สวัสดีค่ะหนูมีประจำเดือนไปเมื่อวันที่3 ก.พ. หมดประมาณวันที่6ก.พ. แล้วมีเพศสัมพันธ์กับแฟนเมื่อวันที่9ใส่ถุงยาง แต่หนูกินยาคุมฉุกเฉินแบบ1เม็ดไป วันนี้15ก.พ. มีเลือดออกคล้ายประจำเดือนคือมาเยอะเหมือนประจำเดือนเลยแบบนี้ผิดปกติมั้ยค่ะ แล้วจะมีโอกาสท้องมั้ยค่ะ หนูไม่สบายใจเลยค่ะ ขอบคุณค่ะ

1.ถ้าดูจากวัน ก็ไม่น่าเป็นช่วงตกไข่ เเละใส่ถุงยาง จริงๆถ้าถุงไม่ขาดไม่รั่วก็ไม่จำเป็นต้องกินยาคุมฉุกเฉินเเต่อย่างใดครับ

2.ถ้ากินไปเเล้วก็ไม่เป็นไรครับ เเต่จะมีผลข้างเคียงได้
หลังรับประทานยาคุมฉุกเฉินจะมีเลือดออกทางช่องคลอดได้ประมาณภายใน1 สัปดาห์หลังกินยา ซึ่งมักไม่ใช่เลือดประจำเดือน (อาจจะมากระปริบกระปรอย หรือ ไม่มีก็ได้ครับ ไม่ได้บอกว่าท้องหรือไม่ท้องครับ)
ส่วนประจำเดือนจริงๆจะมาไกล้เคียงกับรอบประจำเดือนปกติ เเต่อาจมาเร็วหรือช้ากว่ารอบเดือนปกติได้ 1-3สัปดาห์ ครับ

สวัสดีครับ
หารมีเพศสัมพันธ์ที่ได้ใช้ถุงยางอนามัยป้องกันแล้วจะมีโอกาสตั้งครรภ์ได้เพียง 2% เท่านั้นถ้าใช้ถุงยางอนามัยได้อย่างถูกต้องครับ และในกรณีนี้จริงๆแล้วก็ไม่จำเป็นต้องรับประทานยาคุมฉุกเฉินอีก

หลังจากที่รับประทานยาคุมฉุกเฉินไปแล้วประจำเดือนก็จะยังมาตามกำหนดตามปกติและมีลักษณะที่ใกล้เคียงกับประจำเดือนตามปกติอยู่ครับ แต่ก็อาจมีผลข้างเคียงทำให้มีเลือดออกกระปริดกระปรอยในช่วงประมาณ 1 สัปดาห์หลังรับประทานยาและทำให้สับสนกับประจำเดือนตามปกติได้

ถ้าหากต้องการความมั่นใจจริงๆก็สามารถลองตรวจการตั่งครรภ์ยืนยันได้ โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะแรกหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ

1. ถ้าใช้ถุงยางอนามัยถูกวิธี และไม่มีปัญหารั่วซึมหรือฉีกขาด จะมีโอกาสตั้งครรภ์เพียงแค่ 2% ซึ่งถือว่าน้อยมากจนไม่น่าจะกังวล และไม่จำเป็นจะต้องรับประทานยาคุมฉุกเฉินนะคะ

2. ยาคุมฉุกเฉินไม่ใช่ยาเร่งประจำเดือนค่ะ หากไม่ตั้งครรภ์ ผู้ถามควรจะมีประจำเดือนมาตรงตามรอบปกติเดิม หรือคลาดเคลื่อนไม่มาก ซึ่งประจำเดือนปกติควรจะมีปริมาณมากจนชุ่มผ้าอนามัย 2 - 3 แผ่น/วัน และมาต่อเนื่องกัน 3 - 7 วันนะคะ

แต่อาจพบผลข้างเคียงจากยาคุมฉุกเฉินภายใน 7 วันหลังรับประทาน ในลักษณะของหยดเลือดซึมหรือเลือดกะปริบกะปรอยค่ะ ซึ่งไม่ได้สำคัญอะไรนะคะ และไม่ได้บ่งชี้ว่าจะตั้งครรภ์หรือไม่

ดังนั้น ถ้าเลือดที่ออกมาเป็นเพียงแค่เลือดออกกะปริบกะปรอย ไม่ได้มามากจนชุ่มผ้าอนามัย และไม่มีอาการผิดปกติอื่น ๆ ร่วมด้วย ก็น่าจะเป็นเพียงแค่ผลข้างเคียงจากยา แนะนำให้รอดูต่อไปว่าจะมีประจำเดือนมาหรือไม่นะคะ

แต่ถ้าผู้ถามมีเลือดออกมามากจนชุ่มผ้าอนามัย ทั้งที่ห่างจากประจำเดือนรอบล่าสุดไม่ถึง 2 สัปดาห์ หรือถ้ามีอาการผิดปกติอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น ตกขาวผิดปกติ, มีกลิ่นเหม็นคาวหรือกลิ่นรุนแรง, แสบหรือคันช่องคลอด หรือปวดท้องรุนแรง ถือว่าไม่ปกตินะคะ ควรไปพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจเพิ่มเติมหาสาเหตุที่แท้จริงและพิจารณาการรักษาที่เหมาะสมค่ะ

ถ้าหากเลือดมาในลักษณะที่เหมือนกับประจำเดือนในรอบเดือนก่อนๆและมาตรงตามรอบที่ควรจะเป็นก็มีโอกาสที่จะเป็นประจำเดือนได้ครับ แต่ถ้าหากไม่แน่ใจว่าใช่ประจำเดือนปกติหรือไม่ ก็สามารถตรวจการตั้งครรภ์ยืนยันดูตามวิธีที่หมอแนะนำไปได้ครับ

รอบประจำเดือนปกติควรจะเป็น 24 - 35 วันนะคะ (หรือบางแหล่งอ้างอิงก็จะใช้ 21 - 35 วัน)

ดังนั้น ในกรณีของผู้ถาม ถ้าประจำเดือนรอบล่าสุดมา 3 - 6 กุมภาพันธ์ แล้วมีเลือดออกมามากจนชุ่มผ้าอนามัยในวันนี้ (15 กุมภาพันธ์) ก็ถือว่าผิดปกติมากนะคะ เพราะห่างจากประจำเดือนรอบก่อนเพียงแค่ 12 วันเท่านั้น

ซึ่งการเสียเลือดถี่เกินไป อาจทำให้เสี่ยงที่จะเกิดผลเสียต่อสุขภาพ โดยเฉพาะถ้ายังมีปัญหานี้อีกเรื่อย ๆ และเนื่องจากยาคุมฉุกเฉินไม่ได้มีผลเร่งประจำเดือน ดังนั้น ผู้ถามควรไปพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจเพิ่มเติมหาสาเหตุที่แท้จริงของการมีเลือดออกมาผิดปกติดังกล่าว เพื่อพิจารณาแนวทางแก้ไขที่เหมาะสมนะคะ