สวัสดีค่ะคุณหมอ ดิฉันได้ฉีดยาคุมกำเนิดวันที่13/02/63 หลังฉีดไม่มีอาการผิดปกติใดๆ แต่เมื่อวันที่ 1/03/63 มีเลือดออกคล้ายประจำเดือนแต่มีนิดเดียว แต่พอเมื่อวันที่ 3เลือดออกเยอะคล้ายประจำเดือน มีสีเข้มเป็นสีน้ำตาล อยากทราบว่าประจำเดือนมาหรือผลข้างเคียงของยาคะ 2. ฉีดยาคุมกำเนิดแล้ว สามารถหลั่งในได้ไหมคะ

1. อยากทราบว่าประจำเดือนมา หรือผลข้างเคียงของยาคะ

ถ้าผู้ถามฉีดยาคุมชนิดที่ฉีดทุก 1 เดือน ก็ควรจะมีประจำเดือนมาในสัปดาห์ที่ 4 ของการใช้ หรือประมาณวันที่ 22 - 28 นับจากวันที่ฉีดยาค่ะ ซึ่งวันที่ผู้ถามมีเลือดออกมามากก็ใกล้เคียงกับช่วงเวลาดังกล่าว หากไม่มีอาการผิดปกติใด ๆ ร่วมด้วย ก็เป็นไปได้ว่าจะเป็นประจำเดือนที่มาตามรอบนั่นเอง

แต่ถ้าผู้ถามฉีดยาคุมชนิดที่ฉีดทุก 3 เดือน ผลข้างเคียงเด่น ๆ คือ มีเลือดออกกะปริบกะปรอย, ประจำเดือนมาไม่ปกติ หรือไม่มีประจำเดือน ถ้าไม่มีอาการผิดปกติอื่น ๆ ร่วมด้วย และมีเลือดออกมามากจนชุ่มผ้าอนามัย ก็เป็นไปได้ว่าจะเป็นประจำเดือนเช่นกัน ซึ่งต่อไปอาจไม่มี หรืออาจมาไม่ตรงตามรอบปกติก็ได้นะคะ

อย่างไรก็ตาม ถ้ามีอาการผิดปกติอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น ตกขาวผิดปกติ, มีกลิ่นเหม็นคาวหรือกลิ่นรุนแรง, แสบหรือคันช่องคลอด หรือปวดท้องรุนแรง หรือถ้ามีเลือดออกมามากหรือนานผิดปกติ (ต้องใช้ผ้าอนามัยมากกว่าวันละ 3 แผ่น หรือเป็นต่อเนื่องกันนานกว่า 7 วัน) ก็ควรไปพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจเพิ่มเติมหาสาเหตุที่แท้จริง และพิจารณาการรักษาที่เหมาะสมค่ะ

2. ฉีดยาคุมกำเนิดแล้ว สามารถหลั่งในได้ไหมคะ

เมื่อมีผลป้องกันจากยาคุมที่ฉีดอยู่ ผู้ถามสามารถมีเพศสัมพันธ์หลั่งในได้ตามปกติค่ะ โอกาสตั้งครรภ์คือ 0.2 - 6% ตามผลป้องกันปกติ หรือค่อนไปทางต่ำ คือ 0.2% ซึ่งถือว่าน้อยมากจนไม่น่าจะกังวล ถ้าฉีดยาคุมตรงตามนัดสม่ำเสมอนะคะ

สวัสดีครับ
หลังจากฉีกยาคุมอาจมีผลข้างเคียงทำให้มีเลือดออกกระปริดกระปรอยทางช่องคลอดได้ครับ เลือดที่ออกมานี้จึงอาจเป็นผลข้างเคียงของการฉีดยาคุมได้

นอกจากนี้
- ถ้าหากที่ผ่านมาเป็นการฉีดยาคุมชนิด 3 เดือนก็มีโอกาสที่จะทำประจำเดือนขาดหายไปได้ครับ
- ถ้าหากฉีดยาคุมชนิด 1 เดือนก็จะมีประจำเดือนมาในช่วงสัปดาห์ที่ 4 ของการฉีดยาคุมได้ นั่นคือในช่วง 1 สัปดาห์ที่จะถึงนี้ก็ควรมีประจำเดือนมาก่อนไปฉีดยาคุมเข็มต่อไปครับ

ส่วนโอกาสตั้งครรภ์ในระหว่างการฉีดยาคุมจะอยู่ที่ 0.2-6% เท่านั้นครับ ในกรณีนี้จึงสามารถมีเพศสัมพันธ์โดยการหลั่งในได้ครับ