March 09, 2020 14:43
ตอบโดย
วชิรวิทย์ สุทธิศักดิ์ (แพทย์ทั่วไป) (นพ.)
ไม่มีผลต่อเนื่องนะครับ ยาคุมฉุกเฉินใช้สำหรับลดโอกาสตั้งครรภ์ในการมีเพศสัมพันธ์ครั้งก่อนหน้าที่จะกินเท่านั้นครับ หากมีเพศสัมพันธ์อีกหลังรับประทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินครบสองเม็ดหรือหลังกินเเบบเม็ดเดียว จะเป็นเป็นช่วงที่ฤทธิ์ของยาคุมกำเนิดฉุกเฉินลดลง มีโอกาสตั้งครรภ์ครับ
ดังนั้นก็ควรเริ่มยาคุมฉุกเฉินแผงใหม่ได้ครับแต่อาจเพิ่มอาการข้างเคียงจากยา เช่น คลื่นไส้ อาเจียน เจ็บเต้านม เลือดประจำเดือนแปรปรวน หรือมีเลือดออกผิดปกติ ดังนั้นหากต้องการมีเพศสัมพันธ์ต่อไปแนะนำให้ใช้ถุงยางอนามัย
หลังรับประทานยาคุมฉุกเฉินจะมีเลือดออกทางช่องคลอดได้ประมาณภายใน1 สัปดาห์หลังกินยา ซึ่งมักไม่ใช่เลือดประจำเดือน (อาจจะมากระปริบกระปรอย หรือ ไม่มีก็ได้ครับ ไม่ได้บอกว่าท้องหรือไม่ท้องครับ)
ส่วนประจำเดือนจริงๆจะมาไกล้เคียงกับรอบประจำเดือนปกติ เเต่อาจมาเร็วหรือช้ากว่ารอบเดือนปกติได้ 1-3สัปดาห์ ดังนั้น หากเกิน3สัปดาห์ไปเเล้วจากวันที่ประจำเดือนควรจะมา ก็มีโอกาสหลุดท้องครับให้ตรวจการตั้งครรภ์ครับ
หากต้องการรีบตรวจการตั้งครรภ์ ตรวจได้เร็วที่สุด2สัปดาห์หลังมีเพศสัมพันธ์ ระหว่างรอประจำเดือนจริงๆมา ถ้ามีเพศสัมพันธ์ใช้ถุงยางอนามัยไปก่อนครับ ถ้าชัวร์ว่าไม่ท้องคือประจำเดือนมาเเล้ว เเนะนำเลือกวิธีคุมกำเนิด เช่น ยาคุมรายเดือน ฝังยาคุม ฉีดยาคุม หรือใช้ถุงยางอนามัยครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
นิชดา พงษ์ธัญญกรณ์ (แพทย์ทั่วไป) (พญ.)
สวัสดีค่ะ
ยาคุมฉุกเฉินที่ทานไปแล้วจะไม่มีผลแล้วค่ะ ถ้ามีเพศสัมพันธ์อีกต้องทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินอีกค่ะ กรณีนี้ให้รีบทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินให้เร็วที่สุด หรือไม่เกิน 120 ชั่วโมง หลังมีเพศสัมพันธ์ ยาคุมจะป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 75-85% และสามารถตรวจการตั้งครรภ์ได้เมื่อมีเพศสัมพันธ์ผ่านไปแล้ว 14 วันค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
ยาคุมฉุกเฉินไม่มีผลคุมกำเนิดต่อเนื่องหลังรับประทาน ยาที่รับประทานไปแล้วในวันที่ 5 มีนาคมจึงไม่สามารถลดความเสี่ยงจากการมีเพศสัมพันธ์ในวันที่ 7 มีนาคมได้นะคะ และถ้าไม่ป้องกันใด ๆ เลยก็ถือว่าผู้ถามมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 85% ค่ะ
แนะนำให้รับประทานยาคุมฉุกเฉินแผงใหม่ทันทีในตอนนี้ หรือเร็วที่สุดที่ทำได้ ยิ่งเร็วยิ่งดี อย่างช้าไม่เกิน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ค่ะ อาจช่วยลดความเสี่ยงให้เป็น 15 - 25% ได้นะคะ
