มีเพศ​สัมพันธ์​กันแล้วถุงขาดมีกี่เปอร์เซ็น​ที่จะไม่ท้อง(กินยาชื่อ VAMP​ก่อนมี​เพศ​สัมพันธ์)​ หลังมีเพศ​สัมพันธ์​แล้วถุงขาด (กินยาคุมฉุกเฉิน​ชื่อ​ Postinor​หรือโพ​สติ​นอร์) กินไปตอน4โมงหมอบอกว่ากืนอีกทีตี3 ยังต้องทำไรอีกไหมถึงจะไม่ต้องท้อง

สวัสดีครับ
ถ้าหากถุงยางอนามัยมีการฉีกขาดระหว่างมีเพศสัมพันธ์ก็จะมีโอกาสตั้งครรภ์ได้สูงมากครับ ในกรณีนี้การรับประทานยาคุมฉุกเฉินจึงถือว่าเป็นสิ่งที่เหมาะสมเพราะจะทำให้ช่วยลดโอกาสตั้งครรภ์ได้ 75-85%

ทั้งนี้การรับประทานยาคุมฉุกเฉินที่ถูกต้องนั้นก็จะต้องรับประทานยาทีละ 1 เม็ดห่างกัน 12 ชั่วโมงครับ นั่นคือถ้ารับประทานยาคุมเม็ดแรกไปตอน 4 โมงเย็นก็จะต้องรับประทานยาอีกเม็ดตอนเวลาตี 4 ครับ

หลังจากรับประทานยาคุมฉุกเฉินครบแล้วก็ไม่ต้องทำอะไรเพิ่มเติมอีกครับ และก็ให้รอสังเกตดูว่าประจำเดือนจะมาตามปกติหรือไม่ ถ้าหากประจำเดือนขาดหายไปนานก็ให้ลองตรวจการตั้งครรภ์ดู โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะแรกหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ

1. เมื่อถุงยางฉีกขาดก็จะไม่มีผลป้องกันจากถุงยางที่ใช้แล้ว จึงมีโอกาสตั้งครรภ์ได้มากหากไม่มีการป้องกันใด ๆ อีกค่ะ แต่เมื่อใช้ยาคุมฉุกเฉินเพื่อลดความเสี่ยงดังกล่าว หากใช้ครบเร็วและครบขนาดก็อาจช่วยลดความเสี่ยงให้เป็น 15% แทนได้

จึงควรรับประทานโพสตินอร์ต่อให้ครบขนาดนะคะ ซึ่งหากใช้ตามวิธีดั้งเดิม ควรจะรับประทานห่างกัน 12 ชั่วโมง ดังนั้น หากรับประทานเม็ดแรกไปในเวลา 16.00 น. ก็จะต้องรับประทานเม็ดที่สองในเวลา 04.00 น. ของวันรุ่งขึ้นค่ะ

หากต้องการวิธีป้องกันฉุกเฉินที่มีประสิทธิภาพสูงกว่านี้ แนะนำให้ปรึกษาสูตินรีแพทย์ที่โรงพยาบาลตามสิทธิ์ หรือโรงพยาบาลใกล้บ้าน เพื่อพิจารณาการใส่ "ห่วงอนามัยชนิดหุ้มทองแดง" ภายใน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ เพราะจะมีประสิทธิภาพในการป้องกันสูงมาก โดยผู้ใช้มีโอกาสตั้งครรภ์เพียงแค่ 0.6 - 0.8% เท่านั้น และยังใช้เป็นวิธีคุมกำเนิดชั่วคราวต่อได้อีกนาน 3 - 10 ปี ขึ้นกับรุ่นของห่วงอนามัยที่ใช้ค่ะ

2. ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารดังกล่าวไม่ได้ลดประสิทธิภาพของยาคุมฉุกเฉิน และไม่มีข้อมูลว่าจะเพิ่มความเสี่ยงของการตั้งครรภ์ค่ะ

ค่ามในการใส่ห่วงอนามัยจะอยู่ที่ประมาณ 1000-3000 บาทขึ้นอยู่กับแต่ละโรงพยาบาลครับ

ห่วงอนามัยจะมีทั้งชนิดหุ้มทองแดงและชนิดเคลือบฮอร์โมนค่ะ ซึ่งในปัจจุบัน แนะนำให้ใช้เฉพาะชนิดหุ้มทองแดงในการป้องกันฉุกเฉิน โดยต้องใส่ภายใน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์

แต่บางโรงพยาบาลอาจมีเฉพาะชนิดใดชนิดหนึ่งไว้บริการเท่านั้น (เพราะไม่ได้เน้นการใช้เพื่อป้องกันฉุกเฉิน แต่เป็นการใช้เพื่อคุมกำเนิดชั่วคราวตามปกติ ซึ่งห่วงชนิดเคลือบฮอร์โมนจะมีประสิทธิภาพสูงกว่า) จึงอาจไม่มีห่วงชนิดหุ้มทองแดงก็ได้

ดังนั้น แนะนำให้สอบถามเบื้องต้นจากโรงพยาบาลที่คาดว่าจะไปใช้บริการด้วยนะคะว่ามีห่วงอนามัยชนิดหุ้มทองแดงไว้บริการหรือเปล่า หากมี ก็สามารถสอบถามค่าใช้จ่ายคร่าว ๆ ซึ่งอาจแตกต่างกันตามรุ่นของห่วงอนามัย, อัตราการคิดค่าบริการในแต่ละสถานบริการ รวมถึงสิทธิ์การรักษาค่ะ

ต้องขออภัยหากไม่มีการตอบ หรือมีการตอบช้านะคะ เนื่องจากระบบการแจ้งเตือนขัดข้อง ทำให้ไม่ทราบว่ามีการสอบถามเพิ่มเติมในกระทู้เดิม หากไม่ได้บังเอิญเปิดดูซ้ำอีก
..
..
ในกรณีของแฟนผู้ถาม ถ้าต้องการผลคุมกำเนิดฉุกเฉิน ต้องใช้ "ห่วงอนามัยชนิดหุ้มทองแดง" ค่ะ ซึ่งก็มีหลายรุ่นนะคะ โดยระยะเวลาในการคุมกำเนิดของแต่ละรุ่นจะแตกต่างกัน แต่ไม่มั่นใจว่าโรงพยาบาลที่แฟนของผู้ถามสะดวกจะไปรับบริการจะมีห่วงอนามัยชนิดนี้หรือไม่ และมีรุ่นใดไว้บริการ (เพราะบางโรงพยาบาลอาจมีใช้เฉพาะห่วงอนามัยชนิดเคลือบฮอร์โมนซึ่งมีประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดปกติที่สูงกว่า แต่ยังไม่มีการแนะนำให้ใช้เพื่อคุมกำเนิดฉุกเฉิน)

ดังนั้น แนะนำให้สอบถามโดยตรงจากโรงพยาบาลที่คาดว่าจะไปใช้บริการนะคะ

แต่ถ้าไม่มี หรือไม่สะดวกที่จะใช้วิธีดังกล่าว ก็ให้รับประทานยาคุมฉุกเฉินครบขนาดและตรงเวลาก็พอแล้วค่ะ เพียงแต่ประสิทธิภาพจะไม่ได้สูงมากนัก เพราะฉะนั้น ถ้าไม่มีประจำเดือนมาตามรอบปกติเดิม หรือถ้ากังวลว่าจะตั้งครรภ์ ก็ควรตรวจการตั้งครรภ์ด้วยชุดทดสอบทางปัสสาวะ ในตอนเช้าหลังตื่นนอน ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วันนะคะ