คือผมมีตุ่มที่พุงคันๆแสบๆขึ้นมาเล็กๆตอนแรกนึกว่าสิวเลยบีบพผ่านมาประมาณอาทิตย์นึงมันเหมือนกับแผลเป็นสีน้ำตาลดำๆคือผมกลัวว่าจะเป็นมะเร็งนะครับอายุแค่ 16 เอง จะไปตรวจที่โรงพยาบาลแต่แม่ก็ไม่พาไปบอกว่ามันไม่เป็นอะไร ผมเลยต้องมาถามหมอแทนนี่แหละครับตอนนี้อาการไม่มีอะไรเป็นพิเศษ ไม่คันไม่เจ็บไม่อะไรทั้งนั้นช่วยหน่อยนะครับ ไม่ค่อยออกแดดด้วยนะครับเพราะผมไม่ค่อยไปไหนมาไหน

สวัสดีครับ
อาการแสบคันที่ตุ่มที่เกิดขึ่นก่อนหน้านี้อาจเป็นอาการที่เกิดจากการอักเสบของต่อมไขมันหรือรูขุมขนได้ครับ ซึ่งจากรูปที่แนบมาก็น่าจะเป็นรอยดำที่ถูกทิ้งไว้หลังการอักเสบ และก็มีฝักจะจางลงไปได้เองเมื่อเวลาผ่านไปครับ

ในกรณีนี้หมอแนะนำว่าไม่ต้องกังวลและไม่ควรแกะเกาที่บริเวณตุ่มดำที่เกิดขึ้นเพราะจะเป็นการทำให้รอยดำเป็นมากขึ้นและไม่หายไปครับ แต่ถ้าตุ่มดังกล่าวทีการขยายขนาดลุกลามมากขึ้น หมอก็แนะนำว่าควรไปพบแพทย์ผิวหนังเพื่อตรวจประเมินอาการและให้การรักษาเพิ่มเติมครับ

สวัสดีครับ
จากรูปที่ส่งมานั้นเป็นลักษณะของรอยที่เกิดจากการอักเสบครับ เมื่อหายแล้วจะเป็นลักษณะดังกล่าว ซึ่งอาจจะหายเร็วหรือช้าขึ้นอยู่กับแต่ละคนครับ บางคนอาจเป็นแผลเป็นได้ รอยโรคดังกล่าวไม่มีลักษณะที่คล้ายมะเร็งผิวหนังครับ แนะนำให้สังเกตไปก่อน และไม่เกาหรือแกะเพิ่มเติมครับ หากมีขนาดรอยใหญ่ขึ้น เป็นตุ่มนูนขึ้น หรืออาการผิดปกติใดๆแนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจและให้คำแนะนำเพิ่มเติมครับ

จากภาพอาจเกิดได้จากรูขุมขนอักเสบ ต่อมไขมันอักเสบ อาจมีการติดเขื้อได้ครับ ทำให้มีอาการคัน เจ็บแสบ เมื่อหายแล้ว จะมีสีที่เข้มขึ้นภายหลังจากการอักเสบ

เบื้องต้น อาจทายา เช่น TA cream เพื่อลดรอยด่างดำ หรือ dermatrix cream เพื่อลบรอยแผลเป็นครับ

หากแผลไม่ใหญ่ขึ้น หรือมีเลือดออก หรือมีน้ำหนักลดลงผิดปกติ อาจไม่เหมือนมะเร็งครับ

จึงควรหปพบแพทย์เพื่อตรวจรอยโรคและหาสาเหตุครับ

จากรูปโอกาสที่จะเป็นมะเร็งผิวหนังมีน้อยครับ

มะเร็งผิวหนังมักจะมีรอยโรคที่มีลักษณะขอบไม่ชัด ขนาดโตขึ้นเรื่อยๆ มักไม่ได้เกิดเป็นรอยดำดังกล่าวภายหลังการอักเสบครับ โอกาสเป็นมะเร็งจึงเป็นไปได้น้อยมากครับ

ถ้าตุ่มมีแนวโน้มที่จะยุบลงเรื่อยๆก็ถือว่าเป็นภาวะที่ปกติ และโอกาสที่จะเป็นโรคที่ร้ายแรงก็มีได้น้อยครับ

จริงๆแล้วถ้ามีเพียงตุ่มเล็กๆตามรูปและก็กำลังจะยุบลงเรื่อยๆแล้วก็มักไม่มีความจำเป็นต้องทายาใดๆครับ

ไม่มีความจำเป็นต้องทายาครับ ถ้าตุ่มกำลังจะยุบลงเรื่อยๆอยู่แล้วก็จะเป็นการทำให้ได้รับผลข้างเคียงจากยาโดยไม่จำเป็นครับ