ประสิทธิภาพของยาคุมฉุกเฉินต่ำกว่าวิธีคุมกำเนิดมาตรฐาน การนำมาใช้เพียงเพราะไม่อยากใส่ถุงยางอนามัย มีความเสี่ยงที่จะป้องกันไม่สำเร็จและอาจตั้งครรภ์ไม่พร้อมได้มากกว่าที่ควรจะเป็น ดังนั้น ในระหว่างที่รอให้ประจำเดือนมา หากจะมีเพศสัมพันธ์อีก ควรใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้ง เพราะถ้าใช้ถูกวิธี และไม่มีปัญหารั่วซึมหรือฉีกขาด จะมีโอกาสตั้งครรภ์เพียงแค่ 2% ซึ่งถือว่าน้อยมากจนไม่น่าจะกังวล
ถ้าไม่ตั้งครรภ์ ประจำเดือนของผู้ถามควรจะมาตามรอบปกติเดิม หรือคลาดเคลื่อนไม่มาก ส่วนเลือดกะปริบกะปรอยที่เป็นผลข้างเคียงจากยา อาจพบภายใน 7 วันหลังรับประทาน หรืออาจไม่พบเลยก็ได้ ไม่ได้สำคัญอะไรค่ะ
ถ้าไม่มีประจำเดือนมา หรือถ้ากังวลว่าจะตั้งครรภ์ ควรตรวจด้วยชุดทดสอบการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะ ในตอนเช้าหลังตื่นนอน ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วันนะคะ
แต่ถ้ามีประจำเดือนมาตามรอบปกติแล้ว หากคาดว่าจะมีเพศสัมพันธ์อีกเรื่อย ๆ และไม่ต้องการป้องกันด้วยถุงยางอนามัย แต่ยังไม่พร้อมที่จะมีบุตร แนะนำให้ไปพบสูตินรีแพทย์เพื่อพิจารณาวิธีคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพสูง, ปลอดภัย และเหมาะสมกับผู้ถามค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ประจำเดือนมาวันที่ 25 ก.พ. ช่วงไข่ตกที่อาจจะท้องได้จะอยู่ช่วงวันที่เท่าไหร่คะ
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
โดยปกติ ควรจะมีไข่ตกในช่วงกึ่งกลางของรอบเดือนค่ะ ซึ่งถ้าไม่ทราบรอบประจำเดือนของผู้ถาม อีกทั้งไม่ทราบประวัติว่าที่ผ่านมาผู้ถามมีประจำเดือนมาตรงเวลาสม่ำเสมอหรือไม่ ก็คงไม่อาจระบุได้ว่าช่วงที่ควรจะมีไข่ตกจะอยู่ประมาณวันที่เท่าไหร่นะคะ
แต่ถ้าสมมติว่าผู้ถามมีประจำเดือนมาทุก ๆ 28 วัน และมาตรงเวลาสม่ำเสมอ ถ้าวันแรกที่ประจำเดือนมารอบล่าสุดคือ 25 กุมภาพันธ์ ก็น่าจะมีไข่ตกประมาณวันที่ 9 มีนาคมค่ะ ซึ่งใกล้เคียงช่วงที่ผู้ถามมีเพศสัมพันธ์ จึงถือว่าเสี่ยงมากที่อสุจิจะผสมกับไข่และทำให้ตั้งครรภ์ได้นะคะ
อย่างไรก็ตาม วันที่มีไข่ตกจริงอาจคลาดเคลื่อนไปจากที่คาดการณ์ไว้ได้ ดังนั้น ถ้ายังไม่พร้อมที่จะมีบุตร จึงควรคุมกำเนิดด้วยวิธีที่มีประสิทธิภาพสูง และใช้ให้ถูกต้องและเหมาะสม เพื่อลดความเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์ให้เหลือน้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ไม่ว่าจะมีเพศสัมพันธ์ในช่วงเวลาที่คาดว่าจะมีไข่ตกหรือไม่ก็ตามค่ะ
