หนูอยากที่จะตายค่ะ หนูรู้สึกมาตลอดตั้งแต่ย้ายโรงเรียนนี้ รู้สึกเหมือนหนูแปลกแยกหนูไม่มีใครอยู่ข้างๆเลย หนูเคยมีเพื่อนสนิทถึง3คนแต่หนูกลับรู้สึกว่าหนูไม่ได้เป็นเพื่อนเขา เหมือนทั้งสามคนจะอยู่ด้วยกันตลอดทิ้งหนูไว้ หนูออกมาอยู่อีกกลุ่มก็ยังรู้สึกเช่นเดิมค่ะพอไม่เล่าให้ที่บ้านฟังที่บ้านก็มีแต่ซ้ำเติม เพราะหนูที่เป็นคนผิดทำให้เขาไม่พอใจนอกจากนี้ก็จะมีเรื่องของคุณครูค่ะบางอย่างที่หนูเห็นกับคุณครูว่ามันไม่ถูกจึงจะขอโต้แย้งในบางทีแต่ครูทำเหมือนกับหนูเป็นตัวประหลาดคิดไม่เหมือนชาวบ้าน(ส่วนใหญ่)แล้วจึงให้เกรดหนูน้อยๆ(หนูเป็นนัเรียนทุนเรียนดีที่ต้องเก็บเกรดค่ะ)พอเกรดออกมาไม่ดีที่บ้านมักจะบอกว่าไม่เป็นไรด้วยสายตาที่ใครๆก็รู้ว่ามันเป็นหนูรู้สึกว่าไม่มีใครอยู่ข้างหนูเลยเป็นมาแบบนี้เกือบสองปีแล้ว พอเมื่อวานมาเจอเหตุการณ์ที่หนูโดนเพื่อนที่หนูไว้ใจอยากระบายด้วยเอาคำพูดหนูไปเล่าให้คนอื่นฟังแบบใส่สีตีไข่อีก ทำไมหนูต้องเจออะไรแบบนี้ตลอดเลยคะ ทำไมคนแย่ๆแบบหนูถึงต้องเกิดมาด้วย หนูอยากหายไปตลอดสองปีมานี้หนูต้องเจอกับเรื่องแบบนี้ซ้ำๆ รู้สึกโดดเดี่ยวมาตลอด ระบายให้ใครฟังก็มีแต่คนเอาไปเล่าแบบอื่น ทำให้หนูดูแย่ในสายตาคนอื่น หนูร้องไห้มาตลอด หนูรู้สึกโดดเดี่ยว มันทำให้หนูอยากหายไป หนูควรจะทำยังไงดีคะหนูไม่อยากรู้สึกแบบนี้อยากเป็นหนูที่มีความสุขเหมือนเมื่อก่อนมันทรมานมากเลยค่ะ

สวัสดีครับ
การที่มีความรู้สึกแย่กับตัวเองจนมีความคิดอยากตายต่อเนื่องมา 2 ปีนั้นอาจเสี่ยฝต่อการเป็นโรคซึมเศร้าได้ครับ

อาการของโรคซึมเศร้านั้นจะประกอบด้วยการมีอารมณ์เศร้าหรือเบื่อหน่ายไม่อยากทำอะไรติดต่อกันนานอย่างน้อย 2 สัปดาห์ร่วมกับมีอาการ
- นอนไม่หลับหรืออยากนอนมากขึ้น
- เบื่ออาหารหรืออยากอาหารมากขึ้น
- อ่อนเพลียไม่มีแรง
- ไม่มีสมาธิ
- ทำอะไรช้าลงหรือกระสับกระส่ายมากขึ้น
- มีความคิดในแง่ลบ คิดโทษตัวเองบ่อยๆ หรือเห็นคุณค่าในตัวเองน้อยลง
- มีความคิดอยากทำร้ายตัวเองหรือฆ่าตัวตาย
ยิ่งถ้ามีอาการในลักษณะนี้หลายๆข้อร่วมกับอาการที่เกิดขึ้นมีผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน การเรียน หรือความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง ก็จะยิ่งมีโอกาสเป็นโรคซึมเศร้าได้มากขึ้นครับ

ในกรณีนี้หมอแนะนำว่าควรไปพบจิตแพทย์เพื่อตรวจประเมินอาการเพิ่มเติมยืนยันสาเหตุให้แน่ชัดก่อนเพื่อที่จะได้ให้การรักษาได้อย่างเหมาะสมครับ

ส่วนในระหว่างนี้ถ้าต้องการคำปรึกษาในเบื้องต้นเพิ่มเติมก่อนไปพบจิตแพทย์ก็สามารถโทรไปที่สายด่วนสุขภาพจิตเบอร์ 1323 ได้อีก 1 ช่องทางครับ

