December 29, 2019 20:22
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
การดื่มน้ำร่วมกับคนที่เป็นโรคคางทูมนั้นจะทำให้เสี่ยงต่อการติดโรคคางทูมมาได้ แต่อาการเจ็บที่บริเวณหลังหูนั้นนอกจากการเป็นโรคคางทูมแล้วก็อาจเกิดจากการเป็นต่อมน้ำเหลืองอักเสบได้อีกสาเหตุหนึ่งและก็เป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยกว่ามากครับ และถ้าหากเป็นโรคต่อมน้ำเน่าอักเสบเรื่อร้งไม่หายสิ่งที่ต้องมองหาต่อก็คือการติดเชื้อหรือการเป็นมะเร็งในช่องปากและลำคอซึ่งจะเป็นสาเหตุให้มีต่อมน้ำเหลืองอักเสบเรื้อรังได้
ในกรณีนี้หมอแนะนำว่าควรไปพบแพทย์หู คอ จมูกเพื่อตรวจประเมินอาการเพิ่มเติมโดยละเอียดให้ทราบสาเหตุที่แน่ชัดก่อนเพื่อที่จะได้ให้การรักษาได้อย่างเหมาะสมครับ
ส่วนเรื่องการตรวจเลือดหาการติดเชื้อ HIV นั้นก็ควรตรวจตามที่แพทย์แนะนำเพราะอาจเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้การติดเชื้อในร่างกายไม่หายไปครับ และถ้าหากไม่ได้รับความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ HIV มานานหว่า 3 เดือนแล้วการตรวจหาการติดเชื้อ HIV ในตอนนี้ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 99.9% แล้วครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
วันที่23รู้สึกเจ็บบริเวณหลังหู วันที่24เลยไปคลีนิคนึง อาการปวดหลังหู กินข้าวไม่ได้มีไข้อ่อนๆ หมอดูแล้วบอกว่าเป็นทอมซินอักเสพ กินยาจนหมดแล้ววันที่28ไปหาหมออีกรอบหมอให้เจาะเลือดแล้วให้ยาฆ่าเชื้อมากินแทน วันนี้ผลเลือดออกค่าเลือดปกติหมอให้เจาะเลือดอีกรอบหาเอดถ้าย้อนหลัง3เดือนไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งมีเพื่อนในกลุ่มที่มีอาการเหมือนกัน แต่หมอที่เพื่อนไปหาบอกว่าเป็นคางทูมมีโอกาศติดต่อกันได้ไหม เวลากินน้ำก็จะกินด้วยกัน ตอนนี้อาการยังบวมๆอยู่เป็นก้อนแข็งๆไม่ค่อยปวด เหมือนเหนียง แต่ย้อยลงมา
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)