ในกรณีของผู้ถาม เมื่อมีเพศสัมพันธ์ไปแล้วโดยไม่ป้องกันในวันที่ 7 มีนาคม ในตอนนี้จึงควรลดความเสี่ยงที่มีด้วยการรับประทานยาคุมฉุกเฉินให้เร็วที่สุดที่ทำได้ ไม่ให้เกิน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์นะคะ
และระหว่างที่รอให้ประจำเดือนมา หากจะมีเพศสัมพันธ์ซ้ำอีก ควรใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งค่ะ
แต่ถ้ามีประจำเดือนมาตามรอบปกติแล้ว หากต้องการจะคุมกำเนิดด้วยวิธีอื่น ๆ ที่มีประสิทธิภาพมากกว่าการใช้ถุงยางอนามัย ก็ควรไปพบสูตินรีแพทย์เพื่อพิจารณาวิธีที่เหมาะสมกับผู้ถามนะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
แล้วช่วงที่อสุจิจะผสมกับไข่ จะใช้เวลากี่ชั่วโมงคะ จะมีโอกาสที่อสุจิ อยู่ถึงวันที่ 9 มี.ค. มั้ยคะ
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
ถ้าอสุจิกับไข่ได้ออกมาอยู่ในตำแหน่งเดียวกันแล้วก็จะเกิดการปฏิสนธิได้ทันทีครับ และอสุจิที่เข้าไปในช่องคลอดแล้วก็จะอยู่ได้นานประมาณ 2-3 วันจึงมีโอกาสที่อสุจิจะอยู่รอปฏิสนธิกับไข่ไปถึงวันที่ 9 มีนาคมได้ครับ ในตอนนี้จึงควรรีบรับประทานยาคุมฉุกเฉินให้เร็วที่สุดก่อนเพื่อให้โอกาสตั้งครรภ์ลดลงเหลือน้อยที่สุดครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ถ้ากินยาคุมฉุกเฉินแล้ว เริ่มกินยาคุมแบบรายเดือนได้เลยมั้ยคะ
แล้วถ้าเกิดการตั้งครรภ์. การกินยาแบบรายเดือนจะมีผลกระทบต่อการตั้งครรภ์มั้ยคะ
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
การเริ่มใช้ยาคุมรายเดือนในตอนนี้ไม่มีประโยชน์ เพราะไม่สามารถช่วยลดความเสี่ยงที่ผู้ถามมีได้ค่ะ และยิ่งจะทำให้สับสนถ้าประจำเดือนจะเลื่อนช้าออกไปมากขึ้น
นอกจากนี้ ถ้ายาคุมฉุกเฉินป้องกันไม่สำเร็จและมีการตั้งครรภ์ขึ้นมา ต่อให้รับประทานยาคุมรายเดือนต่อ แต่การตั้งครรภ์นั้นก็จะยังคงอยู่เหมือนเดิมนะคะ
ดังนั้น ถ้าต้องการลดความเสี่ยงที่มี ควรรับประทานยาคุมฉุกเฉินโดยเร็วที่สุดที่จะทำได้ค่ะ แล้วรอดูว่าจะมีประจำเดือนมาตามรอบปกติเดิมหรือไม่
ถ้าประจำเดือนมาแล้ว หากต้องการคุมกำเนิดด้วยฮอร์โมน แนะนำให้ไปพบสูตินรีแพทย์เพื่อพิจารณาสูตรยาคุมรายเดือนหรือวิธีคุมกำเนิดอื่น ๆ ที่มีเหมาะสมกับผู้ถาม
แต่ถ้าไม่มีประจำเดือนมา ก็ควรตรวจการตั้งครรภ์ตามที่แนะนำไปข้างต้นนะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
มีเพศสัมพันธ์(ปล่อยใน)เมื่อวันที่ 5 มีนาคม แล้วกินยาคุมฉุกเฉินภายใน 2 ชั่วโมง แต่พอวันที่ 7 มีนาคม มีเพศสัมพันธ์อีกครั้ง(ปล่อยใน) จึงขอสอบถามว่า ยาคุมฉุกเฉินที่กินเมื่อวันที่ 5 มีนาคม ยังจะมีผลมาถึงวันที่ 7 มั้ยคะ (ประจำเดือนมาล่าสุด 25 ก.พ.)
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)