คือ มีเพศสัมพันธ์ โดยไม่ใช้ถุงยางแล้วหลั่งนอก ในวันที่ 4 ม.ค.63 เวลาประมาณ 20.30 ซึ่งเดือนที่แล้ว มีประจำเดือน วันแรกวันที่ 25 ธ.ค. 62 และหมดในวันที่ 31 ธ.ค62 ซึ่งนับดูแล้วใกล้กับวันที่ไข่ตก คือวันที่ 7ม.ค. 63 - ซึ่งในวันที่ 6 ม.ค. 63 ได้ทานยาคุมฉุกเฉินไป ตอนเช้า 7.00 น เม็ดแรก และเม็ด2 หลังจาก12 ชั่วโมง ซึ่งมีอาการเวียนหัวนิดหน่อยและปวดท้องน้อย - วันที่ 7 ม.ค 63 มีอาการ มีมูกเหมือนไข่ขาวออกมา และเจ็บแปล๊บๆที่ท้องน้อยด้านซ้าย ซึ่งไม่แน่ใจว่าจะเป็นช่วงที่ไข่ตกหรือไม่ ตามที่คาดไว้ในเบื้องต้น - วันที่ 8 ม.ค 63 มีอาการปวดท้องน้อยหน่วงๆแต่ไม่มาก ซึ่งการทานยาคุมฉุกเฉินในช่วงที่บอกนี้จะช่วยลดการตั้งครรภ์ได้หรือไม่ค้า

สวัสดีครับ
การรับประทานยาคุมฉุกเฉินนั้นจะมีผลยับยั้งการตกไข่ได้ทำให้โอกาสตั้งครรภ์จากการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกันจะลดลงได้ 75-85% แม้ในช่วงนั้นจะเป็นช่วงที่อาจมีการตกไข่ ยาคุมฉุกเฉินก็จะยังป้องกันการตั้งครรภ์ได้ครับ

หมอแนะนำว่าในตอนนี้ยังไม่ต้องกังวลเรื่องการตั้งครรภ์มาก แต่ให้รอสังเกตประจำเดือนต่อไปก่อน ถ้าหากประจำเดือนขาดหายไปก็ให้ลองตรวจการตั้งครรภ์ดู โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะแรกหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ

สวัสดีค่ะ
ยาคุมฉุกเฉินถ้าทานภายใน 120 ชั่วโมงหลังจากมีเพศสัมพันธ์ สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ ได้ประมาน 85 % ค่ะ

สำหรับอาการปวดหน่วงท้องน้อย เกิดได้จาก
-การติดเชขื้อในโพรงมดลูก
-ผลข้างเคียงของยาคุมกำเนิด

ถ้ามีอาการปวดท้องมากขึ้น ควรไปพบแพทย์นรีเวชตรวจเพิ่มเติมค่ะ

การทานยาคุมฉุกเฉินภายใน120ชั่วโมงจะลดการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ได้ ครับ

โดยสามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้80%

ซึ่งจะยังมีโอกาสตั้งครรภ์

จึงควรตรวจการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะ หลังเสี่ยงตั้งแต่14วันขึ้นไป

ยาคุมฉุกเฉินมีผลข้างเคียงทำให้เลือดออกได้หลังทาน1-7วันครับ