สวัสดีค่ะ

จากที่เล่ามามีประวัติอยากฆ่าตัวตาย รู้สึกโดดเดี่ยว ร้องไห้ตลอด อาจสงสัยเป็นโรคซึมเศร้าได้ค่ะ โดยเฉพาะมีความคิดอยากฆ่าตัวตายเป็นอาการหนึ่งที่อันตรายของโรคนี้ค่ะ สำหรับโรคซึมเศร้าจะมีอาการดังต่อไปนี้
1.มีอารมณ์เศร้าตลอดเวลา
2.ความสนใจสิ่งต่างๆลดลง
3.การนอนหลับผิดปกติ
4.รู้สึกไร้ค่าหรือรู้สึกผิด
5.เหนื่อยง่ายหรือไม่ค่อยมีแรง
6.เบื่ออาหาร
7.การเคลื่อนไหวช้าลง
8.มีความคิดอยากฆ่าตัวตาย
9.มีปัญหากับการจดจ่ออยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง
และถ้ามีหลายๆข้อที่กล่าวไปข้างต้นเป็นเวลาอย่างน้อย2สัปดาห์ จะคิดถึงโรคซึมเศร้ามากขึ้นค่ะ ซึ่งกรณีนี้หมอแนะนำควรไปพบจิตแพทย์เพื่อทำการตรวจประเมินยืนยันอีกรอบ และถ้าเป็นจริงโรคนี้จริงจะได้ทำการจิตบำบัดรักษาต่อไปค่ะ

และเบื้องต้นสามารถโทรปรึกษาสายด่วนสุขภาพจิตได้ที่เบอร์ 1323 ได้ค่ะ

สวัสดีค่ะ

จากที่เล่ามามีประวัติอยากฆ่าตัวตาย รู้สึกโดดเดี่ยว ร้องไห้ตลอด อาจสงสัยเป็นโรคซึมเศร้าได้ค่ะ โดยเฉพาะมีความคิดอยากฆ่าตัวตายเป็นอาการหนึ่งที่อันตรายของโรคนี้ค่ะ สำหรับโรคซึมเศร้าจะมีอาการดังต่อไปนี้
1.มีอารมณ์เศร้าตลอดเวลา
2.ความสนใจสิ่งต่างๆลดลง
3.การนอนหลับผิดปกติ
4.รู้สึกไร้ค่าหรือรู้สึกผิด
5.เหนื่อยง่ายหรือไม่ค่อยมีแรง
6.เบื่ออาหาร
7.การเคลื่อนไหวช้าลง
8.มีความคิดอยากฆ่าตัวตาย
9.มีปัญหากับการจดจ่ออยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง
และถ้ามีหลายๆข้อที่กล่าวไปข้างต้นเป็นเวลาอย่างน้อย2สัปดาห์ จะคิดถึงโรคซึมเศร้ามากขึ้นค่ะ ซึ่งกรณีนี้หมอแนะนำควรไปพบจิตแพทย์เพื่อทำการตรวจประเมินยืนยันอีกรอบ และถ้าเป็นจริงโรคนี้จริงจะได้ทำการจิตบำบัดรักษาต่อไปค่ะ

และเบื้องต้นสามารถโทรปรึกษาสายด่วนสุขภาพจิตได้ที่เบอร์ 1323 ได้ค่ะ

สวัสดีค่ะ

จากที่เล่ามามีประวัติอยากฆ่าตัวตาย รู้สึกโดดเดี่ยว ร้องไห้ตลอด อาจสงสัยเป็นโรคซึมเศร้าได้ค่ะ โดยเฉพาะมีความคิดอยากฆ่าตัวตายเป็นอาการหนึ่งที่อันตรายของโรคนี้ค่ะ สำหรับโรคซึมเศร้าจะมีอาการดังต่อไปนี้
1.มีอารมณ์เศร้าตลอดเวลา
2.ความสนใจสิ่งต่างๆลดลง
3.การนอนหลับผิดปกติ
4.รู้สึกไร้ค่าหรือรู้สึกผิด
5.เหนื่อยง่ายหรือไม่ค่อยมีแรง
6.เบื่ออาหาร
7.การเคลื่อนไหวช้าลง
8.มีความคิดอยากฆ่าตัวตาย
9.มีปัญหากับการจดจ่ออยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง
และถ้ามีหลายๆข้อที่กล่าวไปข้างต้นเป็นเวลาอย่างน้อย2สัปดาห์ จะคิดถึงโรคซึมเศร้ามากขึ้นค่ะ ซึ่งกรณีนี้หมอแนะนำควรไปพบจิตแพทย์เพื่อทำการตรวจประเมินยืนยันอีกรอบ และถ้าเป็นจริงโรคนี้จริงจะได้ทำการจิตบำบัดรักษาต่อไปค่ะ

และเบื้องต้นสามารถโทรปรึกษาสายด่วนสุขภาพจิตได้ที่เบอร์ 1323 ได้ค่ะ

ในกรณีที่ยังไม่สะดวกที่จะบอกผู้ปกครองก็สามารถไปพบจิตแพทย์ด้วยตัวเองก่อนได้ครับ และในกรณีนี้การไปพบจิตแพทย์ก็มีความสำคัญเพราะจะมีส่วนช่วยให้อารมณ์และความคิดในแง่บต่างๆกลับมาดีขึ้นได้

แต่สุดท้ายแล้วถ้าได้รับความร่วมมือจากผู้ปกครองในการรักษาด้วยก็ย่อมเป็นสิ่งที่ดีกว่าครับ