กินยาเลื่อน ปจด. ตอนที่ประจำเดือนมาวันแรก กินตอนกลางคืน1เม็ด แต่ตอนเช้าไม่ต้องไปทำธุระแล้วเลยหยุดกินเลือดยังไหลอยู่แต่น้อยค่อยข้างกระปริบกระปอย ปกติเป็นคนทานยาคุใแบบแผลทุกเดือน เลยเริ่มทานยาคุมแผงใหม่เม็ดแรก แต่ยังมีเลือกกระปริบกระปอยอยู่ อยากทราบว่า ปจด. จะมาอีกมั้ย หรือเลือดที่กระปริบกระปอยนี้กี่วันถึงจะหมดไปคะ ปล.ยังทานยาเม็ดที่2 ของยาคุมแผงปกตินะคะ

สวัสดีครับ
ถ้าหากมีการเริ่มรับประทานยาคุมแบบรายเดือนไปแล้วก็มีความเป็นไปได้ที่ประจำเดือนของรอบเดือนนี้จะไม่มีแล้วหรืออาจมาในปริมาณที่น้อยกว่าปกติแทนครับ ส่วนประจำเดือนของรอบเดือนต่อไปรั้นก็จะมาในช่วงเวลาดังนี้
- ถ้าหากรับประทานยาคุมชนิด 21 เม็ดประจำเดือนก็จะมาในช่วงที่เว้นการรับประทานยา 7 วันก่อนเริ่มรับประทานยาแผงใหม่
- ถ้าหากรับประทานยาคุมชนิด 28 เม็ดประจำเดือนก็จะมาในช่วงที่รับประทานยาเม็ดแป้ง 4-7 เม็ดสุดท้ายของแผงขึ้นอยู่กับยี่ห้อของยาที่รับประทาน

แต่ถ้าหากมีความกังวลเรื่องการตั้งครรภ์อยู่ก็สามารถตรวจการตั้งครรภ์ยืนยันดูได้ครับ โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะแรกหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ

ถ้าประจำเดือนมาแล้ว ก็ไม่มีประโยชน์ที่จะใช้ยาเลื่อนประจำเดือนแล้วค่ะ

ผลของยาเลื่อนประจำเดือนที่ผู้ถามรับประทานตอนกลางคืน 1 เม็ด ไม่สามารถหยุดเลือดประจำเดือนได้ เลือดที่ออกกะปริบกะปรอยในเช้าวันถัดมาจึงไม่น่าจะเป็นผลจากการรับประทานยาเลื่อนประจำเดือนนะคะ

ประจำเดือนรอบนี้ของผู้ถามจึงควรจะมาตามปกติจนกว่าจะหมดไปเองค่ะ

ซึ่งประจำเดือนปกติควรจะมีปริมาณมากจนชุ่มผ้าอนามัย 2 - 3 แผ่น/วัน และมาต่อเนื่องกัน 3 - 7 วัน และสำหรับผู้ที่ใช้ยาคุมชนิดฮอร์โมนรวม ควรจะมีประจำเดือนมาในช่วงปลอดฮอร์โมนของแผง โดยมักจะมาหลังใช้เม็ดยาฮอร์โมนหมดไปแล้ว 2 - 3 วัน หรือคลาดเคลื่อนเล็กน้อยนะคะ

การต่อยาคุมรายเดือนแผงปัจจุบันของผู้ถาม เป็นการต่อก่อนกำหนดใช่มั้ยคะ หากเลือดที่ออกมานั้นเป็นประจำเดือนจริง ๆ ก็ไม่มีปัญหาค่ะ ถือว่ามีผลคุมกำเนิดต่อเนื่องกันทุกวัน

อย่างไรก็ตาม ถ้าเลือดที่ออกมาไม่ตรงกับลักษณะของประจำเดือนตามที่กล่าวไปข้างต้น แนะนำให้ตรวจการตั้งครรภ์ด้วยชุดทดสอบทางปัสสาวะ หลังตื่นนอนตอนเช้าของวันพรุ่งนี้ด้วยนะคะ ส่วนคืนนี้ หากต้องการรับประทานยาคุมรายเดือนต่อก็สามารถทำได้ตามปกติค่ะ

และเนื่องจากไม่ทราบแน่ชัดว่าเลือดกะปริบกะปรอยดังกล่าวเกิดขึ้นจากสาเหตุใด จึงระบุแน่ชัดไม่ได้ว่าจะหายไปในกี่วัน

ดังนั้น ถ้ามีอาการผิดปกติอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น ตกขาวผิดปกติ, มีกลิ่นเหม็นคาวหรือกลิ่นรุนแรง, แสบหรือคันช่องคลอด หรือปวดท้องรุนแรง หรือถ้าพบเลือดกะปริบกะปรอยนานผิดปกติ ก็ควรไปพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจเพิ่มเติมหาสาเหตุที่แท้จริง และพิจารณาการรักษาที่เหมาะสมนะคะ