January 23, 2020 23:15
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
แม้ว่าไม่มีวิธีคุมกำเนิดใดที่สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 100% แต่ถ้าใช้ถุงยางอนามัยถูกวิธี และไม่มีปัญหารั่วซึมหรือฉีกขาด จะมีโอกาสตั้งครรภ์เพียงแค่ 2% ซึ่งถือว่าน้อยมากจนไม่น่าจะกังวล และไม่จำเป็นจะต้องรับประทานยาคุมร่วมด้วยค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
นิชดา พงษ์ธัญญกรณ์ (แพทย์ทั่วไป) (พญ.)
สวัสดีค่ะ
สำหรับการมีเพศสัมพันธ์โดยใช้ถุงยางอนามัยจะมีประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 82-98% หรือสามารถเกิดการตั้งครรภ์ได้ 2-18% กรณีที่ถึงยางอนามัยไม่มีการรั่ว แตก หรือขาด ถุงยางไม่หมดอายุ ใช้ถุงยางถูกต้อง โอกาสตั้งครรภ์จะน้อยและไม่จำเป็นต้องทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินค่ะ และถ้าต้องการจะทราบว่าตั้งครรภ์หรือไม่นั้น สามารถตรวจการตั้งครรภ์ได้หลังมีเพศสัมพันธ์ไปแล้ว 14 วันค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
สุวพัชญ์ พิศาลมงคล (นพ.)
สวัสดีครับ
ก่อนอื่นต้องทราบว่าไม่มีการคุมกำเนิดวิธีใดสามารถป้องกันได้ 100% ครับ การมีเพศสัมพันธ์โดยการใช้ถุงยางอนามัยในการคุมกำเนิดนั้นมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ประมาณ 2-18% ครับ หากใช้อย่างถูกวิธีโอกาสการตั้งครรภ์ถือว่าน้อยครับ ไม่ต้องกังวลครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
คือมีเพศสัมพันธ์แต่ใส่ถุงแล้วไม่ได้กินยาคุมจะท้องมั้ยคะ? กังวลมากค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)