สวัสดีค่ะ พอดีตอนนี้ทานยาคุมกำเนิด ยี่ห้อ yaz อยู่ค่ะ พึ่งเคยทานยาคุมกำเนิดครั้งแรกค่ะ เริ่มทานประมาณวันที่ 3ของการมีประจำเดือน ซึ่ง ขณะที่ทานไปได้ประมานเม็ดที่ 11 เริ่มมีเลือดออกเล็กน้อยค่ะ จนตอนนี้ทานมาถึงเม็ดที่ 23 ก็ยังคงมีเลือดไหลทุกวันค่ะ (บางวันมากจนต้องใส่ผ้าอนามัย บางวันก็น้อยค่ะ ) และมีอาการปวดท้องคล้ายๆตอนเป็นประจำเดือนเลยค่ะ ขณะที่ทานยาคุมกำเนิดมีทานวิตามิน B และ ทาน วิสตร้า astaxanthin plus vitamin E ด้วยค่ะ ( ไม่แน่ใจว่าเกี่ยวกันหรือเปล่าคะ ) ปกติแล้วประจำเดือนมาไม่ตรงเวลาเลยค่ะ และวันที่เริ่มทานยาคุมกำเนิดวันแรก ก็เป็นช่วงที่ประจำเดือนมาเลตไปประมานอาทิตกว่าค่ะ สงใสว่า ควรหยุดทานใหมคะ แบบนี้ผิดปกติใหมคะ

1.เรื่องเลือดออกขณะกินยาคุมYaz ปกติจะมี28เม็ด ซึ่งจะมีเม็ดเเป้ง4เม็ดสุดท้าย โดยปกติจะมีเลือดประจำเดือนครับ

ส่วนเลือดกระปริบกระปรอย ที่ออกมาระหว่างเเผงเกิดจาก Yaz มีเอสโตรเจนต่ำครับ ถ้ากินยาไม่ตรงเวลาในเเต่ละวัน จะมีเลือดออกกระปริบกระปรอยได้ ซึ่งไม่ได้อันตรายครับ
เบื้องต้นแนะนำให้สังเกตอาการ ถ้าเลือดออกเเค่กระปริบกระปรอย
ให้พยายามกินยาให้ตรงเวลาเพื่อความคงที่ของฮอร์โมนครับ

ส่วนพวกวิตามินหมอว่าไม่เกี่ยวครับ
ดังนั้นสามารถกินยาคุมแผง Yaz ต่อไปก่อนได้ครับ

2. ประจำเดือนปกติมาเร็วมาช้าได้ ไม่ควรเกิน7วันครับ โดยเเต่ละรอบจะห่างประมาณ 21-35 วันเเล้วเเต่คนครับ ประจำเดือนจะมีปริมาณ 20-60 มล.ต่อวัน เเละจะมาประมาณ 2-6 วัน การที่คนไข้ประจำเดือนคลาดเคลื่อนบ้าง เเต่ยังอยู่ในช่วงนี้ ก็ยังถือว่าปกติได้ครับ

เเต่ถ้าเดิมมีความผิดปกติ เช่น ประจำเดือนคลาดเคลื่อนหลายสัปดาห์หรือเดือน ปริมาณมามากชุ่มผ้าอนามัย 4-5 แผ่นต่อวัน มานานเกิน7วัน หรือปวดท้องน้อยมากจนใช้ชีวิตประจำวันไม่ได้ ควรพบสูตินรีเเพทย์ตรวจหาสาเหตุครับ

3.เรื่องผลคุมกำเนิด ถ้าเริ่มกินแผงเเรกในวันที่1-5นับจากประจำเดือนมาวันเเรก ยาจะคุมกำเนิดได้เลยครับ(เพราะช่วงประจำเดือนจะชัวร์ว่าตอนเริ่มกินนั้นไม่ได้ท้องเเน่ๆเเละยาออกฤทธิ์ยับยั้งการตกไข่คุมกำเนิดได้เลยครับ)

1. วิตามินหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่กล่าวมา ไม่ได้ลดประสิทธิภาพของยาคุมกำเนิดค่ะ

2. อาจพบเลือดออกกะปริบกะปรอยได้ในช่วงที่รับประทานเม็ดยาฮอร์โมน (เม็ดสีชมพู) ของยาคุมยาส ในการใช้แผงแรก ๆ (1 - 3 แผงแรก) หรือเมื่อรับประทานไม่ตรงเวลาค่ะ

3. แต่ถ้าผู้ถาม...
- มีอาการผิดปกติอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น ตกขาวผิดปกติ, มีกลิ่นเหม็นคาวหรือกลิ่นรุนแรง, แสบหรือคันช่องคลอด หรือปวดท้องรุนแรง
- หรือมีเลือดออกมามากจนชุ่มผ้าอนามัยในระหว่างที่รับประทานเม็ดยาสีชมพูไม่หมด ทั้งที่รับประทานต่อเนื่องทุกวันมาตลอด

ก็ควรไปพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจเพิ่มเติมหาสาเหตุที่แท้จริง และพิจารณาการรักษาที่เหมาะสมนะคะ

4. แต่ถ้าไม่มีอาการผิดปกติอื่น ๆ ร่วมด้วย และเลือดที่ออกมานั้นเป็นเพียงแค่เลือดออกกะปริบกะปรอย ไม่ได้มามากจนชุ่มผ้าอนามัย อาจรอดูไปก่อนได้ว่าอาการดังกล่าวจะหายไปเมื่อรับประทานต่อให้ตรงเวลาสม่ำเสมอหรือไม่นะคะ

5. ส่วนประจำเดือนรอบนี้ ควรจะมาในช่วงที่รับประทานเม็ดยาหลอก (เม็ดสีขาว) ของยาคุมยาส โดยประจำเดือนมักจะมาประมาณเม็ดที่ 27 หรือ 28 ของแผงค่ะ

การมีเพศสัมพันธ์ในช่วงที่มีผลคุมกำเนิดจากยาคุมรายเดือน ผู้ใช้จะมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 0.3 - 9% นะคะ แต่ถ้ารับประทานยาคุมได้ถูกต้องและตรงเวลาสม่ำเสมอ ความเสี่ยงก็จะค่อนไปทางต่ำ คือ 0.3% ซึ่งถือว่าน้อยมากจนไม่น่าจะกังวลค่ะ

การรับประทานยาคุมที่ตรงเวลา ก็ควรจะรับประทานในเวลาเดิมในทุก ๆ วันนะคะ เช่น ถ้าเคยรับประทานในเวลา 23.00 น. ก็ควรจะรับประทานในเวลานั้นไปตลอดค่ะ

แต่การรับประทานยาคุมคลาดเคลื่อนจากเวลาปกติไปบ้างไม่เกิน 1 - 2 ชั่วโมง ไม่น่าจะกระทบกับประสิทธิภาพของยาคุมมากนัก โดยเฉพาะถ้าไม่ได้รับประทานผิดเวลาบ่อย ๆ

สำหรับยาคุมยาส ถ้าไม่ขาดยาติดต่อกันตั้งแต่ 2 วันขึ้นไป ก็ยังถือว่ามีผลคุมกำเนิดต่อเนื่องและมีเพศสัมพันธ์หลั่งในได้ตามปกติค่ะ แต่ประสิทธิภาพอาจไม่สูงเท่ากับผู้ที่รับประทานถูกต้องและตรงเวลาสม่ำเสมอ

ดังนั้น ถ้าผู้ถามต้องการให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการป้องกันการตั้งครรภ์ และลดปัญหาเลือดออกกะปริบกะปรอยที่เกิดจากความแปรปรวนของฮอร์โมน ต่อไปก็ควรจะรับประทานยาคุมให้ตรงเวลาสม่ำเสมอนะคะ