วงเวลา "หน้า 7 - หลัง 7" แล้ว มีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 85% ค่ะ
หากผู้ถามต้องการลดความเสี่ยงที่มีให้น้อยลง ควรรับประทานยาคุมฉุกเฉินทันที หรือเร็วที่สุดที่ทำได้ ยิ่งเร็วยิ่งดี อย่างช้าไม่เกิน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ อาจช่วยลดความเสี่ยงจากการมีเพศสัมพันธ์ในวันที่ 10 มกราคม ให้เป็น 15 - 25% แทนได้นะคะ
และถ้าไม่มีประจำเดือนมาตามรอบปกติเดิม หรือถ้าต้องการทราบแน่ชัดว่าตั้งครรภ์หรือไม่ ควรตรวจการตั้งครรภ์ด้วยชุดทดสอบทางปัสสาวะ ในตอนเช้าหลังตื่นนอน ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วันค่ะ
ส่วนอาการคลื่นไส้และปวดศีรษะ หากมีอาการรุนแรงมาก หรือเป็นอยู่นานแล้วไม่ดีขึ้น ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจเพิ่มเติมหาสาเหตุที่แท้จริง และพิจารณาการรักษาที่เหมาะสมนะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
สอบถามค่ะ พอดีวันที่10มีเพศสัมพันธ์แบบไม่ป้องกันไป หลังจากนั้นได้ทานยาคุมฉุกเฉินเม็ดแรกไปวันที่10เวลา15:15เม็ดที่2วันที่11เวลา03:15วันแล้ววันที่13มีเพศสัมพันธ์ไม่ป้องกันอีกครั้งยายังสามารถคุมกำเนิดได้อยู่ไหมคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)