สวัสดีค่ะคุณหมอ มีเรื่องกังวลใจอยากสอบถามค่ะ ดิฉันมีประจำเดือนครั้งสุดท้าย วันที่ 16-20 กุมภาพันธ์ หลังจากนั้นได้มีเพศสัมพันธ์กับแฟนวันที่ 28-29 กุมภาพันธ์ โดยไม่ได้ป้องกัน ไม่ได้มีการกินยาคุม ส่วนแฟนหลั่งนอกค่ะ และต่อมาได้คาดการณ์ว่าประจำเดือนครั้งถัดไปควรจะมาช่วง 15-18 มีนาคมแต่ก็ไม่มา และได้มีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายกับแฟนวันที่ 25 มีนาคมค่ะ ไม่ได้ป้องกันโดยการใส่ถุงยางอนามัย ดิฉันไม่ได้กินยาคุมค่ะ และแฟนหลั่งนอกค่ะ นับจากวันที่ประจำเดือนมาครั้งสุดท้ายเมื่อ 16-20 กุมภาพันธ์ จนถึงปัจจุบันนี้ ณ วันที่ 7 เมษา แล้ว ประจำเดือนก็ยังไม่มาค่ะ แต่ยังไม่ได้มีการทดสอบการตั้งครรภ์ ดิฉันมีโอกาสตั้งครรภ์มั้ยคะจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ควรตรวจสอบการตั้งครรภ์ดีหรือไม่คะ

1.มีโอกาสท้องนะครับ ดูจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ วันที่28 29กพ มีโอกาสเป็นวันตกไข่ได้ครับ
การมีเพศสัมพันธ์ไม่ได้ใส่ถุงยางเเม้ไม่ได้หลั่งใน เเต่มีการหลั่งนอก ซึ่งมีการสอดใส่อวัยวะเพศ มีโอกาสท้องครับ เนื่องจากขณะสอดใส่อาจมีอสุจิปนออกมากับน้ำหล่อลื่นฝ่ายชายได้ครับ

2. เเนะนำให้ตรวจการตั้งครรภ์เพื่อเเยกภาวะท้องออกไปก่อน ถ้าตรวจเเล้วไม่ท้อง ก็เว้นสักสัปดาห์ ค่อยตรวจซ้ำครับ ถ้าไม่ท้องจริงๆ เเล้วประจำเดือนยังไม่มาเป็นเดือนๆให้ไปพบสูตินรีเเพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุครับ

- วิธีการเก็บปัสสาวะตรวจก็มีผลต่อการแปลผลมาก
ผลจะแม่นที่สุดควรจะต้องเป็นปัสสาวะครั้งแรกตอนเช้าที่เพิ่งตื่นนอนมาเพราะจะเป็นปัสสาวะที่เข้มข้น ถ้ามี hCG อยู่ก็จะตรวจพบได้ง่ายกว่า
- ชุดตรวจส่วนใหญ่จะแสดงผลเป็นขีดๆ โดยขีดแรกเป็นเส้น control จะต้องขึ้นเสมอไม่ว่าจะท้องหรือไม่ ถ้าไม่ขึ้นแปลว่าที่ตรวจนั้นเสีย ส่วนขีดที่สองถึงจะเป็นตัวบอกว่ามี hCG อยู่
ถ้าจุ่มเเล้วขึ้นสองขีดทันทีเเม้จะจาง ก็น่าจะท้องครับ โดยเฉพาะถ้าก่อนหน้านี้ มีเพศสัมพันธ์ไม่ได้ป้องกันเเล้วประจำเดือนขาดครับ
เเต่ถ้าจุ่มเเล้วตอนเเรก ขึ้นขีดเดียวเเล้วทิ้งไว้นานค่อยขึ้นสองขีด เเบบนี้เชื่อถือไม่ได้ครับ อาจเป็นผลบวกลวง ควรตรวจใหม่ครับ

สวัสดีครับ
การมีเพศสัมพันธ์โดยการหลั่งนอกนั้นอาจมีอสุจิที่ปนอยู่ในน้ำหล่อลื่นของผู้ชายหลุดลอดเข้าไปปฏิสนธิกับไข่ได้ทำให้มีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 4-22% ครับ

ในกรณีนี้จึงควรลองตรวจการตั้งครรภ์ยืนยันดูก่อน โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะแรกหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ

แต่ถ้าหากตรวจแล้วไม่พบการตั้งครรภ์ประจำเดือนก็อาจมาช้าได้จากสาเหตุอื่นๆ เช่น
- ไม่มีการตกไข่
- ระดับฮอร์โมนในเลือดที่ผิดปกติ
- ภาวะมีถุงน้ำหลายใบในรังไข่ (PCOS)
- ไทรอยด์เป็นพิษ
- ความเครียด
- การออกกำลังกายอย่างหักโหม
- น้ำหนักตัวที่มากหรือน้อยเกินไป
เป็นต้น
ซึ่งในกรณีนี้ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจประเมินหาสาเหตุ ถ้าหากประจำเดือนขาดหายไปนานกว่า 3 เดือนครับ